svasdssvasds

Central Pattana ปี 66 เตรียมขยายอาณาจักร มุ่งสู่ Ecosystem ที่ดีต่อคน-โลก

Central Pattana ปี 66 เตรียมขยายอาณาจักร มุ่งสู่ Ecosystem ที่ดีต่อคน-โลก

"เซ็นทรัลพัฒนา" กางแผนการลงทุนระยะ 5 ปี ยกระดับกรุงเทพให้เป็นหนึ่งในมหานครของโลก พร้อมสร้าง Ecosystem ที่ดีต่อคนดีต่อโลก ขยายธุรกิจศูนย์การค้า โรงแรม ที่พักอาศัยทั่วไทย

#สปริงสรุปให้ “เซ็นทรัลพัฒนา” เตรียมขยายจักรวาลเซ็นทรัลทั่วประเทศอีกครั้ง หลังเผชิญวิกฤตโควิด-19และการท่องเที่ยวซบเซาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้จะกลับมาอีกครั้งพร้อมย้ำว่า จะเป็นเบอร์หนึ่งด้านอสังหาฯไทย ด้วยโมเดล “The Ecosystem for All” ยกระดับชีวิต ด้วยแผนลงทุน 5 ปีต่อเนื่องกับงบลงทุน 136,000 ล้านบาท

เซ็นทรัลพัฒนากางแผนขยายธุรกิจ 2566 โดยวันนี้ (9 มีนาคม 2566) “เซ็นทรัลพัฒนา (Central Pattana)” หรือบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งด้านอสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงาน โรงแรม และห้างสรรพสินค้า โดยวันนี้เซ็นทรัลพัฒนาได้กางแผนกลยุทธ์ธุรกิจที่จะดำเนินการต่อในปี 2566-2570 โดยจะเน้นการขยายสาขาสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น และเสริมศักยภาพเครือเดิมให้มีความโดดเด่นมากขึ้น

สำหรับปีนี้ เซ็นทรัลพัฒนา มาในรูปแบบโมเดลแห่งอนาคต “The Ecosystem for All” เชื่อมโยงทุกธุรกิจภายในเครือให้มีความแข็งแกร่งขึ้น ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนทั้งในรูปแบบของ Online & Offline ครบ 360 องศา เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ทีมผู้บริหารเซ็นทรัลพัฒนา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

3 กลยุทธ์สำคัญ แกนหลักของ Retail

  1. The 360 –Degree Centre of Life : ศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์สังคม ทั้ง Shop, Eat, Work, Play, Stay, Live ตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน ทุกที่ ทั่วประเทศ แผนลงทุนภายใน 5 ปี เพิ่มทราฟฟิคในโครงการจาก 1.2 ล้านคน เป็น 1.8 ล้านคนต่อวัน หรือคิดเป็น 657 ล้านคนต่อปี โดยแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2566-2570) จะลงทุนทุกธุรกิจรวมกว่า 135,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละ 25,000-30,000 ล้านบาท โดยจะทำให้จำนวนโครงการมิกซ์ยูสเพิ่มขึ้นจาก 18 โครงการในปี 2566 เพิ่มเป็น 25 โครงการในปี 2570
  2. Total B2B2C Solutions : การเชื่อมโยงการทำธุรกิจของพันธมิตรคู่ค้า สู่การใช้ชีวิตของลูกค้าที่ครบวงจร ด้วยการลงทุด้าน Digital Transformation & Technology Infrastructure ปีละ 300-500 ล้านบาท โดยได้มีการพัฒนา Data-driven Omnichannel ที่มีประโยชน์กับลูกค้า คู่ค้า และสังคม
  3. The Place Making for Sustainable Future : ให้ความสำคัญทั้งด้าน “คน” ด้วยการส่งเสริม Local Wealth โดยใน 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะมีพนักงานกว่า 6,500 คน พร้อมผลักดันการจ้างงานใน Ecosystem อีกกว่า 100,000 ตำแหน่ง การเปิดพื้นที่ค้าขายฟรีให้กับเกษตรกรและ SMEs ทั่วประเทศคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาทต่อปี และการสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐและ CSR รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทต่อปี

การดูแลด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อคนดีต่อโลก

และที่สำคัญการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม เซ็นทรัลพัฒนาจะเดินหน้าตามโรดแมป NET ZERO 2050 อาทิ การประหยัดพลังงานไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท, ติดตั้ง Solar Rooftop และขยาย EV Charger Station อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ, การเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมถึงการจัดการขยะและขยาย Recycle Shops ในศูนย์การค้า

การเดินทางของเซ็นทรัลพัฒนาในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป

ขยายอาณาจักรปี 2566 มีอะไรบ้าง?

ธุรกิจศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์

  • จะมีมิกซ์ยูสที่ครบองค์ประกอบเพิ่มขึ้น ได้แก่ เซ็นทรัล อุบลราชธานี / เซ็นทรัล อยุธยา / เซ็นทรัล ระยอง
  • เปิด Central Westville (27 ต.ค. 2566) งบลงทุนกว่า 6,200 ล้านบาท ย่านราชพฤกษ์
  • Merche’ Thonglor (26 มี.ค.2566)

ธุรกิจที่อยู่อาศัย

  • คอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ ESCENT เพชรบุรี / บุรีรัมย์ / นครศรีธรรมราช
  • บ้านหรือโครงการแนวราย 4 โครงการ ได้แก่ บ้านนิรติ นครศรีธรรมราช และแบรนด์ใหม่ บ้านนิรดา พระราม 2, อุทยาน และเอกชัย ในเขตกรุงเทพมหานครฯ

ธุรกิจโรงแรม (เปิดใหม่ 3 แบรนด์ รวมทั้งสิน 10 แห่ง)

  • แบรนด์ Centara ได้แก่ Centara Ubon และ Centara Ayutthaya
  • แบรนด์ Centara One ได้แก่ Centara One Rayong
  • แบรนด์ GO! Hotel ได้แก่ โรบินสันบ้านฉาง, เซ็นทรัล ศรีราชา, เซ็นทรัล ชลบุรี

*อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง

ขยายอาณาจักรปี 2567 มีอะไรบ้าง?

ธุรกิจศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์

  • เซ็นทรัล นครสววรค์ / นครปฐม / กระบี่

โครงการมิกซ์ยูส

  • Dusit Central Park ยกระดับให้เทียบเท่ากับมหานครระดับโลก อย่างนิวยอร์ก โตเกียวและโซล งบลงทุน 46,000 ล้านบาท

*อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง

เป้าหมายต่าง ๆ ในปีต่อ ๆ ไป

  • การขยายและรีโนเวทเพื่อสร้าง Big Impact ได้แก่ เซ็นทรัล พัทยา ที่ได้มีการปรับโฉมโรงแรม Hilton ทำให้มียอดเข้าพักเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2019
  • การรีโนเวทศูนย์การค้า เพิ่มโซนต่าง ๆ เพื่อตอบรับการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก โดยจะมีแบรนด์ Bridgeline และ Luxury เพิ่มเติม ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
  • ส่วนขยายของ Central Westgate ที่ประสบความสำเร็จเป็น Regional Mall ที่ทราฟฟิคดีต่อเนื่อง (ทราฟฟิคคือความหนาแน่นของผู้เข้าใช้บริการ) เติมเต็มด้วย New Anchor ใหญ่ ขยายพื้นที่การค้าขายเพิ่ม และเพิ่มอาคารจอดรถ และยังมี Renovation อื่น ๆ ที่ตั้งใจทำให้เป็นศูนย์การค้าที่ดีที่สุดของทุกย่าน
  • เป็น Experientail Place Making ระดับโลก นำโดย CentralwOrld ตอกย้ำ Global Landmark ที่สร้างปรากฎการณ์ด้สนแบรนด์ระดับโลกเลือกมาเปิดตัวเป็นที่แรก ๆ เช่น ร้านเบอร์เกอร์ระดับโลก Shake Shack ที่เตรียมเปิดตัวปลายเดือนมีนาคมนี้

เกี่ยวกับ Marche’ Thonglor

เตรียมเปิดตัวโปรเจ็คใหญ่ Marche’ Thonglor มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท (Soft Launch 26 มี.ค. 2566) เป็น Flagship of Community mall และ New Landmark ที่ใหญ่และครบครันที่สุดใจกลางทองหล่อ จับกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง, คนทำงานจาก Office ที่อยู่ภายในนโครงการเดียวกัน และ Expat ชาวต่างชาติ เติมเต็มพื้นที่สีเขียวกว่า 2,300 ตร.ม./Pet-Friendly / Food Destination ใหญ่ที่สุดในย่าน มีที่จอดรถ 24 ชั่วโมง และจะยังพัฒนาโครงการปัจจุบันที่นวมินทร์ ซิตี้ และปรับปรุง 4 แห่งในปีนี้ (2566)

