นน ชิโนรส หนุ่มนักเดินทาง ผู้โบกมือลางานประจำ กับความตั้งใจทำยูทูบให้คนดูอิ่มที่สุด

หลายคนอาจเคยได้ยินคำกล่าวว่าหากรักสิ่งใด อย่าทำสิ่งนั้นเป็นอาชีพ เพราะวันใดวันหนึ่ง คุณจะถูกความจริง-อุปสรรค เฆี่ยนตีจนความรักนั้นเหือดหายไป

แต่ นน-ชิโนรส ดวงรัตน์ หนุ่มยูทูบเบอร์จากช่อง ChinoToShare กลับบอกเราว่า “พิสูจน์มาแล้ว แค่ทำงานหาเงิน ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่ตัวเองรักก็ได้ แต่ลองนึกดูนะว่าถ้าได้ทำสิ่งที่รัก แล้วดันเวิร์ก นั่นอาจเป็นอาชีพที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ได้”

SPRiNG ชวนไปดูการเดินทางอันแสนยาวไกลของอดีต Sales engineer พนักงานประจำที่ชีวิตกำลังไปได้สวย วันหนึ่ง เก็บกระเป๋าออกเดินทาง เพราะมีภาวะเบิร์นเอาต์ จนเริ่มหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพ-คลิป และผลตอบรับดีจนเกิดเป็นช่อง ChinoToShare

งานประจำก็กำลังถูกโปรโมทเป็น ‘manager’ และงานอดิเรกที่รัก (YouTube) ก็เริ่มมีรายได้เข้ามา หอมหวานทั้งสองทาง นนมีวิธีคิดในการตัดสินใจครั้งสำคัญอย่างไร คุยเรื่อยไปจนถึงเส้นทางในฐานะ YouTuber ที่เจ้าตัวถึงกับเอ่ยไว้ว่า ‘อยากตื่นไปทำงานทุกวัน’

YouTube ‘นน ChinoToShare’ มียอดผู้ติดตาม 4.14 แสนคน

มีคลิปในช่อง 298 วิดีโอ ยอดวิวรวม 37,700,814

19 กรกฎาคม 2017 คือวันที่เจ้าตัวตัดสินใจเปิดช่องยูทูบ

กว่าจะมาถึงจุดนี้ นน-ชิโนรส ดวงรัตน์ เดินทางมาอย่างไร

 

จากเด็กราชบุรี สู่นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ มศว.

“ผมเรียนไม่เก่งเลย”

แม้สอบแอดมิชชันติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แต่ก็ไม่ใช่การจากบ้านเพื่อมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ระยะเวลา 4 ปีในรั้วมหาลัย เกิดขึ้นที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก แหล่งรวมวัยรุ่นจากทุกจังหวัดทั่วไทย “ชีวิตช่วงนั้นสนุกมาก เราทำค่ายอาสา เป็นรุ่นพี่ชมรม อยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ไปประกวดดาวเดือน เลยได้เห็นอะไรใหม่ ๆ เยอะมาก”

ว่ากันถึงเรื่องการเรียน เจ้าตัวเล่าว่าค่อนข้างกระท่อนกระแท่น “ผมเป็นเด็กกิจกรรม และพื้นฐานวิชาการไม่แน่น อาจเป็นเพราะหลักสูตรที่สอนกันในต่างจังหวัดกับกรุงเทพฯ มันต่างกัน บางวิชาเหมือนเราไม่เคยเรียนเลยด้วยซ้ำ”

พอขึ้นปี 2 ทางคณะจะมีการแบ่งภาค โดยอิงจากความชอบและคะแนน นักเดินทางเลือกเอกไฟฟ้ากำลัง และมีโอาสได้ไปฝึกงาน ช่วงนั้น นนวางแผนไว้ว่าต้องการจบไปเป็นวิศวะออกแบบ เช่น ออกแบบระบบไฟฟ้าของตึกหรือคอนโด แต่แผนก็เปลี่ยนอีก

“ตอนฝึกงาน ผมไปเจอกับตำแหน่งที่เรียกว่า Sales engineer ที่เข้ามาขายงานกับพี่ ๆ วิศวกรออกแบบ เขาจะมาพร้อมกับ product ที่มี technical spec และให้คำแนะนำว่าต้องใช้สินค้านี้กับระบบไฟแบบนี้”

