svasdssvasds

บ้านเกือบทั่วสหรัฐฯ เสี่ยงเสียหายจากโลกร้อน แต่ไม่เชื่อว่าโลกร้อนมีจริง

บ้านเกือบทั่วสหรัฐฯ เสี่ยงเสียหายจากโลกร้อน แต่ไม่เชื่อว่าโลกร้อนมีจริง

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศกำลังทำให้บ้านเรือนประชาชนในสหรัฐฯเสี่ยงได้รับความเสียหาย ทั้งจากน้ำท่วม ไฟป่า หรือลมกระโชกแรง และนอกเหนือจากนั้น หากบ้านในบางพื้นที่ไม่ได้เสี่ยงได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติแล้ว ก็อาจจะได้รับผลกระทบจากประกันบ้านที่แพงขึ้น

SHORT CUT

  • เกือบครึ่งของบ้านเรือนทั้งหมดในสหรัฐฯกำลังเสี่ยงได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศแบบสุดโต่ง
  • First Street เผยประชาชนหลายรัฐกำลังเผชิญกับปัญหาค่าประกันบ้านแพงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศอันสุดโต่ง
  • มหาวิทยาลัยมิชิแกน เผยว่ายังมีประชาชนที่ไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นเรื่องจริง

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศกำลังทำให้บ้านเรือนประชาชนในสหรัฐฯเสี่ยงได้รับความเสียหาย ทั้งจากน้ำท่วม ไฟป่า หรือลมกระโชกแรง และนอกเหนือจากนั้น หากบ้านในบางพื้นที่ไม่ได้เสี่ยงได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติแล้ว ก็อาจจะได้รับผลกระทบจากประกันบ้านที่แพงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาก็ชี้ว่า ยังมีชาวอเมริกันบางส่วนไม่เชื่อว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและโลกร้อนเป็นเรื่องจริง

เครดิต : Reuters สำนักข่าว CBSnews รายงานว่า เกือบครึ่งของบ้านเรือนทั้งหมดในสหรัฐฯกำลังเสี่ยงได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศแบบสุดโต่ง โดยผลการศึกษาบนเว็บไซต์ Realtor.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านอสังหาริมทรัพย์พบว่า อสังหาริมทรัพย์ของประชาชนคิดเป็นมูลค่าเกือบ 22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เสี่ยงได้รับความเสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วม ลมกระโชกแรง ไฟป่า อากาศร้อนและคุณภาพอากาศที่เลวร้าย

ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ของเว็บไซต์ดังกล่าวระบุด้วยว่า อันตรายจากภัยธรรมชาติเหล่านั้นสามารถส่งผลกระทบต่อราคาบ้าน ทำให้ค่าประกันแพงขึ้น และอาจเลวร้ายถึงขั้นทำลายเสถียรภาพของตลาดบ้านภายในประเทศ ถึงแม้ว่าอสังหาฯบางตัวจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความเสี่ยงของสภาพอากาศ แต่ก็อาจจะได้รับผลกระทบตรงที่ต้องจ่ายค่าประกันแพงขึ้น ซึ่งนั่นก็จะไปส่งผลกระทบต่อราคาขาย และทำให้บรรดาเจ้าของบ้านขึ้นราคาบ้านให้แพงขึ้นอีก

เครดิต : Reuters รายงานระบุว่า ความเสี่ยงจากสภาพอากาศไม่ได้หมายถึงแค่พื้นที่ริมชายฝั่งที่กำลังได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูง หรือบ้านแถบภูเขาที่มักเกิดไฟป่าเท่านั้น แต่ผลการวิจัยจาก First Street ยังแสดงให้เห็นว่า แม้แต่ประชาชนในรัฐใจกลางประเทศ เช่น เคนทักกี เซาธ์ดาโกตา และรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ก็กำลังเผชิญกับปัญหาค่าประกันบ้านแพงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศอันสุดโต่ง

นอกจากนี้ยังมีรัฐอื่นๆที่เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยข้อมูลของ First Street ซึ่งทำการศึกษาใน 100 เมืองขนาดใหญ่ทั่วประเทศ พบว่า ในอีก 30 ปีข้างหน้า 18 เปอร์เซ็นต์ของบ้านเรือนประชาชนจะเสี่ยงได้รับความเสียหายจากลมกระโชกแรงและเฮอริเคน 9 เปอร์เซ็นต์ของบ้านเรือนจะเสี่ยงเผชิญควาเมสียหายอย่างหนักหรือหนักมากจากปัญหาคุณภาพอากาศ

นอกจากนี้ ยังพบว่า ปัจจุบันปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมีผลอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจในการเลือกที่อยู่อาศัยของประชาชน โดยชาวอเมริกันกว่า 3 ล้านคนย้ายบ้าน เพื่อหนีน้ำท่วม

เครดิต : Reuters อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเดอะการ์เดียนรายงานว่า ชาวอเมริกันเกือบ 15 เปอร์เซ็นต์ไม่เชื่อว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นเรื่องจริง โดยผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งทำการวิเคราะห์ข้อความบน X หรือทวิตเตอร์เดิม กว่า 7.4 ล้านข้อความ ของประชาชนราว 1.3 ล้านคน ระหว่างปี 2017-2019 ด้วยปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ พบว่า ยังมีประชาชนที่ไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ในขณะที่ผู้สนับสนุนพรรคแดโมแครตจะเชื่อเรื่องโลกร้อนมากกว่า

รายงานยังระบุด้วยว่า ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน นับเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ ซึ่งตัวเองเขาก็ปฏิเสธเรื่องปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมาโดยตลอด และนำสหรัฐฯออกจากข้อตกลงปารีสเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนที่รัฐบาลก่อนหน้านั้นลงนามเอาไว้ด้วย

 

ที่มา : CBS / The Guardian

 

เนื้อหาที่น่าสนใจ :