ข่าวดี! EU จัดระดับ ‘สินค้าเกษตรไทย’ ความเสี่ยงต่ำตัดไม้ทำลายป่า
“นฤมล” เผยข่าวดี ไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “Low Risk” ตามกฎ EUDR เอื้อส่งออกสินค้าเกษตรไปยุโรปง่ายขึ้น สะท้อนความเชื่อมั่นของ EU ต่อเกษตรยั่งยืนไทย
SHORT CUT
- ส่งออกสินค้าเกษตรกรไทยไม่ได้ง่ายๆ เพราะการทำการเกษตรเพื่อการส่งออกในปัจจุบันนี้ต้องระวังเรื่องการตัดไม้ทำลายป่าเป็นอย่างมาก เพราะสหภาพยุโรปเข้มงวดอย่างมาก
- โดยก่อนหน้านี้มีข่าวมาว่า EU เตรียมแบนไทยรับ EUDR ซึ่งจะผลในทางปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา
- แต่..ล่าสุดมีข่าวดีมีการประกาศให้ไทยได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศ “ความเสี่ยงต่ำ” (Low Risk) ในการผลิตสินค้าเกษตรที่อาจเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า
“นฤมล” เผยข่าวดี ไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “Low Risk” ตามกฎ EUDR เอื้อส่งออกสินค้าเกษตรไปยุโรปง่ายขึ้น สะท้อนความเชื่อมั่นของ EU ต่อเกษตรยั่งยืนไทย
การทำการเกษตรเพื่อการส่งออกในปัจจุบันนี้ต้องระวังเรื่องการตัดไม้ทำลายป่าเป็นอย่างมาก เพราะสหภาพยุโรปเข้มงวดอย่างมาก ประเทศไหนที่จะส่งสินค้าทางการเกษตรไป EU จะต้องปลอดการตัดไม้ทำลายป่า โดยก่อนหน้านี้มีข่าวมาว่า EU เตรียมแบนไทยรับ EUDR ซึ่งจะผลในทางปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่… ความคืบหน้าล่าสุดมีข่าวดีศ.ดร นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากที่มีการประกาศกฎระเบียบ EU Deforestation-free Regulation หรือ EUDR ที่กำหนดให้สินค้าที่จะส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ต้องปลอดการตัดไม้ทำลายป่า
โดยกระบวนการผลิตที่ปฏิบัติจะถูกต้องตามกฎหมายต่าง ๆ อาทิ กฎหมายที่ดิน แรงงาน สิทธิมนุษยชนนั้น กระทรวงเกษตรฯ ได้ให้ความร่วมมือในทุกมิติกับทางสหภาพยุโรป และผลักดันให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ ยกระดับการจัดการเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบ EUDR
ทั้งนี้ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศรายชื่อประเทศที่ได้รับการจัดกลุ่มความเสี่ยงภายใต้ระเบียบว่าด้วยผลิตภัณฑ์จากการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation Regulation: EUDR) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของ EU ในการส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำลายป่าไม้ โดย ประเทศไทยได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศ “ความเสี่ยงต่ำ” (Low Risk) ซึ่งหมายความว่าประเทศไทยมีระดับความเสี่ยงต่ำในการผลิตสินค้าเกษตรที่อาจเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า
“การได้รับการจัดอันดับดังกล่าวที่ออกมา เป็นผลจากการที่กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการตื่นตัว และเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าเกษตรกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เช่น โกโก้ กาแฟ ปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลือง ไม้ และยาง สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของ EUDR ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในด้านการตรวจสอบย้อนกลับและการจัดทำเอกสาร รวมถึงยังเป็นการสะท้อนถึงความก้าวหน้าของประเทศไทยในการพัฒนาเกษตรกรรมที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่ EU ให้การยอมรับด้วย” ศ.ดร นฤมล กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
