SHORT CUT
รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งยกเลิกโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่จ่ายไฟให้บ้านเรือนได้ 2 ล้านหลัง ซึ่งนับเป็นนโยบายที่ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อพลังงานหมุนเวียนของประเทศ
รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งยกเลิกโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ "เอสเมอรัลดา 7" ในรัฐเนวาดา หนึ่งในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งแสดงให้เห็นว่านโยบายด้านพลังงานของทรัมป์ไม่ได้โจมตีไปยังพลังงานลมเท่านั้น แต่รวมถึงพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดด้วย
"เอสเมอรัลดา 7" เป็นโครงการซูเปอร์โปรเจกต์ทางตอนใต้ของรัฐเนวาดา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 185 ตารางไมล์ ประกอบด้วยโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 7 โครงการที่เสนอโดยบริษัทต่างๆ ได้แก่ NextEra Energy Resources, Leeward Renewable Energy, Arevia Power และ Invenergy โดยเครือข่ายแผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่ทั้งหมดตั้งเป้าที่จะผลิตพลังงานได้ 6.2 กิกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับบ้านเกือบ 2 ล้านหลัง
ทรัมป์ไม่เอาพลังงานหมุนเวียน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์พยายามยับยั้งหรือขัดขวางโครงการเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียนในประเทศ ในคำสั่งฝ่ายบริหารวันแรกของเขา ทรัมป์ได้สั่งระงับการอนุมัติพลังงานหมุนเวียนใหม่สำหรับที่ดินและน้ำที่รัฐบาลกลางเป็นเจ้าของ ต่อมาได้แต่งตั้งแคทลีน สแกมมา ประธานกลุ่มการค้าอุตสาหกรรมน้ำมัน Western Energy Alliance ในรัฐโคโลราโด ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานบริหารจัดการที่ดินสาธารณะ หรือ BLM ซึ่งรับผิดชอบการเปลี่ยนสถานะของ "เอสเมอรัลดา 7" ว่าถูก " ยกเลิก " แล้ว
ในเดือนกรกฎาคม ทรัมป์ได้ออกคำสั่ง "หยุดยั้งโครงการพลังงานหมุนเวียน" โดยเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทยทบทวนนโยบายที่มีผลกระทบต่อพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ และมอบอำนาจการตัดสินใจขั้นสุดท้ายให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดั๊ก เบิร์กกัม ว่าโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการต่อได้หรือไม่
เดือนต่อมา ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่ารัฐบาลของเขาจะไม่อนุมัติโครงการพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม โดยเขาได้โพสต์บน Truth Social ระบุว่า “เราจะไม่อนุมัติให้พลังงานลมหรือเกษตรกรทำลายพลังงานแสงอาทิตย์” เขาโพสต์บน Truth Socialและ “ยุคแห่งความโง่เขลาในสหรัฐอเมริกาได้สิ้นสุดลงแล้ว!!!”