ไทยเร่งเจรานำ ‘ช้างไทย’ กลับจากศรีลังกา เน้นละมุนละม่อม รักษาความสัมพันธ์

ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติไทย โดยกำหนดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2544 เนื่องจากช้างมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่โบราณ โดยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งช้างเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์ และเคยถูกใช้เป็นพาหนะในการศึกสงครามเพื่อปกป้องชาติ ช้างเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศไทย นอกจากนี้ช้างมีความเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทยมาช้านาน ทั้งในด้านการเป็นแรงงานและการท่องเที่ยวในปัจจุบัน จึงทำให้ช้างเป็นสัตว์ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ จึงได้มีการกำหนดให้วันที่ 13 มีนาคมของทุกปี เป็น "วันช้างไทย"

นอกจากนี้ช้างไทยได้ถูกส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรีใน 5 ประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา , เดนมาร์ก, ญี่ปุ่น, สวีเดน และออสเตรเลีย ช้างเหล่านี้ถูกส่งไปในนามของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะศรีลังกา ที่ก่อนหน้านี้พลายศักดิ์สุรินทร์ที่ป่วย และไทยขอนำตัวกลับมารักษาไทยประเทศไทย และล่าสุดรัฐบาลไทยเดินหน้าเจรจานำ “ช้างไทย” กลับจากศรีลังกา

โดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยกำลังเร่งรัดภารกิจนำช้างไทยจำนวน 2 เชือกที่อยู่ในประเทศศรีลังกากลับคืนสู่ประเทศไทย ซึ่งในจำนวนนี้หนึ่งเชือกเป็นช้างพระราชทาน ซึ่งประเด็นนี้ได้รับความห่วงใยอย่างยิ่งจากพี่น้องประชาชนคนรักช้าง โดยท่านนายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์มากำชับถึงเรื่องนี้ทุกวัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กรมอุทยาน และชมรมคนรักช้างไทยแล้ว พร้อมทั้งได้ส่งทีมงานเข้าไปทำงานล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบสถานที่และสภาพความเป็นอยู่ของช้างแต่ละตัว

สำหรับแนวทางในการเจรจาเป็นไปอย่างละมุนละม่อม และต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุดในการสื่อสารต่อสาธารณะ ผู้รับผิดชอบเน้นย้ำว่า การสื่อสารทุกคำต้องระวังไม่ให้เป็นการตำหนิว่าศรีลังกาดูแลไม่ดี ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ กลยุทธ์สำคัญจึงเป็นการขอความเห็นใจมากกว่าการกล่าวโทษ โดยจะมีการเน้นการพูดคุยในประเด็นเรื่องอายุที่มากของช้าง โดยจะขอ “ขอความเห็นใจ” จากประเด็นที่ช้างทั้งสองเชือกคือ “พลายประตูผา” อายุราว 50 ปี และ “พลายศรีณรงค์” มีอายุมากและผ่านการทำงานหนักมานาน

โดยเฉพาะช้างเชือกหนึ่งชื่อ พลายประตูผา ซึ่งมีอายุมากถึง 50 ปี โดยการเจรจาครั้งนี้จะแตกต่างจากกรณีของพลายศักดิ์สุรินทร์ในครั้งก่อน ที่ยอมรับตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เนื่องจากช้างป่วยหนักจนเดินไม่ได้ อย่างไรก็ตามแม้ว่ารัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของศรีลังกาจะตั้งคณะกรรมการสัตวแพทย์ขึ้นมาตรวจสุขภาพช้างทั้งสองเชือกแล้วก็ตาม

โดยผู้รับผิดชอบได้แสดงความตั้งใจที่จะเดินทางไปเจรจาด้วยตนเองที่ศรีลังกา โดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเดินทางได้ประมาณต้นเดือนหน้า นอกจากนี้ยังมีการหารือกับอดีตเอกอัครราชทูตเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการที่เคยเกิดขึ้นในอดีต รัฐบาลไทยมีความเชื่อมั่นและมีความตั้งใจที่จะ นำช้างกลับมาเร็วที่สุด ด้วยวิธีการใดวิธีหนึ่งให้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สวนนงนุชพัทยาจัดช้าง 73 เชือก ถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ 73 พรรษา

• ปางช้างริมน้ำกก ในวันที่สารหนูซ้ำเติมวิกฤตนักท่องเที่ยว

• ปัญหา "ช.ช้าง กับ ค.คน" แก้ไขได้ หากภาครัฐกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น