“เราเห็นแล้วก็ อ๋อ มันมีอาชีพนี้อยู่นี่หว่า มันน่าจะตอบโจทย์เราเรื่องรายได้ โอเค ฐานเงินเดือนไม่ได้เยอะมาก แต่เราทำเท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น อยู่ที่ตัวเรา พอมองแบบนี้ เราก็คิดว่าอาชีพนี้มันตอบโจทย์กับเรามากที่สุด”

สูตรบางสูตร บางทียังไม่เห็นภาพว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร พอทำงานแล้วได้ใช้ไหม

"มันคือพื้นฐานที่ต้องเรียน ซึ่งผมเข้าใจนะ สูตรบางสูตรก็ได้ใช้นะครับ แต่พอมาทำงานก็ไม่ได้ถึงกับต้องคำนวณมากขนาดนั้น แต่ถ้าเรามีพื้นฐานวิศวะแน่น เราจะพอเห็นภาพรวมว่าจะต่อยอดยังไง และจะช่วยให้เราคุยกับคนในวงการรู้เรื่อง"

"ผมคิดว่าความรู้บางอย่าง อาจรวมไปถึงทักษะ หรือสกิลด้วย ถ้าเราไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ยังไง สุดท้ายมันก็จะไม่มีประโยชน์กับเรา"

มองย้อนไป อะไรคือสิ่งที่คุณเรียนรู้จากการเป็น Sales engineer

“สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการเป็น Sales engineer คือการออกไปเผชิญกับโจทย์หรือปัญหาด้วยตัวเอง หัวหน้าให้เรากระโดลงน้ำ แล้วหาวิธีเอาชีวิตรอดเอง แต่พอขึ้นฝั่งมาได้ เขาจะถามว่าอยากให้สอนอะไร วิธีนี้ทำให้นนเติบโตอย่างเข้มแข้ง มากกว่าการจับมือสอนว่ายน้ำตั้งแต่แรก”

“และงาน Sales engineer มันคือการ manage ตัวเอง เราไม่ใช่พนักงานที่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ทำงานเป็น routine แต่มันอาศัยให้เราต้องคิดวางแผนว่าจะทำยังไงให้เกิดเป็นยอดขายขึ้นมา

นนทำอาชีพ Sales engineer อยู่ 7 ปี และตัดสินใจลาออกมาเป็น YouTuber

 

งานประจำกำลังไปได้สวย งานอดิเรกก็เริ่มมีรายได้

“ตอนนั้น ผมกำลังถูกโปรโมทให้เป็น manager”

ว่ากันว่างานประจำมาพร้อมความมั่นคงในชีวิต หนุ่มนักเดินทางวัยไม่ถึง 30 ได้รับความเชื่อถือและเชื่อใจจากบริษัท ชีวิต Sales engineer กำลังไปได้สวย ลืมเล่าไปว่าก่อนหน้านี้ นนรวบรวมความกล้าและยื่นลาออกจากงานที่แรก และมาเริ่มงานกับที่ใหม่จากคำชักชวนของพี่ ๆ ที่รู้จักกัน

“กว่าจะลาออกจากที่แรกได้  ผมใช้เวลาตัดสินใจนานมาก เพราะเราเริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับที่นี่ แต่เรารู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้ว ตอนนั้น ผมอยากหาอะไรใหม่ ๆ ทำ คิดว่าจะไม่ทำอาชีพ Sales engineer อีกแล้ว”

แต่เมื่อได้รับโอกาสเข้าไปทำงานในออฟฟิศที่ 2 นนลุยทำงานอย่างหนัก ขึ้นเหนือลงใต้ พบเจอผู้คน ขายสินค้าสร้างยอดขาย จนงอกเงยเป็นผลตอบรับที่น่าพอใจ ช่วงนั้นเอง ที่เจ้าตัวเริ่มมีภาวะเบิร์นเอาท์ (burn out) ประกอบกับเป็นช่วงที่โควิดระบาดในประเทศไทยระลอกแรก

“ช่วงแรก ๆ ที่มีภาวะเบิร์นเอาท์ ผมเก็บกระเป๋าไปเที่ยว ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง พอได้เดินทางคนเดียวแล้วจิตใจมันสงบ ได้เคลียร์เรื่องที่ค้างอยู่ในหัว ได้ตัดสินใจ พอทำบ่อยเข้ามันก็กลายเป็นลูป จันทร์ถึงศุกร์ผมทำงาน เสาร์อาทิตย์คนอื่นอาจพักผ่อนอยู่บ้าน แต่พักผ่อนสำหรับผมคือการไปเที่ยว”

