svasdssvasds

กรมอุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ "ฤดูหนาว 2568" เริ่มวันแรก 23 ต.ค.นี้

กรมอุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ "ฤดูหนาว 2568" เริ่มวันแรก 23 ต.ค.นี้

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาววันที่ 23 ตุลาคม 2568 คาดเย็นสุดกลางธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 21–22 องศาเซลเซียส 

SHORT CUT

  • กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ซึ่งช้ากว่าปกติประมาณหนึ่งสัปดาห์
  • คาดว่าช่วงที่อากาศหนาวเย็นที่สุดจะอยู่ระหว่างกลางเดือนธันวาคม 2568 ถึงต้นกุมภาพันธ์ 2569 โดยอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 21-22 องศาเซลเซียส
  • ยอดดอยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออาจมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำถึง 7-8 องศาเซลเซียส ส่วนกรุงเทพฯ คาดว่าอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 18-20 องศาเซลเซียส
  • ภาคใต้จะยังคงมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและคลื่นลมแรง

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาววันที่ 23 ตุลาคม 2568 คาดเย็นสุดกลางธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 21–22 องศาเซลเซียส 

กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ซึ่งล่าช้ากว่าปกติราวหนึ่งสัปดาห์ โดยหน้าหนาวปี 2568 จะเริ่มมีอากาศเย็นบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากนั้นอากาศเย็นจะขยายพื้นที่ครอบคลุมบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้จะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่

สำหรับการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย หมายถึง อุณหภูมิบริเวณประเทศไทยตอนบนลดลงจนมีอากาศเย็นอย่างต่อเนื่อง และลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยได้เปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก รวมถึงประเทศไทยตอนบนจะมีปริมาณฝนลดลงอย่างชัดเจน

น.ส.สุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และโฆษกกระทรวงดีอี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าสู่ฤดูหนาวของไทย ไม่ได้หมายความว่าทุกพื้นที่จะมีอากาศหนาวเย็นพร้อมกันในทันที โดยคาดว่าช่วงอากาศเย็นที่สุดจะอยู่ระหว่างกลางเดือนธันวาคม 2568 ถึงต้นกุมภาพันธ์ 2569 อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยในภาพรวมอยู่ที่ประมาณ 21–22 องศาเซลเซียส 

 

สำหรับพื้นที่ยอดดอยและยอดภูในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เช่น แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน เลย นครพนม และสกลนคร บางวันอาจมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิลดลงถึง 7–8 องศาเซลเซียส และมีโอกาสเกิดน้ำค้างแข็ง ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คาดว่าอุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ประมาณ 18–20 องศาเซลเซียส 

ขณะที่ภาคใต้ โดยเฉพาะด้านฝั่งอ่าวไทย จะยังคงมีฝนตกชุกและอาจมีฝนตกหนักเป็นช่วง ๆ จากหย่อมความกดอากาศต่ำและพายุหมุนเขตร้อน ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนฟ้าคะนอง และคลื่นลมแรง

ด้าน ดร.สุกันยาณี  ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวเสริมว่า “ในช่วงต้นฤดู สภาพอากาศยังคงมีความแปรปรวน โดยจะมีฝนตกในบางพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กรมอุตุนิยมวิทยาจึงยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมสื่อสารข้อมูลล่วงหน้าอย่างทันท่วงที เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมตัวทั้งด้านสุขภาพ การเดินทาง และการดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นใจ”

ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา
 

related