svasdssvasds

Power Green Camp ชวนตะลุยบ้านขุนสมุทรจีน Unseen เมืองไทยในสมุทรปราการ

Power Green Camp ชวนตะลุยบ้านขุนสมุทรจีน Unseen เมืองไทยในสมุทรปราการ

ชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน แหล่งท่องเที่ยว Unseen ในจังหวัดสมุทรปราการ กำลังเผชิญกับปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งและขยะจำนวนมหาศาล บ้านปู จึงชวนเยาวชนสำรวจเรียนรู้หาวิธีแก้ไขให้ชุมชน

วันที่ 21 ตุลาคม 2565 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม Power Green Camp ค่ายเยาวชนเรียนรู้วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม นอกห้องเรียน มาเป็นปีที่ 17 แล้ว และปีนี้ได้พาน้องๆนักเรียน ไปเรียนรู้ที่ ชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน  อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

ปัญหาที่ชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน ต้องเผชิญ

พื้นที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่ปากอ่าวและเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำป่าชายเลน ที่ได้รับกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่ง และขยะที่ถูกทับถมมารวมกันทั้งจากบนบกและทะเล

กิจกรรมแรกที่เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และสนุกไปพร้อมกันคือ กิจกรรมปล่อยหอยคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยการนำลูกหอยที่ยังไม่โตเต็มที่จากตลาดหลาย ๆ แหล่งในจังหวัดสมุทรปราการมาปล่อย และหลังจากนี้อีก 4 เดือนถึงจะเติบโตพร้อมเป็นซีฟู้ดให้กับมนุษย์ นั่นจึงหมายความว่า การจับสัตว์น้ำวัยอ่อนยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน

Power Green Camp ชวนตะลุยบ้านขุนสมุทรจีน Unseen เมืองไทยในสมุทรปราการ นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษจากวิทยากรชุมชน นั่นคือ คุณเอ๊ะ ที่มาเล่าให้ฟังว่า ชุมชนบ้านขุนสมุทรจีนนั้นเป็นอย่างไรบ้างและกำลังเผชิญกับปัญหาอะไรอยู่ ในปัจจุบัน พื้นที่ริมอ่าวและพื้นที่ริมทะเล ถูกมองว่าเป็นห้องครัวของโลกที่มีทรัพยากรทางทะเลและสัตว์นานาชนิดอยู่เต็มไปหมด แต่ปัจจุบันจากห้องครัวหรือตระกร้าข้าวของอาเซียน พื้นที่แห่งนี้กลับกลานเป็นถังขยะให้กับประเทศไปเสียแล้ว เนื่องจากมีขยะลอยมายังชุมชนริมน้ำเยอะมาก

น้าเอ๊ะ วิทยากรชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

การจัดการขยะจึงต้องจัดการเองโดยคนในชุมชน คุณเอ๊ะเล่าว่า น้ำทะเลจะหนุนสูงหรือพัดเข้ามาสูงก็ต่อเมื่อฤดูหนาว และพอน้ำหนุนขึ้นมาทำให้ชุมชนต้องเจอกับระดับน้ำที่ขึ้นถึงบ้านเรือนประชาชน บางคนปรับตัว บางคนปรับตัวไม่ได้ เช่น กรมอนามัยของหมอและพยาบาล สมัยก่อนมีบ้านพักหมอ แต่เดี๋ยวนี้ได้พังลงจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ พวกหมอจึงต้องย้ายออกไปอยู่ข้างนอก

ขยะตามป่าชายเลนชุมชน ส่วนเรื่องการกัดเซาะชายฝั่ง จากการที่คุณเอ๊ะอยู่กับชุมชนนี้มานาน จึงมองว่า การกัดเซาะชายฝั่งเกิดจากการสร้างเขื่อน ที่ทำให้ตะกอนจากต้นน้ำถูกกักไว้ระหว่างทาง ทำให้ไม่มีตะกอนดินหลงเหลือลงมายังพื้นที่แห่งนี้ ทำให้พื้นที่ป่าชายเลนมีน้อย น้ำทะเลก็ได้พัดเอาเศษดินเลนและพื้นดินอื่นๆออกไปอยู่เสมอ จึงไม่มีดินตะกอนมาช่วยถมพื้นดินชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง

