svasdssvasds

26 มี.ค. 66 ค่าฝุ่นเชียงรายเกินมาตรฐาน 9 เท่า กรมอนามัยเตือน อันตรายต่อสุขภาพ

26 มี.ค. 66 ค่าฝุ่นเชียงรายเกินมาตรฐาน 9 เท่า กรมอนามัยเตือน อันตรายต่อสุขภาพ

กรมอนามัยเตือน ค่าฝุ่นเชียงรายเกินค่ามาตรฐาน 9 เท่า เกินค่าแนะนำขององค์การอนามัยโลก 32 เท่า เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ วอนประชาชนในพื้นที่หยุดเผา งดทำกิจกรรมนอกบ้าน

วันนี้ 26 มีนาคม 2566 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณะสุข เผยสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีค่าเฉลี่ยสูงถึง 480 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานของประเทศไทย 9 เท่าและสูงกว่าค่าแนะนำขององค์การอนามัยโลก 32 เท่า

ทั้งนี้ ภาคเหนือและอีสานมีค่าฝุ่นเฉลี่ยอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ วอนประชาชนในพื้นที่หยุดเผาและงดการทำกิจกรรมนอกบ้าน พร้อมสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นด้วย

อันตรายต่อสุขภาพ นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองชนาดเล็ก ในวันที่ 26 มีนาคม 2566 เวลา 11.00 น. พบค่าฝุ่น PM2.5 สูงถึง 480 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของประเทศไทย 9 เท่า และสูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก 32 เท่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ยังพบอีก 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน บึงกาฬ หนองคาย นครพนม ยังมีค่าฝุ่นอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (> 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)

ซึ่งสัปดาห์นี้พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีแนวโน้มการสะสมฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากลมนิ่ง รวมทั้ง การเผาทั้งในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งพบจุดความร้อนสะสมในเดือนมีนาคมสูงถึง 25,209 จุด ส่งผลให้ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ 

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ระดับค่าฝุ่นละอองดังกล่าว นอกจากจะส่งผลให้มีอาการต่าง ๆ เช่น แสบตา คันตา ตาแดง ระคายเคืองผิวหนัง ไอ หายใจลำบาก แน่นหน้าอกแล้ว ผู้ที่มีโรคหัวใจและระบบทางเดินหายใจ จะมีอาการที่รุนแรงมากขึ้น และหากได้รับในปริมาณมากในระยะยาว ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จะทำให้เกิดการอักเสบภายในร่างกาย เข้าไปทำลายระบบต่างๆ ในเซลล์ของปอด ทำให้เกิดโรคทั้งระบบหัวใจและหลอดเลือดและมะเร็งในระยะยาว

“สำหรับ ข้อมูลจากการเฝ้าระวังอาการตนเองของประชาชน ผ่านระบบ 4HealthPM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ

ขึ้นนำอันดับหนึ่งในไทย เชียงใหม่ครองอันดับ 1 ของโลก

 

ช่วงเดือนมีนาคม 2566 พบว่า ประชาชนมีอาการที่เกี่ยวข้องกับการรับสัมผัสฝุ่นถร้อยละ 73.2 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2566 โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 5 – 14 ปี และผู้สูงอายุ กรมอนามัย จึงขอให้ประชาชน

เฝ้าระวังและดูแลสุขภาพตนเองโดย

  1. ลดระยะเวลาหรืองดการออกนอกอาคารโดยไม่จำเป็น หากออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น
  2. งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจและโรคหัวใจ
  3. อยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด หากทำห้องปลอดฝุ่นได้ ให้อยู่ในห้องปลอดฝุ่น
  4. ดูแลสุขภาพเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว สังเกตอาการ หากมีอาการรุนแรง เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ให้รีบไปพบแพทย์
  5. งดการเผา และช่วยสอดส่อง ป้องกันไม่ให้มีการเผาในชุมชน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
related