Apple ถูกฟ้องในสหรัฐฯ ฐานอ้างเกินจริงว่า Apple Watch เป็นกลางทางคาร์บอน ผู้บริโภคโต้ว่าโครงการคาร์บอนเครดิตที่ Apple ใช้ ไม่ได้ช่วยลดคาร์บอนจริง
สาวก Apple อาจเคยได้ยินว่า Apple watch ทั้งสามรุ่น (Apple Watch Series 9, SE และ Ultra 2) “เป็นกลางทางคาร์บอน” (carbon neutral) หรือพูดง่าย ๆ คือ มลพิษจากการผลิต Apple watch ถูกดูดซับกลับคืนผืนป่าเท่ากับปริมาณการปล่อยคาร์บอนที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ
ล่าลุด สำนักข่าวรอยสเตอร์ รายงานว่า ผู้บริโภค จำนวน 7 ราย เดินทางไปยังศาลรัฐบาลกลางซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย ฟ้อง Apple ฐานทำให้คนเข้าใจผิดว่า นาฬิกาข้อมือรุ่นฮิตนั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเรื่องเท็จ (ตามคำกล่าวอ้างของผู้บริโภค)
ในเนื้อหาคำฟ้องนั้น สรุปใจความได้ว่า บริษัทเปิดตัว Apple watch Series 9, SE และ Ultra 2 ในเดือนกันยายน ปี 2023 โดยมีการพาดหัว และโปรโมทว่า “Apple unveils its first carbon neutral products” หรือ แอปเปิลเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นแรกที่เป็นกลางทางคาร์บอน
โดยบริษัทระบุว่ามลพิษที่ลดลงนั้นมาจากกระบวนการผลิต การเลือกใช้วัสดุ และการซื้อคาร์บอนเครดิต จนในที่สุด นาฬิกาข้อมือของ Apple ก็บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน แต่ผู้บริโภคที่ฟ้องร้องกลับบอกว่า แท้จริงแล้วไม่ใช่
ผู้บริโภคเปิดเผยว่า 2 โครงการที่ Apple ซื้อคาร์บอนเครดิตอยู่นั้น ได้แก่ Chyulu Hills อุทยานแห่งชาติในเคนยา และ Guinan ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของมณฑลชิงไห่
ประเด็นก็คือ โครงการใน Chyulu Hills ตั้งอยู่บนที่ดินที่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายจากการตัดไม้ทำลายป่าตั้งแต่ปี 1983 และในกรณีของ Guinan ก็มีการปลูกต้นไม้กันมาตั้งนานแล้ว ก่อนที่ Apple จะเข้ามาในปี 2015 เสียอีก
หมายความว่า Apple แทบไม่ได้ทำอะไรเลยในการดูดซับคาร์บอนตามที่กล่าวอ้าง
ในวันที่ 27 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา บริษัท Apple ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า บริษัทได้ “ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับ Apple Watch ลงอย่างมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ และเรากำลังลงทุนอย่างมากในโครงการที่อิงกับธรรมชาติเพื่อกำจัดคาร์บอนออกจากอากาศหลายแสนเมตริกตัน”
นอกจากนี้ Apple ยังเปิดเผยอีกว่า ได้เลิกใช้คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 485,000 เมตริกตัน โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการ Chyulu Hills ในเคนยาและโครงการ Guinan ในจีน ดังที่ปรากฏในคำฟ้อง
นี่เป็นใจความจากทั้ง 2 ฝ่าย ที่เราหยิบยกมาให้อ่านกัน คงต้องให้คุณตัดสินใจเอาเองแล้วว่าข่าวนี้จะมีผลต่อภาพลักษณ์ และการตัดสินใจซื้อสินค้าจาก Apple ในอนาคตหรือไม่ แต่จากการค้นคว้าพบว่า ผู้บริโภค 70% มองว่าความยั่งยืน มีผลในการตัดสินใจซื้อสินค้า
ที่มา: Reuters
ข่าวที่เกี่ยวข้อง