svasdssvasds

เปิดแผน 'ลดฝุ่น PM2.5' มั่นใจปีนี้ กทม. ลด 5% เข้มสกัดฝุ่นข้ามแดน

เปิดแผน 'ลดฝุ่น PM2.5' มั่นใจปีนี้ กทม. ลด 5% เข้มสกัดฝุ่นข้ามแดน

รัฐบาล-กทม. ผนึกกำลังลุย “Green List Plus” สู้ฝุ่น PM2.5 “ชัชชาติ” ตั้งเป้าลดฝุ่น 5% ด้าน “สุชาติ” เตรียมถกผู้ว่าฯ รอบปริมณฑล วันที่ 5 พ.ย. 68 เข้มมาตรการสกัดฝุ่นข้ามแดน งดซื้อข้าวโพดเผา

SHORT CUT

  • ปัญหาฝุ่น PM2.5 นับว่าเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ในช่วงปลายปีแบบนี้ ดังนั้นหลายฝ่ายจึงเร่งมือแก้ไขปัญหานี้
  • ล่าสุดรัฐบาล-กทม. ผนึกกำลังลุย “Green List Plus” สู้ฝุ่น PM2.5 “ชัชชาติ” ตั้งเป้าลดฝุ่น 5%
  • ด้าน “สุชาติ” เตรียมถกผู้ว่าฯ รอบปริมณฑล วันที่ 5 พ.ย. 68 เข้มมาตรการสกัดฝุ่นข้ามแดน งดซื้อข้าวโพดเผา

รัฐบาล-กทม. ผนึกกำลังลุย “Green List Plus” สู้ฝุ่น PM2.5 “ชัชชาติ” ตั้งเป้าลดฝุ่น 5% ด้าน “สุชาติ” เตรียมถกผู้ว่าฯ รอบปริมณฑล วันที่ 5 พ.ย. 68 เข้มมาตรการสกัดฝุ่นข้ามแดน งดซื้อข้าวโพดเผา

ปัญหาฝุ่น PM2.5 นับว่าเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ในช่วงปลายปีแบบนี้ ดังนั้นหลายฝ่ายจึงเร่งมือแก้ไขปัญหานี้ อย่างล่าสุดนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยเปิดเผยถึงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และภาคส่วนต่างๆ ว่า สถานการณ์จุดฮอตสปอต (hotspot) ที่ผ่านมา เราลดลงไปประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว และมีความพยายามที่จะให้ลดลงอีก โดยมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ในข้อที่ 12 และข้อ 13

สำหรับโครงการ “Green List Plus” ซึ่งต่อยอดมาจากโครงการ Green List เดิมที่ผู้ว่าฯ กทม. ได้ริเริ่ม โครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นที่เกิดจากการที่ประชาชนไม่ได้ดูแลรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ โดย Green List Plus ได้เพิ่มรถเล็กเข้ามาเข้าร่วมโครงการด้วย จากเดิมที่มีแต่รถโดยสารและรถบรรทุก

เปิดแผน \'ลดฝุ่น PM2.5\' มั่นใจปีนี้ กทม. ลด 5% เข้มสกัดฝุ่นข้ามแดน

โดยรายละเอียดของโครงการ Green List Plus คือการได้รับความร่วมมือจากกลุ่มค่ายรถยนต์ 9 ค่าย โดยให้บริการตรวจเช็กสภาพรถฟรีค่าแรง และลดค่าอะไหล่เหลือ 50% เพื่อให้ประชาชนหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองรถ โครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน และไปสิ้นสุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากต้องดำเนินการในช่วงฤดูฝุ่นเพื่อให้เกิดผลมากที่สุด

