
SHORT CUT
TCP Spirit “อาสา อา Guard” ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ ร่วมเป็น ‘Guard’ ปกป้อง ‘อากาศ’ และโลกใบนี้ไปด้วยกัน เรียนรู้ เข้าใจ ลงมือดูแลโลกจริง ผ่านห้องเรียนธรรมชาติ เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero
ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่รอไม่ได้แล้ว จึงทำให้ทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมถูกทำลายกันอย่างจริงจัง รวมถึงปัญหาโลกร้อน โลกรวน ที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนที่เดินหน้าปลุกพลังคนรุ่นใหม่ เด็ก และเยาวชน ให้หันมาสนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หนึ่งในนั่นก็คือ โครงการ TCP Spirit ของ กลุ่มธุรกิจ TCP ที่จัดต่อเนื่องมาถึงปีที่ 8 และย่างเข้าสู่ปีที่9 แล้ว
สำหรับในปี2568 นี้โครงการอาสาภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP เดินหน้าปลุกพลังคนรุ่นใหม่ร่วมดูแลอากาศและสิ่งแวดล้อม ผ่านค่าย TCP Spirit “อาสา อา Guard” แคมป์ปิ้งฮิมดอยเชียงดาว เรียนเรื่องราวป่าชุมชน ณ ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ เข้าใจถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรียนรู้เรื่องการตรวจวัดคาร์บอนเครดิตจากป่าและการดูแลป่าของชุมชน เจาะลึกบริบทการทำการเกษตรของชุมชน เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการจัดการปัญหา ร่วมกันสร้าง Guard ในการปกป้องโลกใบนี้ไปด้วยกัน สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593
จากรายงาน GHG Emissions of All World Countries 2025 ที่จัดทำโดย Joint Research Centre (JRC) สหภาพยุโรป พบว่า โลกเผชิญปัญหาก๊าซเรือนกระจกพุ่งสูงที่สุดในประวัติการณ์ ปัญหาที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมแก้ไขก่อนจะสายเกินไป โดยในปี 2567 ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 53,200 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (ล้านตัน CO2eq) เพิ่มขึ้น 1.3% จากปี 2566 โดยส่วนใหญ่เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลและอุตสาหกรรมพลังงาน กลุ่มประเทศอาเซียนปล่อยรวม 3,226 ล้านตัน CO2eq เพิ่มขึ้น 4.7% จากปีที่ผ่านมา โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับ 21 ของโลก หรืออันดับ 3 ในอาเซียน ด้วยปริมาณ 422 ล้านตัน CO2eq เพิ่มขึ้น 2.9% จากปีที่ผ่านมา
การดูแลธรรมชาติไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือภารกิจของทุกคนที่อยากให้โลกใบนี้ยังน่าอยู่ต่อไป” ‘สราวุฒิ อยู่วิทยา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวต่อว่า “TCP Spirit ‘อาสา อา Guard’ ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงค่ายเรียนรู้ธรรมชาติ แต่คือพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจสิ่งแวดล้อมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านการลงมือคิด ลงมือทำจริง และส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกคนร่วมดูแลโลกไปด้วยกัน เราเชื่อว่า ‘พลังของคนรุ่นใหม่’ คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้สังคมเติบโตอย่างสมดุล และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้ทุกคนได้จริง สอดคล้องเป้าหมายของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593
ออกเดินทาง เรียนรู้ และลงมือจริง – ภารกิจ “อาสา อา Guard” ที่เปลี่ยนความเข้าใจให้เป็นพลังดูแลโลก
