
SHORT CUT
แม้ปัญหาโลกร้อนหรือวิกฤติสภาพอากาศ จะยังไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ก็มีความสำเร็จมากมายในปีนี้ที่แสดงให้เห็นว่า อีกด้านหนึ่ง มนุษย์ก็พยายามกันอย่างเต็มที่แล้ว
แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมของโลกในปีนี้ยังคงเผชิญกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้ธรรมชาติค่อยๆ เสื่อมโทรมลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2025 ที่ผ่านมาก็ยังมีเรื่องดีๆ ที่แสดงถึงความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาโลกร้อนอยู่บ้าง
1. พลังงานหมุนเวียนที่พุ่งสูงขึ้น
พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และแหล่งพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ได้แซงหน้าถ่านหินขึ้นมาเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักของโลกสำเร็จแล้วในปีนี้ โดยเฉพาะแรงผลักดันจากจีน ซึ่งกำลังขยายการผลิตพลังงานสะอาดอย่างมหาศาล
2. การคุ้มครองมหาสมุทร
ที่ผ่านมา ทะเลหลวง (high seas) หรือน่านน้ำที่ไม่ได้อยู่ภายใต้อาณาเขตของรัฐใดนั้น แม้จะมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่ก็มีเพียง 1% ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้นที่ได้รับการคุ้มครอง
แต่โลกกำลังมีความหวังมากขึ้น หลังจากเจรจากันมานานหลายสิบปี ในที่สุดก็มีการบรรลุข้อตกลงระดับโลกเพื่อปกป้องทะเลหลวงในปี 2023 และในเดือนกันยายนปี 2025 ก็ได้รับการให้สัตยาบันจากประเทศต่างๆ มากพอที่จะทำให้ข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้ อย่างเป็นทางการ
โดยสนธิสัญญาทะเลหลวงฉบับนี้ให้คำมั่นว่าจะจัดสรร 30% ของน่านน้ำให้เป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเล (MPA) ซึ่งรวมถึงการปกป้องแหล่งที่อยู่อาศัยและฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลให้กลับมาอุดมสมบูรณ์
3. การฟื้นฟูและยุติการตัดไม้ทำลายป่า
ปีนี้บราซิลเป็นเจ้าภาพการประชุม COP30 ซึ่งเป็นการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลกของสหประชาชาติครั้งแรกที่จัดขึ้นในป่าฝนอเมซอน และได้กำหนดให้ป่าไม้เป็นเวทีสำคัญ จัดตั้งแพลตฟอร์มระดมทุนเพื่อปกป้องพื้นที่ป่าที่มีอยู่เดิม โดยใช้ชื่อว่า Tropical Forests Forever Facility (TFFF) มีเป้าหมายเพื่อให้การรักษาป่าเขตร้อนมีคุณค่ามากกว่าการทำลายป่าพร้อมทั้งให้รางวัลทางการเงินแก่ผู้ที่ดำเนินการอย่างประสบความสำเร็จและได้รับการตรวจสอบแล้วในการรักษาป่าของตนด้วย
ขณะที่รายงานของสหประชาชาติปี 2025ระบุว่า อัตราการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกลดลง 38% ในช่วงปี 2015-2025 เมื่อเทียบกับช่วงปี 1990-2000 โดย ปัจจุบันป่าไม้มากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ภายใต้แผนการจัดการระยะยาวแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกปีละประมาณ 26.9 ล้านเอเคอร์
4. คดีความทางกฎหมายครั้งสำคัญ
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งถือเป็นศาลสูงสุดของโลก ได้ออกคำตัดสินครั้งสำคัญในปีนี้เปิดทางให้ประเทศต่างๆ สามารถฟ้องร้องซึ่งกันและกันในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อช่วยให้ประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสามารถดำเนินคดีทางกฎหมายกับประเทศที่ก่อให้เกิดมลพิษได้
5. การกลับมาอีกครั้งของประชากรสัตว์ป่า
สัตว์หลายชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ฟื้นตัวได้อย่างน่าทึ่งในปีนี้ แสดงให้เห็นว่ามาตรการอนุรักษ์มีประสิทธิภาพเพียงใดในการชะลอหรือพลิกกลับการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น เต่าตนุ ที่เคยถูกล่าเพื่อเอาไข่และกระดองไปประดับตกแต่ง ปัจจุบันได้รับการช่วยเหลือจากการใกล้สูญพันธุ์แล้ว หลังหลายหน่วยงานทั่วโลกพยายามอนุรักษ์มานานหลายทศวรรษ และเสือโคร่งในอินเดียก็มีจำนวนประชากรเสือเพิ่มขึ้นสองเท่า เป็นมากกว่า 3,600 ตัว
6. การพัฒนาของชนพื้นเมือง
ในปีนี้ ชนพื้นเมืองได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในระดับสหประชาชาติว่าเป็นผู้นำในการปกป้องและดูแลรักษาโลก โดยการประชุมสุดยอดด้านความหลากหลายทางชีวภาพของสหประชาชาติซึ่งจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเวทีที่ชนพื้นเมืองได้รับสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นทางการในการตัดสินใจระดับโลกเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ด้วยสถานะที่เป็นทางการและยั่งยืน
7. ชัยชนะครั้งใหญ่ของ 'แม่น้ำคลาแมธ'
แม้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในพื้นที่เล็กๆ ของสหรัฐอเมริกา แต่การรื้อเขื่อน 4 แห่งครั้งใหญ่ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศและแหล่งน้ำ ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ถูกจดจำว่า 'ธรรมชาติคือผู้ชนะ'
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการลุ่มน้ำคลามัธรายงานว่า ตอนนี้แม่น้ำกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง มีปลาแซลมอนอยู่ทั่วทุกหนแห่งในพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณต้นน้ำที่เป็นแหล่งวางไข่ซึ่งเคยเผชิญวิกฤต 'แซลมอลหายไป' นานกว่า 100 ปี