svasdssvasds

รู้จัก! 6 โรงกลั่นน้ำมันไทย ผลิตน้ำมันยูโร 5 รักษ์โลก มุ่งลดมลพิษจากไอเสียรถ

รู้จัก! 6 โรงกลั่นน้ำมันไทย ผลิตน้ำมันยูโร 5 รักษ์โลก มุ่งลดมลพิษจากไอเสียรถ

วันนี้จะพามาทำความรู้จัก! 6 โรงกลั่นน้ำมันของไทย ผลิตน้ำมันยูโร 5 รักษ์โลก ช่วยลดมลพิษจากไอเสียรถยนต์ โรงกลั่นน้ำมันไหนมีกำลังการผลิตเท่าไหร่

ประเทศไทยเดินหน้าใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 เพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเริ่ม 1 มกราคม 2567 กระทรวงอุตสาหกรรมจับมือกระทรวงพลังงาน เริ่มบังคับใช้ “มาตรฐานยูโร 5” หรือมาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ (Euro emissions standards) ระดับ 5 ซึ่งจะบังคับใช้ 2 องค์ประกอบหลักคือ รถยนต์และน้ำมัน หลังจากไทยใช้มาตรฐานยูโร 4 มาตั้งแต่ปี 2555

โดยกระทรวงพลังงาน ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM2.5 โดยมุ่งปรับปรุงคุณภาพน้ำมันในกลุ่มน้ำมันเบนซิน – แก็ซโซฮอล์ และกลุ่มดีเซล ให้เป็นมาตรฐาน ยูโร 5 ตามแผนปฏิบัติการวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” (มติ ครม. 1 ต.ค. 62) และประกาศกรมธุรกิจพลังงาน 3 ฉบับ ในขณะนี้

วันนี้ #สปริงนิวส์ จะพามาดูโรงกลั่นทั้ง 6 แห่ง ที่จะผลิตน้ำมันยูโร 5 น้ำมันรักษ์โลก ป้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนว่ามีที่ไหนบ้าง ดังนี้

โรงกลั่นน้ำมันไทย มีที่ไหนบ้าง?

  • โรงกลั่นไทยออยล์ ประมาณกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน
  • โรงกลั่นบางจาก ประมาณกำลังการผลิต 121,700 บาร์เรลต่อวัน
  • โรงกลั่นบางจากศรีราชา ประมาณกำลังการผลิต 174,000 บาร์เรลต่อวัน
  • โรงกลั่นพีทีทีซีจี ประมาณกำลังการผลิต 145,000 บาร์เรลต่อวัน
  • โรงกลั่นไออาร์พีซี ประมาณกำลังการผลิต 215,000 บาร์เรลต่อวัน
  • โรงกลั่นเอสพีอาร์ ประมาณกำลังการผลิต 175,000 บาร์เรลต่อวัน

อย่างไรก็ตามโรงกลั่นทั้ง 6 แห่งได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตและพร้อมจำหน่ายน้ำมันคุณภาพมาตรฐานยูโร 5 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.67 เป็นต้นไป สำหรับข้อเปรียบเทียบน้ำมันยูโร 4 กับ ยูโร 5 ต่างกันอย่างไร กลุ่มน้ำมันเบนซิน – แก็ซโซฮอล์ > ยูโร 4 : กำมะถัน ไม่สูงกว่า 50 ppm > ยูโร 5 กำมะถัน ไม่สูงกว่า 10 ppm (10 ส่วนในล้านส่วนโดยน้ำหนัก) กลุ่มดีเซล > ยูโร 4  กำมะถัน ไม่สูงกว่า 50 ppm สารโพลีโซคลิก อะมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ไม่สูงกว่าร้อยละ 11 โดยน้ำหนัก) > ยูโร 5 กำมะถัน ไม่สูงกว่า 10 ppm (10 ส่วนในล้านส่วนโดยน้ำหนัก) สารโพลีโซคลิก อะมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAH) ไม่สูงกว่าร้อยละ 8 โดยน้ำหนัก

 ทั้งนี้น้ำมันยูโร 5 สามารถใช้ได้กับรถยนต์ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ โดยไม่เกิดปัญหาต่อเครื่องยนต์จากข้อมูลกรมควบคุมมลพิษ พบว่ารถยนต์มาตรฐานยูโร 3 และรถยนต์มาตรฐานยูโร 4 ซึ่งมีสัดส่วนการใช้งานมากที่สุด เมื่อใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 ส่งผลให้ฝุ่น PM 2.5 ลดลงถึง 20 – 24%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related