ปีนี้ TCP Spirit “อาสา อา Guard” ได้เริ่มต้นเดินทางจากการนั่งรถไฟสายเหนือข้ามคืนผ่านอุโมงค์ดอยขุนตาล ชิมอาหารอาข่าสูตรพิเศษ นอนแคมป์ริมดอยหลวงเชียงดาว และตื่นรับหมอกยามเช้า ก่อนออกสำรวจ “ป่าชุมชนบ้านป่าไผ่” อำเภอเวียงแหง และ “ชุมชนบ้านผาลาย” อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นพื้นที่ที่กลุ่มธุรกิจ TCP เข้าไปดูแลร่วมกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ องค์กรที่เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูป่าและชุมชน รวมถึงการจัดการคาร์บอนเครดิตในป่าเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสร้างระบบนิเวศที่คน ชุมชน และธรรมชาติเติบโตไปด้วยกัน โดยเหล่าอาสาทุกคนจะได้เข้าใจถึงปัญหาสภาพอากาศรอบตัว ทั้งฝุ่น PM2.5 ที่กลับมาทุกปี น้ำท่วม–น้ำแล้งที่รุนแรงขึ้น และแนวทางการฟื้นฟูผ่านแนวคิด Nature-based Solutions ที่ใช้พลังของธรรมชาติมาช่วยเยียวยาโลก นี่คือที่มาของธีม “อาสา อา Guard” เกิดจากการผสมคำว่า “อาสา” และ “อากาศ” เข้าด้วยกัน พร้อมเติมคำว่า “Guard” เพื่อสื่อถึงผู้พิทักษ์อากาศ ที่พร้อมร่วมมือกันปกป้องโลกให้ปลอดภัยและยั่งยืน
สัมผัสวิถีชีวิต เรียนรู้ และลงสนามจริงกับผู้เชี่ยวชาญและปราชญ์ชาวบ้าน ผ่าน 5 ภารกิจหลัก
เหล่าอาสาจะได้เรียนรู้เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญและปราชญ์ชาวบ้าน อาทิ ดร. เพชร มโนปวิตร นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ และนักอนุรักษ์แนวหน้าของประเทศไทย และ นางสาว สุดารัตน์ โรจน์พงศ์เกษม ผู้อำนวยการฝ่าย Nature-based Solutions มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นต้น ผ่านห้องเรียนธรรมชาติและการลงปฏิบัติจริงในพื้นที่ พร้อมร่วมทำ 5 ภารกิจหลัก ได้แก่
กลุ่มธุรกิจ TCP จะยังคงเดินหน้าสานต่อแนวคิด “การเติบโตอย่างยั่งยืน” ด้วยการสร้างพลังให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และลงมือทำสร้างให้เกิดเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง ผ่านพลังของอาสา “TCP Spirit” เพื่อตอกย้ำเป้าหมายของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการ “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ให้เกิดขึ้นจริง ทั้งในระดับบุคคล ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ‘สราวุฒิ ’ ยังเผยผลสำรวจอีกว่า คนรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการมีอายุน้อยลงอย่างต่อเนื่อง แต่กลับมีความตื่นตัวและให้ความสนใจในประเด็นสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของโลกใบนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยโครงการนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่มีความตระหนักรู้ เรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และยังเป็น "แสงเล็กๆ" ที่ช่วยสร้างเสริมองค์ความรู้และตอบสนองความต้องการของพวกเขา โดยอาสาสมัครหลายคนที่เคยเข้าร่วมโครงการนี้ในช่วงแรก (ศิษย์เก่า) ก็ยังคงเลือกเดินอยู่ในสายงาน SD (Sustainable Development) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า TCP Spirit ได้ช่วยบ่มเพาะและปลุกพลังให้คนรุ่นใหม่เติบโตในสายงานที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน
การลงทุนในการสร้างพลังของเยาวชนถือเป็นกลยุทธ์สำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เนื่องจากบริษัทเชื่อว่าการสร้าง "พลังเด็กที่มีพลังเยอะ ๆ ตัวน้อย ๆ" ที่เติบโตขึ้นมาจะสามารถสร้างโอกาสและ เกิดเป็นเครือข่าย (network) ด้านสิ่งแวดล้อมที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง