svasdssvasds

กฟผ. ลุยขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านพลังงานด้วยเทคโนโลยี 3 ระยะ หนุนไทยสู่ Net Zero

กฟผ. ลุยขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านพลังงานด้วยเทคโนโลยี 3 ระยะ หนุนไทยสู่ Net Zero

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เดินหน้าลุยขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านพลังงานด้วยเทคโนโลยี 3 ระยะ หนุนไทยสู่ Net Zero

วันนี้เรื่องของ Net Zero กลายมาเป็นมาตรการแข่งขันทางการค้า และคุณรู้หรือไม่ว่า? มันไม่ใช่แค่ทางด้านต้นทุนหรือคุณภาพ แต่…ภาคธุรกิจยังต้องแข่งขันด้านความยั่งยืน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประเด็น ESG และ Net Zero ได้กลายเป็นเงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศไปแล้วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยจริงๆ จึงทำให้โลกธุรกิจต้องเร่งปรับตัวเพื่อรับกฎเกณฑ์ทางการค้าที่มีแนวโน้มเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

 

จากการที่โลกของการค้า การลงทุน ที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็ต้องเร่งปรับตัวให้รวดเร็วให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกเช่นกัน เนื่องในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้ปล่อยคาร์บอนรายใหญ่ วันนี้จะพามาดูแผนการปรับตัวของ กฟผ. จาก ‘วฤต รัตนชื่น’ ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “EGAT Way to Energy Future” ภายในงานสัมมนา “A Call for Adaptation: The Sustainability in Trade & Industry” จัดโดย กรุงเทพธุรกิจ ร่วมกับ Sustainability Expo 2025 (SX2025) ว่า จากการที่โลกธุรกิจการค้า ยุคใหม่แข่งขันกันด้านความยั่งยืนมากขึ้น จึงทำให้ กฟผ. ต้องเร่งปรับตัวเองให้เร็วขึ้น พร้อมมุ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานผ่านเทคโนโลยี 3 ระยะ ดังนี้

กฟผ. ลุยขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านพลังงานด้วยเทคโนโลยี 3 ระยะ หนุนไทยสู่ Net Zero

• เทคโนโลยีที่ใช้ได้แล้ว

ยกตัวอย่างเช่น โซลาร์รูฟท็อป วินด์ฟาร์ม โดยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ซึ่งยังมีความผันผวน จำเป็นต้องเสริมด้วย กริดโมเดอร์ไนเซชั่น เพื่อรองรับ และรักษาเสถียรภาพให้ดี

• เทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน

นับได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน เช่น ไฮโดรเจน , เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CCS และ เทคโนโลยี SMR ที่ต่างประเทศใช้งานจริงในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งการเดินเรือ และการบิน แล้ว และได้ผลดี ไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงภาคประชาชนรับได้

• เทคโนโลยีอนาคต

เรื่องของอนาคตก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้ปัจจุบัน เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนไปรวดเร็ว จึงทำให้ กฟผ.สนใจในเรื่องของพลังงานฟิวชัน “ดวงอาทิตย์เทียม” ที่กำลังอยู่ระหว่างการวิจัย ซึ่งหากสำเร็จจะปฏิวัติระบบพลังงานโลกได้มหาศาลเลยทีเดียว

นอกจากแผนงานการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานผ่านเทคโนโลยี 3 ระยะ ของ กฟผ. ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว กฟผ. ยังได้สร้าง EV Ecosystem ครบวงจรเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านจากน้ำมันสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในขณะเดียวกันยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงานด้วย AI, Smart Board, การซื้อขายไฟฟ้าและเครดิตคาร์บอนในกลุ่ม RE100 อีกทั้งยังมีโซลูชัน Solar และ PPA ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการเพิ่มเสถียรภาพด้านพลังงาน กฟผ. ได้นำร่องโซลาร์ลอยน้ำบนอ่างเก็บน้ำ (Floating Solar) ในบางเขื่อนแล้วเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าโดยไม่กระทบการประมงหรือวิถีชุมชน นอกจากนี้ กฟผ. ยังจัดตั้ง RE Forecast Center ใช้ AI คาดการณ์ปริมาณไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบเรียลไทม์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความผันผวนและรักษาเสถียรภาพระบบไฟฟ้า

กฟผ. ลุยขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านพลังงานด้วยเทคโนโลยี 3 ระยะ หนุนไทยสู่ Net Zero

ไม่เพียงเท่านี้ กฟผ. ยังได้มีการตั้งเป้าพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานมากกว่า 45,000 เมกะวัตต์-ชั่วโมง แบ่งเป็น 20,000 เมกะวัตต์-ชั่วโมง จาก Pump Storage Hydro และอีก 25,000 เมกะวัตต์-ชั่วโมง จาก Battery Storage ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ฉบับใหม่ด้วย สำหรับการพัฒนา และการปรับตัวต่างๆ ของ กฟผ. จะเน้นการพัฒนาควบคู่กับมาตรการด้านความปลอดภัย และการวิจัยพัฒนา Battery Supply Chain ภายในประเทศ เช่น การรีไซเคิลแบตเตอรี่ และการสกัดแร่หายาก เพื่อสร้างความมั่นคงและลดการพึ่งพาต่างประเทศให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

สุดท้าย ท้ายที่สุด กฟผ. จะปรับตัวเองไม่ใช่แค่เพียงหวังลดคาร์บอนเพียงอย่างเดียว แต่…แผนงานที่ใหญ่กว่านั้น คือการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ได้มากที่สุด บนเวทีโลก และกติกาการค้าใหม่ของโลก เรียกได้ว่าหากไทยพร้อมก่อนย่อมได้เปรียบแน่นอนในสังเวียนที่มีแต่ผู้ท้าชิงมากหน้าหลายตา เพราะ…พลังงานสะอาด-สิทธิสีเขียวกลายเป็นต้นทุนการค้า บอกได้คำเดียว่าไทยต้องพร้อมเท่านั้น!

related