svasdssvasds

เซ็นทรัล รีเทล มุ่งเป้าเป็นที่ 1 องค์กรค้าปลีกต้นแบบยั่งยืนรายแรกในไทย

เซ็นทรัล รีเทล มุ่งเป้าเป็นที่ 1 องค์กรค้าปลีกต้นแบบยั่งยืนรายแรกในไทย

เซ็นทรัล รีเทล เตรียมทุ่งงบ 28,000 ล้านบาทขยายฐานธุรกิจ ไทย เวียดนาม และอิตาลี หลังปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดมีรายได้รวม 270,000 ล้านบาท เติบโต 15%

เซ็นทรัล รีเทล หนึ่งในองค์กรค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในไทย ได้ประกาศแผนความยั่งยืน “The Next Sustainable Growth” ของการบริหารในธุรกิจภายใต้แบรนด์ทั้งหมด โดยในปีนี้จะทุ่มงบลงทุน 28,000 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าจะมีรายได้รวมสิ้นปี 270,000 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 15%

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ได้ฉายภาพความสำเร็จหลังปูพรมขับเคลื่อนธุรกิจตามแผนงาน 5 ปี ภายใต้ยุทธศาสตร์ CRC Retailligence และในปีนี้ เซ็นทรัล รีเทล พร้อมแล้วที่จะเร่งเครื่องให้บริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างยั่งยืน มั่นคง แข็งแรง เพื่อมุ่งสู่ The Next Sustainable Growth พร้อมเผยว่าปี 2566 นี้จะทุ่มงบลงทุนประมาณ 28,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้รวม 270,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 15% จากปี 2565

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ผลสำเร็จของปี 2565

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า

“ปีนี้มุ่งเป้าไปที่การขยายตลาดทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ อย่าง เวียดนามและอิตาลี เพื่อเป็นที่หนึ่งในวงการค้าปลีก ในปี 2565 ที่ผ่านมา เซ็นทรัล รีเทล ได้เดินตามยุทธศาสตร์ 5 ปี CRC และประสบความสำเร็จในการขยายพอร์ตธุรกิจให้เติบโตทั้งในไทย เวียดนามและอิตาลี”

นอกจากนี้ผลสำเร็จของปี 2565 ยังได้ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจภายในเครือด้วย ได้แก่ ฟู้ด (Food) แฟชั่น (Fashion) ฮาร์ดไลน์ (Hardline) พร็อพเพอร์ตี้ (Property) และเฮลธ์แอนด์เวลเนส (Health and Wellness) ที่ได้เติบโตมากกว่า 20% ซึ่งเกินเป้าที่ตั้งไว้ อีกทั้งในปี 2565 เรายังได้เพิ่ม Office Mate / B2S / meb มาอยู่ภายใต้เครือด้วย ซึ่งส่งเสริมให้เกิดการเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทิศทางเป้าหมายปี 2566

ปี 2566 นี้ถือเป็นปีกระต่ายปีทองประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เซ็นทรัล รีเทลเองก็มองเห็นสัญญาณบวกของภาคการค้าปลีกและบริการในทั้ง 3 ประเทศ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก จีนได้เปิดประเทศอย่างเป็นทางการ นักท่องเที่ยวกำลังหลั่งไหลเข้ามาไทย รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคก็กำลังฟื้นตัวขึ้นด้วย ซึ่งแน่นอนว่า กลุ่มลูกค้าของเซ็นทรัล รีเทล คือกลุ่มผู้มีกำลังซื้อปานกลางไปจนถึงระดับสูง ดังนั้นนี่จึงเป็นสัญญาณที่ดี

และด้วยโอกาสนี้เอง เซ็นทรัล รีเทล จึงได้อัดงบลงทุน 28,000 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเต็มกำลัง บนยุทธศาสตร์เดิม คอื CRC เพื่อให้ขึ้นเป็นอันดับ 1 Next-Gen Omni Retailer ของเอเชีย นอกจากจะเป็นที่หนึ่งด้านนี้แล้ว เซ็นทรัล รีเทลยังคาดหวังอีกด้วยว่าจะเป็นที่หนึ่งด้านธุรกิจสีเขียวและความยั่งยืน (Green & Sustainable Retail) องค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืนรายแรกในประเทศไทย

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC

4 กลยุทธ์เผด็จศึกธุรกิจค้าปลีก

เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการเป็นที่หนึ่งด้าน Green & Sustainable Retail ที่ผ่านปรากฎการณ์ The Next Sustainable Growth เซ็นทรัล รีเทลจะต้องบรรลุ 4 กลยุทธ์ต่อไปนี้ให้ได้

