svasdssvasds

การใช้กัญชาอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมสู่รุ่นต่อไป

การใช้กัญชาอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมสู่รุ่นต่อไป

นักวิทยาศาสตร์พบ การใช้กัญชาอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเอพิจีโนมของร่างกายมนุษย์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะถูกถ่ายทอดไปยังรุ่นต่อๆ ไปได้

จากการศึกษาโดยใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ใหญ่กว่า 1,000 คน พบว่าการใช้กัญชามีความเชื่อมโยงกับกับการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของมนุษย์ โดยอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน 'เอพิจีโนม' ซึ่งทำหน้าที่เหมือนสวิตช์สำหรับเปิดหรือปิดการใช้งานยีนเพื่อเปลี่ยนแปลงการทำงานของร่างกายมนุษย์

ปัจจุบันกัญชาเป็นสารที่ใช้กันทั่วไปในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา รวมถึงในอีกหลายประเทศที่ทำให้การใช้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนมองว่า เราอาจยังไม่เข้าใจผลกระทบของกัญชาต่อสุขภาพของเราอย่างแท้จริง

การใช้กัญชาอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมสู่รุ่นต่อไป

จากการเก็บตัวอย่างเลือดของผู้ใช้กัญชาโดยเว้นระยะห่าง 5 ปี คือตอนที่พวกเขาอายุ 15 และ 20 ปี นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษา 'การเปลี่ยนแปลงทางเอพิเจเนติกส์' ระดับ เมทิลเลชันของดีเอ็นเอของผู้ที่ใช้กัญชาเมื่อไม่นานนี้หรือเมื่อใช้เป็นเวลานาน ซึ่งโดยปกติแล้วหากมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและรูปแบบการใช้ชีวิตที่กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของการเมทิลเลชัน ก็จะสามารถถูกถ่ายทอดไปยังลูกหลานรุ่นต่อๆ ไปของเราได้

การใช้กัญชาอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมสู่รุ่นต่อไป

พวกเขาพบการเปลี่ยนแปลงทางเอพิเจเนติกส์หลายประการที่เกี่ยวข้องกับการใช้กัญชา ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น การแพร่กระจายของเซลล์ การส่งสัญญาณของฮอร์โมนการติดเชื้อ หรือความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น โรคจิตเภทและโรคสองขั้ว และความผิดปกติจากการใช้สารเสพติด

อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ยังไม่ได้พิสูจน์ว่ากัญชาคือปัจจัยหลักทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้โดยตรง หรือทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ แต่ก็ทำให้เห็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการใช้กัญชาและปัจจัยทางจีโนมิกส์ ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อศึกษาผลกระทบจากการใช้กัญชาในระยะยาว