ต้องเล่าว่าช่วงนี้ นนเปิดช่องยูทูบเป็นของตัวเองแล้ว คอนเทนท์แรก ๆ ของช่องจึงเป็นการสอนวิธีการดูแลตัวเองให้กับบุรุษ เช่น เซ็ทผมยังไงให้ดูดี แต่งตัวยังไงให้ดูภูมิฐาน นนเล่าว่าที่ทำคอนเทนท์แนวดูแลตัวเอง เพราะเพื่อน ๆ มาขอคำปรึกษาบ่อย

“พอล็อคดาวน์ เราก็ยังไปเที่ยวอยู่ แล้วก็เริ่มคิดว่า เฮ้ย...เราก็ทำยูทูบอยู่แล้วนี่หว่า ทำไมไม่หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป หรือถ่ายคลิปตอนเราไปเที่ยวล่ะ ไหน ๆ ไปเที่ยวแล้ว ก็ถ่ายเก็บไว้หน่อยไม่เสียหาย”

“ผมจำได้ว่าทริปที่เป็นจุดเปลี่ยนทำให้เกิดเป็นช่อง ChinoToShare ขึ้นมาเลยคือทริปแบกเป้ขึ้นรถไฟไปเที่ยวแม่กำปอง จ.เชียงใหม่ ช่วงที่ทุกคนติดอยู่ที่บ้าน เราพยายามสื่อสารว่า วิวระหว่างทาง อาหาร หรือบรรยากาศในสถานที่ใหม่ ๆ มันช่วยฮีลใจคุณได้นะ”

“โพสต์นั้น มีคนแชร์ไปเป็นแสน ชีวิตนี้ผมไม่เคยเจอการแชร์ที่มหาศาลขนาดนี้มาก่อน พอมันเป็นไวรัลกระจายออกไปไกล ผมเริ่มคิดแล้วว่า หรือการท่องเที่ยวมันจะกลายมาเป็นอาชีพได้เหมือนกัน มันก็ต้องถามตัวเองอีกว่าแล้วงานประจำยังอยากทำอยู่ไหม”

 

ช่วงนั้น คุณรับกับความคิดยังไง งานประจำก็ดี งานอดิเรกก็หอมหวานเหลือเกิน

“สำหรับงานประจำ ให้ลองมองว่าในสายอาชีพตัวเอง ตำแหน่งสูงสุดคือระดับไหน เงินเดือนเท่าไหร่ และต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ซึ่งผมต้องได้เป็น manager บริษัทจะมีทีมให้ดูแล ผมต้องคุมทีม แต่ผมถามตัวเองแล้วได้คำตอบว่าเราไม่ได้อยากดูแลทีมขนาดนั้น”

“ส่วนงานอดิเรกคือการทำยูทูบ พาผู้ชมไปเที่ยว พอได้เที่ยวบ่อยก็ติดใจ เริ่มมีผู้ติดตาม มีสปอนเซอร์ และมีรายได้เข้ามา”

“พอคำตอบเริ่มชัด ผมต้องเตรียมตัวอยู่นานพอสมควร และก็มีคำถามผุดเข้ามาเต็มไปหมดเลย เงินพอไหม จะดูแลตัวเองไหวมั้ย ยังซัพพอร์ตที่บ้านไหวมั้ย แน่ใจหรือยังที่จะมาทำงานด้านนี้ เพราะมันเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงเท่างานประจำ”

“ผมก็เลยต้องวางแผนการเงิน ช่วงนั้น เราทำงานหนัก เก็บเงินให้สามารถจ่าย fixed cost ได้ 1 ปี พอเก็บเงินได้ตามเป้าหมายแล้ว เราก็แจ้งเจตจำนงให้บริษัทรับรู้ ยังไม่ออกทันที เพื่อให้บริษัทหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มาแทนเราก่อน”

“จะพูดยังไงดี คือถ้าเราเป็นคนที่มีประโยชน์กับบริษัท และบริษัทเห็นว่าเราช่วยให้ประโยชน์อะไรกับบริษัทได้ โดยมากแล้ว เขาจะไม่ยอมปล่อยให้คุณออกง่าย ๆ แต่เราก็รอจนถึงเวลาที่เหมาะสม ได้จังหวะก็ไปยื่นใบลาออกเลย”

 