เกี่ยวกับ Dusit Central Park

Dusit Central Park เป็นหนึ่งใน Mega Mixed-Use Project ขนาดใหญ่ มอบพื้นที่ขนาด 7 ไร่ให้คนกรุง ที่ต้องการยกมาตรฐานให้กรุงเทพฯ เทียบเท่ากับมหานครระดับโลก อย่างนิวยอร์ก, โตเกียว หรือโซล ภายใต้การร่วมทุนกลุ่มดุสิตธานี งบลงทุนรวม 46,000 ล้านบาท ซึ่งเป็น One-of-a-kind Mixed-Use Project ระดับโลก ที่เชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวให้เข้ากับชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัว โดยมี 4 องค์ประกอบสำคัญที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ

Dusit Central Park โดยมีศูนย์การค้า ‘Central Park’ ที่เชื่อมต่อทุกส่วนเข้าด้วยกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Here for curated experience and inspiration’ สร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจให้คนกรุง, อาคารสำนักงาน ‘Central Park Office’ ระดับ Grade A+ ที่ตั้งใจจะเป็น Global Prototype ของ Future Workplace, Ultra-Luxury Branded Residence และโรงแรมระดับ Global Legendary Iconic แห่งเดียวของไทย

ธุรกิจที่อยู่อาศัย

ชูกลยุทธ์สำคัญคือ Best Location & Best in class ในทุกโลเคชั่น อยู่ติดหรือใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล และเริ่มขยายโปรเจ็คที่อยู่ติดโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ด้วย โดยนำจุดแข็งในเรื่องการทำ Synergy กับแบรนด์ชั้นนำ ในเครือ Central Group

แผนปี 2566 เตรียมเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 9,000 ล้านบาท ได้แก่ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ คือ ESCENT เพชรบุรี, บุรีรัมย์ และนครศรีธรรมราช และโครงการแนวราบ 4 โครงการ คือ บ้านนิรติ นครศรีธรรมราช และแบรนด์ใหม่ บ้านนิรดา พระราม 2, อุทยาน และเอกชัย ในเขตกรุงเทพฯ

คาดว่าภายในปี 2570 จะครอบคลุม 27 จังหวัด นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ Central Pattana Residents รวมทุกความสะดวกสบายเพื่อการอยู่อาศัยไว้ในแอปเดียว เพื่อลูกบ้านโดยเฉพาะ

อาณาจักรเซ็นทรัล ธุรกิจอาคารสำนักงาน

ชูจุดแข็ง Strategic Locations in CBD Bangkok โดยเตรียมเปิดเผยโปรเจ็คใหญ่ Central Park Offices ภายในโครงการ Dusit Central Park โดยเป็น World-Class Professional Hub แห่งใหม่รองรับบริษัทชั้นนำระดับโลก บนโลเคชั่น Super Core CBD เป็น interchange station ทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT

และมีพื้นที่สีเขียวทั้งจาก Rooftop Park ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกับสวนลุมพินี และบนชั้นพิเศษ ยังมี Private Outdoor Gardens อีกด้วย และเป็น World-Class Design and Facilities มุ่งเน้นการพัฒนาตามมาตรฐาน World-class LEED Gold Certified และการ Customized พื้นที่เพื่อธุรกิจทุกขนาด

ธุรกิจโรงแรม

ชูความเชี่ยวชาญของเซ็นทรัลพัฒนาในการพัฒนาทำเลศักยภาพและเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมยกระดับมาตรฐานการเข้าพักอาศัยในโรงแรมและตอบโจทย์ทุกจุดประสงค์ของการเดินทาง ในปี 2566 นี้จะเปิดโรงแรมครบทุก 3 แบรนด์ และจะมีโรงแรมทั้งสิ้น 10 แห่ง 1,600 ห้อง

สำหรับโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดปีนี้ ได้แก่

  1.  แบรนด์ Centara: Upscale Full-Service เตรียมเปิด Centara Ubon’ และ ‘Centara Ayutthaya’,
  2.  แบรนด์ Centara One: Lifestyle Midscale เตรียมเปิดแห่งแรกคือ Centara One Rayong และ
  3.  แบรนด์ GO! Hotel: Premium Budget Hotel และเป็น Pet-Friendly เตรียมเปิดที่โรบินสันบ้านฉาง, เซ็นทรัล ศรีราชา และเซ็นทรัล ชลบุรี 
related