อีกปัญหาหนึ่งของการเรือคลาดหอย ที่มาแย่งทรัพยากรหอยของอาชีพประมงที่นี่ไป  ซึ่งทำให้นอกเหนือจากหอยแล้ว ยังทำให้พื้นที่เสียสมดุลและถูกแย่งประชากรหอยให้ลดลงด้วย จนชาวบ้านไม่สามารถหาไปขายได้ อีกทั้ง ช่วงก่อนหน้านี้ การระบาดของโควิด-19 ทำให้ชุมชนต้องปิดรับนักท่องเที่ยวไปกระทันหัน แม้ธรรมชาติจะฟื้นฟู แต่ก็ขาดแหล่งรายได้สำคัญอย่างนักท่องเที่ยวไป

Power Green Camp ชวนตะลุยบ้านขุนสมุทรจีน Unseen เมืองไทยในสมุทรปราการ

บ้านขุนสมุทรจีนนี้มีความพิเศษคือ แต่ก่อนพื้นที่แห่งนี้ไม่มีถนนที่จะนำนักท่องเที่ยวนั่งรถเข้ามาได้ มีแต่น้ำและต้องโดยสารทางเรือเท่านั้น และการขนของต่าง ๆ ก็จะทำได้แค่ทางเรือ ดังนั้นเรื่องขยะที่มาสะสมที่นี่จึงจัดการยากมากเนื่องจากต้องขนออกไปทางเรือ และมันเยอะมาก ทำให้เสียค่ามช้จ่ายจากการขนส่งขยะออกไปจำนวนมากเช่นกัน

สิ่งที่ชุมชนต้องการ คือความช่วยเหลือจากทางภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาชุมชนให้ยั่งยืน มีแผนการจัดการขยะและแผนการท่องเที่ยวอย่างยืนให้ชุมชนสามารถยืนต่อได้เอง เนื่องจากชุมชนแห่งนี้มีโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนอย่างสงบ ๆ พร้อมนั่งเรือชมวิวริมน้ำได้ และสัตว์ที่นี่ก็ยังมีเยอะ เลยอยากเชิญชวนให้มาเที่ยวกันเยอะ ๆ

Power Green Camp ชวนตะลุยบ้านขุนสมุทรจีน Unseen เมืองไทยในสมุทรปราการ ในด้านเสียงตอบรับของเยาวชนถึงการใส่ใจสิ่งแวดล้อม

เด็ก ๆ ที่มาร่วมโครงการนี้ ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่กำลังเรียนอยู่มัธยมศึกษาและอยากเรียนรู้วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมนอกห้องเรียน เด็ก ๆ ได้มาเรียนรู้ว่า นอกห้องเรียนนั้นมีเรื่องที่เราจำเป็นต้องให้ความสนใจมาก อย่างที่ห้องเรียนไม่เคยบอกมาก่อน นั่นคือเรื่องของภาวะโลกร้อน น้อง ๆ ทราบกันดีว่า โลกของพวกเขากำลังมีปัญหาและเด็ก ๆ มีความตั้งใจในการอยากมีส่วนร่วมช่วยแก้ไขปัญหาชุมชน

มุมมองของผู้ดำเนินโครงการ

คุณรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส-สื่อสารองค์กรของบริษัทบ้านปู จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า โครงการกิจกรรมค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม Power Green Camp ปีนี้จัดเป็นปีที่ 17 แล้ว ทางองค์กรเห็นความสำคัญของการศึกษาของเด็กและสิ่งแวดล้อม เพราะหลายพื้นที่ในประเทศไทยยังมีปัญหาเรื่องการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย บ้านปูจึงได้ร่วมมือกับคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ในการเข้าไปดูปัญหาให้กับชุมชน วิธีวางแผนและการนำเยาวชนมาเรียนรู้ เพื่อให้มองเห็นปัญหาสิ่งแวดล้อมชุมชนว่าเป็นอย่างไรมีอะไรบ้าง แล้วแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ด้วยการเรียนรู้แบบสมัครใจ ที่น้อง ๆ สมัครกันเข้ามา

นอกจากนี้ บ้านปูยังได้มีการติดตามผลหลังจบกิจกรรมของน้อง ๆ แต่ละคนด้วย ว่าทำอะไรต่อไป บางคนไปเป็นอาจารย์ด้านสิ่งแวดล้อม บางคนได้สานต่อสิ่งที่ได้เรียนรู้สู่คนรอบข้าง บางคนได้เป็นวิศวกรด้านสิ่งแวดล้อม นั่นจึงทำให้บ้านปูถูมิใจมาก เรื่องการผลิตเมล็ดต้นกล้าเพื่อสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศไทยได้

related