ลาออก

14 มีนาคม 2022 นนเผยแพร่คลิป “คุยกับนน #8 ชีวิตวันแรกที่ไม่ได้ทำงานประจำ + พูดคุยทำไมลาออก” ในคลิปความยาว 16:17 นาที เจ้าตัวเปิดภาพมาด้วยการนอนอยู่บนเตียง จากนั้นไปไหว้พระที่วัดมังกรกมลาวาส กินสลัดแกล้มกาแฟ พร้อมนั่งแถลงไขเป็นวิทยาทานว่า ‘ทำไมถึงลาออก’

ไม่รู้มันบอกอะไรได้ไหม แต่คลิปนี้มียอดวิวเฉียดสามแสนครั้ง มีคนเข้ามาร่วมพูดคุยมากกว่า 1,000 ความเห็น และมีแคปชันสั้น ๆ ที่เจ้าตัวหยอดทิ้งเอาไว้ “เป็นกำลังใจให้นนด้วยนะครับ :)”

รับชมคลิปได้ที่นี่ 

 

ลาออกมาวันแรก ภารกิจเต็มเลย ทำไมไม่ปล่อยให้ตัวเองว่างบ้าง

“ความสุขแต่ละคนต่างกัน ความสุขของผมคือการได้ออกไปทำอะไรตามที่เราอยากทำ ผมจำได้ว่าทริปแรกคือการแบกเป้ลงใต้ไปเที่ยวเบตง แล้วจู่ ๆ มันก็รู้สึกว่า นี่มันฟรีด้อมนี่นา”

“แต่ก็มีวันที่นอนว่าง ๆ นะ ผ่านไปอาทิตย์หนึ่งก็คิดกับตัวเองว่า เฮ้ย นี่เราไม่ได้มีงานประจำต้องรับผิดชอบแล้วนะ มันก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน”

 

ตอนที่โพสต์คลิปลาออก เวลามีคนมาพูดคุย ชื่นชมความกล้า และแลกเปลี่ยนเรื่องราวของตัวเอง คุณรู้สึกยังไง

“รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ทำช่อง ChinoToShare ขึ้นมา เวลาที่เราได้รับพลังจากคนอื่น หรือเมื่อรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามันโคตรมีกำลังใจเลยนะนะ เวลาที่ได้เห็นคอมเมนต์ดี ๆ ทุกการแชร์เรื่องราวจากคนที่มาคอมเมนต์ เราอ่านหมด”

“มีคอมเมนต์นึงเข้ามาแชร์ว่าเขาเคยลาออกจากงานประจำหลังจากทำงานได้ 6 ปี เขาบอกว่าเข้าใจในสิ่งที่ผมกำลังเผชิญอยู่ มันเหมือนได้หลุดออกจาก comfort zone และมีอีกคนที่มาแชร์ว่า เขาอายุขนาดนี้ ยังไม่กล้าตัดสินใจแบบนั้น ยังไม่เจอว่าชอบอะไร มันก็ทำให้เราฉุกคิดว่าถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจลาออก วันนี้เราอาจรู้สึกแบบเดียวกันก็ได้”

 

การรู้ ‘พรสวรรค์’ หรือรู้ว่าตัวเองชอบอะไร มันสำคัญยังไง

“สำคัญมากนะ แต่ต้องไม่เอามาเป็นแรงกดดันตัวเอง เมื่อตั้งคำถามว่าทำไมเราไม่มีพรสวรรค์  หรือไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร สนใจอะไร ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เมื่อนั้นเราจะไม่รักตัวเอง แล้วก็ด้อยค่าตัวเอง”

“วิธีคือ เราควรเปิดโอกาสให้ตัวเอง ลองทำสิ่งใหม่ ๆ จากที่คุยกันมา นนบอกว่าตัวเองเป็นคนชอบลองทำอะไรใหม่ ๆ ทำได้ดีมั้ยไม่รู้ แต่ต้องลองทำก่อน อะไรไม่ใช่ก็จะได้รู้ แต่ก็จะรู้เช่นกันว่าทำอะไรแล้วมีความสุข”

“ถ้าเราเจอสิ่งที่ชอบ หรือสิ่งที่ทำแล้วแฮปปี้ เราจะพร้อมออกไปทำงาน อยากจะตื่นไปทำงานในทุกวัน แต่โอเคมันมีมุมที่เหนื่อยบ้าง แต่อย่างน้อยลองหาดูก่อน