  1. Accerlerate Core Leadership (เร่งสร้างการเติบโตให้กลุ่มธุรกิจ 3 แบบ)
  • กลุ่มแฟชั่น : เซ็นทรัล รีเทล คาดหวังจะเป็น Luxuries Destination ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแฟชั่น โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายห้างสรรพสินค้าลักซูรีในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อต่อยอดธุรกิจกลุ่มแฟชั่นให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งสินค้าใหม่ แบรนด์ใหม่ และเชื่อมต่อแพลตฟอร์มของห้างลักซูรี่ทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้าสามารถชอปปิงจากทุกห้างของกลุ่มได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมเดินหน้าขยาย และรีโนเวทสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนจะเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสัน อีก 2 สาขา ในปีนี้
  • กลุ่มฮาร์ดไลน์ : เสริมแกร่งความเป็นผู้นำในกลุ่มฮาร์ดไลน์ของประเทศไทย ด้วยการเร่งเครื่องขยายสาขาใหม่ของไทวัสดุ และไทยวัสดุ ไฮบริด ฟอร์แมท รวมอีก 10 สาขาในปีนี้
  • กลุ่มฟู้ด : สร้างการเติบโตในเวียดนามอย่างก้าวกระโดด รวมถึงผลักดันแบรนด์ Tops ขึ้นเป็น Food Discovery & Destination และ เบอร์ 1 Food Omni Retailer ด้วยการขยายสาขา Tops รวมอีก 15 สาขาในปีนี้
  • กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ : ขึ้นแท่นผู้นำศูนย์การค้า Lifestyle and Experiential Community Platform ของประเทศไทย ด้วยการขยายและรีโนเวทศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาในปีนี้ นอกจากนี้ในเวียดนามก็มีการก่อสร้างศูนย์การค้า GO! สาขาใหม่ๆ เพื่อเตรียมเปิดอีก 6-8 สาขา ในปี 2567
  • สร้างฐานการเงินที่แข็งแกร่ง บนกลยุทธ์ 3C คือ Cost บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, Capex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดใน Strategic Business และเร่งขยาย Proven Format และ Cash Flow ขยายขีดความสามารถในการจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้มีความรวดเร็ว คล่องตัว และเพิ่มกระแสเงินสดให้มากขึ้น สำหรับสร้างการเติบโตทางธุรกิจต่อไป
  • แพลตฟอร์มธุรกิจออนไลน์ต้องไม่ฟาดฟันกันเอง แต่ทางเซ็นทรัลจะพยายามเก็บ Digital Footprint ของลูกค้าเพื่อเข้าถึงความต้องการที่แม่นยำ และนำไปสู่การขายที่ใช่แค่สินค้า และต้องเป็นการบริการที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น รวดเร็ว และสะดวกยิ่งขึ้น

Central Retail

2. Reinvent Next-Gen Omni Retail - ยกระดับ CRC Ecosystem ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีและระบบต่างๆ ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก มาสร้างการเติบโตแบบ Inclusive Growth ให้ทั้งลูกค้า แบรนด์ และพาร์ทเนอร์ บนแพลตฟอร์ม Next-Gen Omni Retail เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกมิติให้แก่ผู้บริโภค

ทั้งในด้าน Experience-driven ที่เชื่อมโยงทุกช่องทางอย่างไร้รอยต่อ การใช้ AI เพื่อมอบสินค้าและบริการที่ตรงใจลูกค้าแบบ Smart Retail รวมถึงการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็ว ตามเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปด้วย Agile Commerce และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกที่ทุกเวลาแบบ Multi-Moment

3. Build New Growth Pillars – ต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น โดยมีแผนเปิดตัวธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อเสริมทัพธุรกิจในประเทศไทยและเวียดนาม

4. Drive Partnership, Acquisition and Spin Off – ขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรและการทำ M&A พร้อมนำ MEB เบอร์ 1 แพลตฟอร์ม E-Book เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เสนอขายหุ้น IPO แก่ประชาชนทั่วไป ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

เป้าหมายอันดับหนึ่งด้านองค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืงรายแรกในประเทศไทย

แน่นอนว่าทั่วโลก กำลังมุ่งหน้าสู่ความยั่งยืนกันมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคของธุรกิจที่ถูกเรียกร้องให้รักษ์โลก เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญในเรื่องของ Be Well Live Well Get Well ในปีที่ผ่านมา เซ็นทรัลรีเทลได้รับรางวัล Sustainability Excellence ด้วย ดังนั้นเซ็นทรัล รีเทล จึงอยากมีส่วนในการมุ่งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ด้วย ภายในปี 2593 หรือ 2027

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC งบลงทุนรวมทั้งหมดที่กล่าวไป เซ็นทรัล รีเทลจะนำไปลงทุนสำหรับกลุ่มธุรกิจในไทย 70-75% และจะลงทุนกับธุรกิจต่างประเทศ 20-25% และในจำนวนเหล่านี้ เซ็นทรัล รีเทล จะแบ่งไปลงกับความยั่งยืนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Investment) ประมาณ 5-10%  ซึ่งที่ผ่านมา เซ็นทรัล รีเทล ปรับตัวมาตลอด มีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป หรือหลังคาโซลาร์ โดยสามารถช่วยลดค่าไฟไปได้มากถึง 40% ดังนั้นในอนาคตจึงมีแผนที่จะลงทุนกับนโยบายสีเขียวมากขึ้นแน่นอน

นอกจากนี้ คุณญนน์ ยังได้เผยอีกว่า ในด้านของการลงทุนสีเขียว (Green Investment) ในปี 2566 นี้ เซ็นทรัล รีเทลมีแผนที่จะพยายามนำพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ให้ได้ 30%, ลดปริมาณขยะสู่หลุมฝังกลบ 10% โดยจะนำขยะบางส่วนเข้าสู่การรีไซเคิลและการนำไปทำปุ๋ยหมักและ BIO GAS ให้ได้มากที่สุด และจะมีการลดการใช้น้ำให้ได้ 10%, เพิ่มการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 20% ของสินค้าทั้งหมด และท้ายที่สุดนี้มีเป้าว่าจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากการปลูกป่าอีก 5,000 ไร่ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก

related