SHORT CUT
การละลายของธารน้ำแข็งและการขยายตัวของมหาสมุทรเนื่องจากความร้อน กำลังทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
งานวิจัยชิ้นใหม่จากมหาวิทยาลัยรัทเกอร์ส ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ของสหรัฐฯ เตือนว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและกิจกรรมของมนุษย์เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดน้ำท่วม ซึ่งก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก ทั้งยังทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเร็วกว่าช่วงใดๆ ในรอบ 4,000 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินการทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่น
ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นเร็วแค่ไหน?
นักวิจัยได้ตรวจสอบบันทึกทางธรณีวิทยาหลายพันรายการจากหลายแหล่ง รวมถึงแนวปะการังโบราณและป่าชายเลน ซึ่งมักใช้เป็น "คลังข้อมูลธรรมชาติ" ของระดับน้ำทะเลในอดีต พบว่านับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2443 ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.5 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งนับเป็นความเร็วที่เกินกว่าช่วงเวลาใดในอดีต ในรอบหลายพันปี
ทำไมระดับน้ำทะเลจึงเพิ่มสูงขึ้น?
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หนีไม่พ้น 'การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ' ที่ทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น มหาสมุทรกำลังดูดซับความร้อนและขยายตัวมากขึ้น ขณะเดียวกัน แผ่นน้ำแข็งในบริเวณขั้วโลกก็กำลังละลายในอัตราที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในมหาสมุทร
ซึ่งการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำนี้กำลังเร่งความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ
แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์สูญเสียน้ำแข็งไปกว่า 80,000 ล้านตันในช่วง 12 เดือนตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2566 ถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งถือเป็นปีที่ 28 ติดต่อกันแล้วที่โลกสูญเสียน้ำแข็งในช่วงที่อากาศอุ่น มากกว่าปริมาณที่ผลิตได้ในช่วงที่อากาศเย็น
ขณะที่นักวิจัยเตือนด้วยว่า เมื่อใดก็ตามที่ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ หนึ่งเซนติเมตร ประชากรบนโลกราว 6 ล้านคนจะต้องเผชิญกับน้ำท่วมชายฝั่ง โดยพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบ อุดมสมบูรณ์และอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ จะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด