เราทุกคนล้วนพึ่งพาไฟฟ้าเพื่อการศึกษา ทางการแพทย์ การทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น นี่จึงเป็นหน้าที่ของทีม Hot Line ที่เมื่อไฟฟ้าดับ คนไทยจะยังใช้ไฟฟ้าต่อได้อย่างปลอดภัย
ในชีวิตประจำวันของเราทุกคน ล้วนพึ่งพาไฟฟ้า… ไม่ว่าจะเป็นการประชุมสำคัญ การเรียนการสอน การทำงาน หรือการผ่าตัดในโรงพยาบาล ที่อยู่บนเส้นความเป็นความตาย ล้วนแต่ใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น ดังนั้น ไฟฟ้าจึงสำคัญต่อชีวิตของเราอย่างมาก
ในอดีต เวลาเกิดไฟดับ เจ้าหน้าที่จะต้องทำการตัดไฟหรือดับไฟฟ้า เพื่อทำการซ่อมบำรุง ให้ไฟกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ในระหว่างนั้น ประชาชนก็ต้องรอ หรือใช้ไฟสำรองไปก่อน จนกว่าไฟฟ้าจะกลับมา ซึ่งก็ทำให้หลาย ๆ คนถึงกับเซ็ง เพราะใช้ชีวิตยากลำบากมากขึ้น
เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดบ่อยขึ้น ไม่ว่าเหตุขัดข้องจะเกิดจากปัจจัยใดก็ตาม จึงทำให้ประเทศไทยมีแนวคิดที่จะซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชำรุดหรือเสียหายโดยใช้วิธีไม่ดับกระแสไฟฟ้า จึงนำมาซึ่งทีมงานชำนาญการโดยเฉพาะที่ชื่อว่า Hot Line
สำหรับประเทศไทย การบำรุงรักษาสายส่งโดยไม่ดับกระแสไฟฟ้า เกิดขึ้นครั้งแรกประมาณปีพ.ศ. 2502 โดยการไฟฟ้ายันฮี ซึ่งได้ก่อตั้งหน่วยบำรุงรักษาสายส่ง หรือ Hot Line เพื่อรองรับสายส่งที่กำลังก่อสร้างจากโรงงานไฟฟ้าพระนครเหนือไปเขื่อนภูมิพล
โดยทีม hot line ที่ว่านี้ คือทีมช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานตรวจสอบและซ่อมบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง จะทำงานกับสายส่งไฟฟ้าโดยตรงทั้งแบบสามารถดับกระแสไฟฟ้าและไม่ดับกระแสไฟฟ้า หรือที่เรียกว่าวิธี Bare Hand โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือลดผลกระทบต่อประชาชน ให้ประชาชนสามารถใช้ไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง และปลอดภัย
ไม่เพียงแค่นั้น ทีม Hot Line หรือ Line Man ต้องทำงานบนเสาส่งไฟฟ้าที่แต่ละต้นสูงราว ๆ 24-70 เมตร จึงต้องใช้แรงและความอดทนอย่างมาก ในการซ่อมบำรุง ด้วยความอันตรายนี้ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. นำนวัตกรรมมาช่วยให้การทำงานสะดวกและปลอดภัยขึ้น ซึ่งก็คือ Lineman Lift
ยิ่งเรานำนวัตกรรมนี้มาใช้ ก็ยิ่งลดรายได้ เพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุงสายส่งไฟฟ้า ลดความเสี่ยงไฟฟ้าดับ รองรับการใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้น ไฟฟ้าที่ประชาชนใช้ก็จะปลอดภัย มีคุณภาพ ไฟตกไฟดับก็ยังใช้ไฟฟ้าได้สบาย
และนี่ก็คือเบื้องหลังทีม Hot Line จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ที่มุ่งมั่นพัฒนาให้คนไทยมีไฟฟ้าใช้อย่างมั่นคง มีคุณภาพ ปลอดภัยและไม่มีสะดุด