svasdssvasds

ยุโรปกำลังเผชิญกับฤดูไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์

ยุโรปกำลังเผชิญกับฤดูไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์

หลายพื้นที่ของยุโรป โดยเฉพาะสเปนและโปรตุเกส กำลังเผชิญไฟป่าที่เลวร้ายสุดในรอบหลายทศวรรษ ท่ามกลางคลื่นความร้อนที่ทำให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะวิกฤติยิ่งกว่าเดิม

SHORT CUT

  • ยุโรปกำลังเผชิญวิกฤตไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดจากคลื่นความร้อนและภัยแล้ง ส่งผลให้พื้นที่ป่าถูกเผาทำลายไปแล้วกว่า 2.7 ล้านไร่
  • สเปนและโปรตุเกสเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีพื้นที่ป่าเสียหายจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ดังกล่าว
  • นานาชาติในยุโรปได้ส่งกำลังพลและเครื่องบินดับเพลิงเข้าช่วยเหลือ แต่การควบคุมไฟยังคงเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากลมที่พัดแรง

หลายพื้นที่ของยุโรป โดยเฉพาะสเปนและโปรตุเกส กำลังเผชิญไฟป่าที่เลวร้ายสุดในรอบหลายทศวรรษ ท่ามกลางคลื่นความร้อนที่ทำให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะวิกฤติยิ่งกว่าเดิม

คลื่นความร้อนที่ยาวนานและสภาวะภัยแล้งทำให้หลายภูมิภาคของยุโรปกลายเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติ โดยเฉพาะไฟป่าที่เลวร้ายสุดในรอบหลายทศวรรษ เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 2.7 ล้านไร่ ซึ่งสเปนและโปรตุเกสกลายเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด 

สถานการณ์ในสเปน

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมด้วยกำลังพลและเครื่องบินดับเพลิง กำลังต่อสู้กับไฟป่าที่ลุกลามกว่า 21 จุดทางตะวันตกของสเปน ซึ่งโหมรุนแรงจนถูกจัดเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อชุมชนใกล้เคียง 

แม้จะมีความหวังจากอุณภูมิเฉลี่ยที่เริ่มลดลง แต่ลมที่กระโชกแรงขึ้นก็กลายเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการควบคุมเพลิง และฝนที่ตกลงมาเพียงเล็กน้อยแทบไม่ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรเลย

นักพยากรณ์อากาศคาดว่า ลมจะอ่อนลงในช่วงบ่าย โดยระดับความชื้นที่สูงขึ้นน่าจะช่วยบรรเทาการลุกลามของเปลวเพลิงได้ มีการคาดการณ์ด้วยว่า จะมีฝนตกในบางพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าในวันพฤหัสบดี

ขณะที่เยอรมนี ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ ต่างส่งนักดับเพลิงและยานพาหนะเข้าร่วมการดับเพลิง เช่นเดียวกับอิตาลี เนเธอร์แลนด์ สาธารณรัฐเช็ก และสโลวีเนีย ที่ส่งเครื่องบินดับเพลิงเข้าร่วมปฏิบัติการด้วย

ปีนี้พื้นที่ป่าในสเปนถูกไฟไหม้เกือบ 2.5 ล้านไร่ ทั้งยังเพิ่งเผชิญคลื่นความร้อนยาวนานถึง 16 วัน ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ โดยมีอุณหภูมิพุ่งสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสในหลายภูมิภาค ขณะที่ไฟป่าที่เกิดจากความร้อนได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 4 ราย

สถานการณ์ในโปรตุเกส

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของโปรตุเกสกว่า 2,600 นาย พร้อมเครื่องบินดับเพลิงประมาณ 20 ลำ ยังคงต่อสู้กับไฟไหม้ขนาดใหญ่ 4 แห่ง โดยจุดที่ไฟลุกไหม้รุนแรงที่สุดกำลังลุกลามในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศ 

มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 15 ราย โดยมี 1 รายอาการสาหัส และมีชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ควบคุมเพลิง ซึ่งข้อมูลระบุว่าเขาทำงานให้กับบริษัทที่ได้รับการว่าจ้างให้ช่วยดับไฟ

เช่นเดียวกับสเปน ไฟป่าในโปรตุเกสเกิดจากคลื่นความร้อนและภัยแล้ง ซึ่งถูกเชื่อมโยงว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากความชื้นในอากาศ พืชพรรณ และดินที่ลดลง ทำให้ไฟป่าลุกลามได้ง่ายขึ้น ทั้งยังควบคุมได้ยากขึ้นเมื่อไฟเริ่มลุกลาม 

นับตั้งแต่ต้นปี พื้นที่ในประเทศโปรตุเกสถูกทำลายจากไฟป่าไปแล้วมากกว่า 1.6 ล้านไร่