นอกจากนี้ยังมีการใช้มาตรการปลายน้ำเพื่อเป็นรางวัลสำหรับผู้ที่ทำความดี โดยผู้ที่ติดสติกเกอร์ Green List ที่ผู้ว่าฯ กทม. ได้ออกไป จะได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น ที่จอดรถพิเศษในห้างสรรพสินค้าและสถานที่ที่จัดไว้ให้ รวมถึงบัตรโดยสารรถไฟฟ้า BTS หรือโปรโมชั่นส่วนลดในการซื้อของเตรียมเรียกผู้ว่าฯ จังหวัดรอบปริมณฑลถกเข้มสุขภาพประชาชน

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้ดูแลกลุ่มจังหวัดต่างๆ ด้วย และในวันที่ 5 นี้ จะมีการนัดผู้ว่าราชการจังหวัดรอบปริมณฑลทั้งหมด เพื่อหารือและทำความเข้าใจร่วมกัน โดยจะขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดสรรงบประมาณที่ได้รับจากรัฐบาล หันกลับมาดูเรื่องคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนในจังหวัดนั้นๆ เป็นหลัก เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว และการแก้ไขปัญหาฝุ่น กทม. และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เพียงลำพังไม่สามารถทำได้ ทุกจังหวัดต้องร่วมมือกันมาตรการรับมือฝุ่นภาคเหนือและฝุ่นข้ามแดน

สำหรับปัญหาฝุ่นภาคเหนือและฝุ่นข้ามแดน นายสุชาติ ยอมรับว่ามีปัญหาที่ต้องแก้ไข เนื่องจากประเทศไทยมีความจำเป็นต้องพิจารณาประเด็นการซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเผา ซึ่งตามข้อตกลงเดิมอาจต้องรับซื้อ แต่รัฐบาล จะพยายามหลีกเลี่ยงการรับซื้อข้าวโพดที่เกิดจากการเผา เพื่อลดผลกระทบเมื่อลมหนาวพัดฝุ่นเข้าสู่ประเทศไทย

นอกจากนี้ในการดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและอ้อยในพื้นที่ปริมณฑลและจังหวัดรอบข้าง ยืนยันว่าไม่ได้มองว่าเกษตรกรเป็นต้นเหตุ แต่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือและหาแนวทางแก้ไขปัญหา เนื่องจากเกษตรกรประสบปัญหาเรื่องต้นทุนและแรงงาน ซึ่งการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่เคยเข้ามาตัดอ้อยจากประเทศเพื่อนบ้านที่ปัจจุบันมีปัญหาปิดด่านชายแดน ถือเป็นอุปสรรคสำคัญ

เปิดแผน \'ลดฝุ่น PM2.5\' มั่นใจปีนี้ กทม. ลด 5% เข้มสกัดฝุ่นข้ามแดน

‘ชัชชาติ’ ตั้งเป้าลดวันฝุ่นเกิน 5%

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึงการทำงานร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมควบคุมมลพิษตลอดมา โดยกล่าวถึงเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ตั้งเป้าลดจำนวนวันที่เกินค่ามาตรฐานลงอย่างน้อย 5% ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ระบุว่า การบรรลุเป้าหมายไม่ใช่เรื่องง่าย โดยได้มีการตั้งเป้าหมายจำนวนรถที่เข้าร่วมโครงการ Green List Plus ไว้ที่ 500,000 คัน และสนับสนุนให้มีประชาชนเข้าร่วมมาตรการทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) เพิ่มอีก 300,000 คน เพื่อให้เป็นตัวเลขที่ชี้วัดความมั่นใจในการจัดการฝุ่นในปีนี้

นอกจากนี้ กทม. ยังคงประสานงานอย่างต่อเนื่องกับจังหวัดรอบข้าง เช่น นครนายก เพื่อเข้าไปช่วยทำความเข้าใจและสนับสนุนพี่น้องเกษตรกรชาวนาและชาวไร่อ้อยในการหาวิธีการที่ไม่ต้องเผาผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลพื้นที่โดยรอบนอกเหนือจากแค่ใน กทม. ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เชื่อมั่นว่าจากความร่วมมือและการบูรณาการจากหลายภาคส่วนในทุกพื้นที่ สถานการณ์ฝุ่นน่าจะดีขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

 

 

 

related