SHORT CUT
ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุบัวลอยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มเป็นมากกว่า 30 ราย ขณะที่ฝนตกหนักยังคงกระหน่ำทั่วภูมิภาค อุตุฯ ไทยเตือนหลายจังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วมหนัก
พายุไต้ฝุ่นบัวลอยยังคงสร้างความเสียหายต่อหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเวียดนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย สูญหาย 21 ราย หลังพายุบัวลอยพัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือเมื่อวันจันทร์ กลายเป็นพายุที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดที่พัดถล่มประเทศในปีนี้ และฝนที่ยังตกหนักในวันอังคารได้เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ภาคเหนือ
ขณะที่ฟิลิปปินส์ซึ่งเผชิญกับพายุบัวลอยตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย
ส่วนประเทศไทย สำนักงานป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติรายงานว่าเกิดน้ำท่วมใน 17 จังหวัด โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับผลกระทบหนักที่สุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย เช่นเดียวกับจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่เผชิญกับน้ำป่าไหลหลาก คุกคามกว่า 36 หมู่บ้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุบัวลอย วันที่ 30 ก.ย. 68 ระบุว่า สถานการณ์โดยรวมคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำลดลงในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังคงมีพื้นที่ประสบภัย 8 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ กำแพงเพชร พิษณุโลก มหาสารคาม สุรินทร์ นครราชสีมา และปราจีนบุรี
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่ายังคงมีอีกหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออก ที่ยังคงต้องเผชิญกับฝนตกหนักจนถึงวันพุธที่ 1 ต.ค. ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังอันตรายฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม พื้นที่น้ำท่วมขัง และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ตามรายงานของศูนย์พยากรณ์อุทกวิทยาแห่งชาติของเวียดนามเผยว่า พายุบัวลอยได้มุ่งหน้าสู่ประเทศลาว พร้อมกับอ่อนกำลังลงจนกลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนไปจนถึงระบบความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ หลังจากนั้นคาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาร์ตอนบนและภาคเหนือของประเทศไทยภายในวันที่ 30 กันยายนนี้