svasdssvasds

เปิด 3 ศัตรูตัวฉกาจทำลาย ‘ความยั่งยืน’คอร์รัปชัน-ความไม่เกี่ยวข้อง-เพิกเฉย

เปิด 3 ศัตรูตัวฉกาจทำลาย ‘ความยั่งยืน’คอร์รัปชัน-ความไม่เกี่ยวข้อง-เพิกเฉย

ชัชชาติ’ ชี้ 3 ศัตรูตัวฉกาจทำลาย ‘ความยั่งยืน’คอร์รัปชัน-ความไม่เกี่ยวข้อง-ความเพิกเฉยที่บั่นทอนความเจริญ กทม. ชู "ความไว้วางใจ" และ "การลงมือทำ" พลิกโฉมเมืองน่าเที่ยวสู่น่าอยู่เพื่อความสุขยั่งยืน

SHORT CUT

  • กรุงเทพมหานครกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญในการเปลี่ยนสถานะจากเมืองน่าเที่ยวอันดับ 1 ของโลก ไปสู่การเป็น เมืองน่าอยู่ หลังจากปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 98 จาก 140 ประเทศทั่วโลก
  • การเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากไม่สามารถดึงดูดและรักษาคนเก่งไว้ได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาในอนาคต

  • 'ชัชชาติ' ชี้ 3 ศัตรูตัวฉกาจทำลาย ‘ความยั่งยืน’คอร์รัปชัน-ความไม่เกี่ยวข้อง-ความเพิกเฉยที่บั่นทอนความเจริญ

ชัชชาติ’ ชี้ 3 ศัตรูตัวฉกาจทำลาย ‘ความยั่งยืน’คอร์รัปชัน-ความไม่เกี่ยวข้อง-ความเพิกเฉยที่บั่นทอนความเจริญ กทม. ชู "ความไว้วางใจ" และ "การลงมือทำ" พลิกโฉมเมืองน่าเที่ยวสู่น่าอยู่เพื่อความสุขยั่งยืน

เชื่อว่ามนุษย์เรากำลังเดินหน้าหาความสุขอย่างยั่งยืนให้ตัว แต่การที่จะทำให้ชีวิตเราเกิดความยั่งยืนก็ต้องอาศัยหลายองค์ประกอบมารวมกัน วันนี้ #SPRiNG จะพาไปฟังมุมคิดดีๆจาก ‘นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยในงานเสวนา Sustain Daily Talk 2025 สุขยั่งยืน : ร่วมลงมือทำ สู่แรงบันดาลใจ Sustainable Happiness...Act to Inspire จัดโดยเดลินิวส์ ว่า กรุงเทพมหานครกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญในการเปลี่ยนสถานะจากเมืองน่าเที่ยวอันดับ 1 ของโลก ไปสู่การเป็น เมืองน่าอยู่ หลังจากปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 98 จาก 140 ประเทศทั่วโลก การเป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากไม่สามารถดึงดูดและรักษาคนเก่งไว้ได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาในอนาคต

ความยั่งยืนและ 3 ศัตรูตัวฉกาจ

ทั้งนี้หัวใจสำคัญของการพัฒนาคือความยั่งยืน ซึ่งนิยามอย่างง่ายได้ว่าคือการไม่นำทรัพยากรของคนรุ่นต่อไปมาใช้เพื่อความสุขในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามการจะไปถึงจุดนั้นได้จำเป็นต้องเอาชนะศัตรูของความยั่งยืน 3 ประการ ได้แก่

1. คอร์รัปชัน ถือเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นการนำทรัพยากรของส่วนรวมและคนรุ่นใหม่มาใช้โดยไม่เกิดประโยชน์ และเป็นอุปสรรคโดยตรงต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

2. ความไม่เกี่ยวข้อง (Irrelevance) เป้าหมายระยะยาว เช่น Net Zero ในอีก 20-30 ปีข้างหน้า อาจเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับประชาชนทั่วไป. ดังนั้น การซอยย่อยเป้าหมายใหญ่ให้เล็กลงและเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เช่น การตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปีละ 3% จะทำให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมได้ง่ายขึ้น.

3. ความเพิกเฉย (Ignorance) คือความรู้สึกว่าการกระทำของคนเพียงคนเดียวไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น การแยกขยะ ทั้งที่จริงแล้วหากทุกคนร่วมมือกันจะสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้

เปิด 3 ศัตรูตัวฉกาจทำลาย ‘ความยั่งยืน’คอร์รัปชัน-ความไม่เกี่ยวข้อง-เพิกเฉย

เครื่องมือสร้างความไว้วางใจและเปลี่ยนเมือง

โดย กทม. ได้วางกลยุทธ์การพัฒนาที่ชัดเจนโดยมีหัวใจสำคัญคือ การสร้างความไว้วางใจ (Trust) ระหว่างภาครัฐและประชาชนเครื่องมือสำคัญที่ใช้ทลายกำแพงระบบราชการแบบเก่าที่ล่าช้าคือแพลตฟอร์ม Traffy Fondue ซึ่งเปิดให้ประชาชนแจ้งปัญหาถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบได้โดยตรง

• สถิติความสำเร็จ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีประชาชนแจ้งเรื่องเข้ามาถึง 1.73 ล้านเรื่อง และได้รับการแก้ไขแล้วกว่า 860,000 เรื่อง

• เพิ่มประสิทธิภาพ สามารถลดระยะเวลาการแก้ปัญหาโดยเฉลี่ยจากหลักเดือนเหลือเพียง 1.9 วันต่อเรื่อง

• สร้างความไว้วางใจการที่ประชาชนยอมเสียเวลาแจ้งเรื่องเข้ามาสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาร่วมกัน.

โครงการรูปธรรมสู่เมืองน่าอยู่

นอกจากการแก้ปัญหาผ่านแพลตฟอร์มแล้ว กทม.ยังได้ขับเคลื่อนโครงการรูปธรรมอีกหลายร้อยโครงการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงทางเท้ากว่า 1,100 กิโลเมตร,พัฒนาคลองและถนนสวย, โครงการปลูกต้นไม้ที่ปลูกไปแล้วกว่า 2.19 ล้านต้น, การเพิ่มสวน 15 นาทีเกือบ 400 แห่ง, จัดตั้ง Food Bank ครบ 50 เขตเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ขาดแคลน ,

และการสร้างสรรค์กิจกรรมทางวัฒนธรรมและกีฬา เช่น ดนตรีในสวนและศิลปะสาธารณะ เพื่อสร้างความสุขและความมีชีวิตชีวาให้กับเมือง การสร้างเมืองแห่งความสุขที่ยั่งยืนนี้ไม่ใช่ภารกิจของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกันลงมือทำ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริงในช่วงชีวิตของเราทุกคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related