SHORT CUT
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 16 พายุ "คาจิกิ" ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เข้าปกคลุมภาคเหนือบริเวณจังหวัดน่าน
วันที่ 26 สิงหาคม 2568 นางสาวสุกันยาณี ยะวิชชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 16 (219/2568) ว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ (26 ส.ค. 68) พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณ แขวงไซยสมบูรณ์ ประเทศลาว และเมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ ได้อ่อนกำลังลงอีกเป็นพายุดีเปรสชัน โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 120 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของจังหวัดน่าน หรือ ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 102.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณจังหวัดน่านในวันนี้
จากอิทธิพลดังกล่าว ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก หลายพื้นที่ กับมีลมแรง โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับเส้นทางเดินพายุ ได้แก่จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และลำปาง สำหรับภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากพายุ
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และรองประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เตือนประชาชนให้เฝ้าระวังฝนตกหนักและน้ำไหลหลากจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในช่วงวันที่ 26–27 สิงหาคมนี้
พายุคาจิกิลดกำลังลงแต่ยังคงเฝ้าระวังฝนตกหนักน้ำไหลหลาก 26-27 สิงหาคม ยังคงเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักอาจเกิดน้ำไหลหลาก น้ำท่วมชุมชนตามมาระหว่างวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ จากอิทธิพลพายุ “คาจิกิ” ปัจจุบัน พายุลูกนี้ยังเป็นโซนร้อน (ศูนย์อุตุฯฮ่องกง) จะลดกำลังลงตามลำดับ คาดว่าจะเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำก่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทิศทางพายุทะแยงขึ้นบนในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ล่าสุดจากการประเมินพื้นที่ฝนตกหนักสะสม 2 วัน มีความรุนแรงน้อยกว่าพายุ “วิภา” ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว (22-23 กรกฎาคม) สำหรับการคาดการณ์ปริมาณฝนสะสมวันที่ 26 และ 27 สิงหาคม ตามเฉดสีฟ้า จากพายุ “คาจิกิ” อาจมากกว่า 100-200 มม. บริเวณภาคเหนือตอนบน
จากการทำ Flood simulation กรณีฝนตกสะสม 2 วัน 200 mm (26-27 สิงหาคม) มีพื้นที่เสี่ยงน้ำไหลหลาก โดยเฉพาะที่ จ.น่าน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ส่วนภาคอีสาน ที่ จ.เลย ขอให้เฝ้าระวังน้ำไหลหลาก น้ำท่วมชุมชน โดยเฉพาะลำน้ำสาขาต่างๆ
ส่วนแม่น้ำสายใหญ่ เช่น แม่น้ำน่าน ยม และ ปิง ปัจจุบันยังมีความสามารถรับน้ำได้กว่า 85% ต้องติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ต่อไป
หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าพายุไต้ฝุ่น "คาจิกิ"คาดจะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนเข้าสู่ จ.น่านในเย็นวันที่ 26 ส.ค.นี้ ทำให้ฝนตกหนักในภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat คาดว่าจังหวัดน่านจะมีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
ความหนาแน่นของป่าและภูเขาทางอยู่ด้านเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและใต้ ส่วนพื้นที่ราบอยู่ทางด้านตะวันออกตามแนวฝั่งแม่น้ำน่าน ประมาณ85%ของพื้นที่จังหวัดน่านเป็นภูเขาและพื้นที่ลาดชันทำให้เมื่อมีฝนตก หนักน้ำจะไหลลงสู่ที่ต่ำอย่างรวดเร็วโดยภูมิประเทศจะมีความลาดเอียงจากด้านเหนือไปทางใต้และเป็นเส้นทางไหลของน้ำจากภาคเหนือตอนบนลงสู่พื้นที่ลุ่มแม่น้ำน่านตอนล่าง
โดยเฉพาะการปลูกข้าว โพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่ลาดชัน ทำให้พื้น ที่ป่าต้นน้ำถูกทำลาย..ดินสูญเสียความสามารถในการดูดซับน้ำ พื้นที่ป่าที่เคยทำหน้าที่ดูดซับน้ำฝนถูกแทนที่ด้วยพื้น ที่โล่งทำให้เมื่อฝนตกหนักน้ำจะไหลบ่าลงสู่พื้นที่ราบอย่างรวดเร็ว แทนที่จะซึมลงสู่ดินโดยจะมีทิศทางไหลลงสู่แม่น้ำน่านและสาขา
โดยไหลผ่านอำเภอ ตั้งแต่ต้นน้ำที่เริ่มที่อำเภอบ่อเกลือไหลลงมายังอำเภอเฉลิมพระเกียรติ, ทุ่งช้าง, เชียงกลาง, ปัว, ท่าวังผา, เมืองน่าน, ภูเพียง, เวียงสา, นาน้อย, และนาหมื่น ก่อนจะออกจากจังหวัดน่านและไปที่อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์..แม่น้ำน่านเป็นลำน้ำที่ไหลลงมาจากภูมิประเทศพื้นที่สูง ซึ่งหากมีปริมาณฝนมาก น้ำจะไหลลงมาอย่างรวดเร็วทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์น้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจในเมืองได้ง่าย
เนื่องจากอยู่ใกล้ภูเขาคืออำเภอปัวและอำเภอนาน้อย โดยทั้งสองอำเภอจะมีรายงานว่าน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มเป็นประจำ นอกจากนี้อำเภอบ่อเกลือและท่าวังผามักจะเกิดปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำเมื่อมีพายุพาดผ่าน
ที่มา , รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ , Sonthi Kotchawat
ข่าวที่เกี่ยวข้อง