“ถ้าหาเจอ เราจะมีเป้าหมายชัดเจน หลายคนตั้งใจสอบให้ติด หรือทำงานหนัก แต่ปรากฏว่าไม่มีความสุข เพราะนั่นคือเป้าหมายที่คนอื่นแนะนำให้”

 

จาก Part-time สู่ Full-time

ก้าวใหม่ในฐานะ YouTuber

หลายคนอาจติดตามคอนเทนท์ท่องเที่ยวจากช่อง ChinoToShare เป็นประจำ เราชวนนนคุยถึงเบื้องหลังการทำงานบนเส้นทางอาชีพ YouTuber ประสบการณ์การท่องเที่ยว ถ้ายังเป็นงานแล้วยังมีความสุขอยู่ไหม และสารพัดสิ่งที่เจ้าตัวอยากเล่าสู่กันฟัง

 

ว่ากันถึงยูทูบ เมื่อความชอบกลายเป็นงานยังแฮปปี้อยู่ไหม

“อาจเป็นเพราะห้องทำงานผมมันคือวิวตรงหน้า เลยไม่ได้คิดว่าการเที่ยวคือทำงาน เวลาไปเจอสถานที่สวย ๆ แล้วไม่ได้ถ่ายภาพหรือวิดีโอมาแชร์ จะรู้สึกพลาดที่ไม่ได้เอาประสบการณ์มาแชร์ให้ผู้ชมได้รู้สึกเหมือนเรา ไลฟ์สไตล์เราเป็นแบบนี้ไปแล้ว”

“ก็เลยแฮปปี้มาก การเป็นยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวมันคือกำไรชีวิตแบบนึงนะ เราเป็นคนชอบเดินทางอยู่แล้ว และเราไม่ได้แข่งกับใคร แถมมีรายได้เลี้ยงดูตัวเอง และทีมงานได้ด้วย ตอนที่ส่งคำถามมา ผมเพิ่งมานั่งคิดเองว่าเฮ้ย เราลาออกมาทำยูทูบ 3 ปีแล้วเหรอเนี่ย”

“โจทย์ของเราตอนนี้คือ เราอยากเดินทางให้ได้มากที่สุด ผมก็จะคิดถึงเรื่องทำยังไงให้มันเกิดขึ้นได้ มันได้กลับไปคิดถึงอดีต เพราะผมเลือกแล้ว มันน่าจะดีที่สุดแล้วล่ะ

 

หลงใหลอะไรนัก ในการเดินทาง

“มันให้อะไรเยอะกว่าการที่เราอยู่ตรงนี้ เราได้เจอสังคมใหม่ เจอคนหลายรูปแบบ ได้เห็นทั้งมุมที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอ และได้เพื่อนจากการเดินทางด้วย มี 2 คนที่อยากเล่าให้ฟัง”

“คนแรกเป็นคนรัสเซีย เขาชวนเราไปเที่ยวบ้าน แม้ภาษาเราก็ไม่แข็งแรง แต่เขาก็ nice กับเรามาก พาเราไปกระโดดร่ม ถ้าไม่ได้เที่ยวจนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่าพ่อบ้านรัสเซียโดดร่มกันเป็นงานอดิเรก เป็นประจำเลยทุกเสาร์อาทิตย์”

“กับอีกคนคือรู้จักกันที่บาหลี ตอนนั้นบัตรเอทีเอ็มใช้ไม่ได้ ผมไม่มีเงินซักบาท เพื่อนที่เป็นชาวอินโดนีเซีย ก็ติดต่อแล้วโอนเงินมาให้ทันที โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเชื่อใจเราได้หรือเปล่า การเดินทางทำให้เราเจอมิตรภาพดี ๆ”

 

คุณเที่ยวทั้งไทยและเทศ เวลาไปต่างแดน เที่ยวสนุกเหมือนเมืองไทยไหม

“แตกต่างนะ อาจเป็นเพราะเราเป็นคนไทย เราจึง comfort เวลาได้เที่ยวในประเทศ เราชอบไปเที่ยวใช้ชีวิตตามวิถีชาวบ้านที่ยังหลงเหลืออยู่ มันก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ แต่ทุกประเทศก็มีข้อเสียของตัวเอง”

“หรือเวลาไปประเทศที่เจริญแล้ว เราอาจจะได้เห็นอีกมุมหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้นำเสนอ เวลาเจออะไรที่มันไม่ค่อยดี เราจะไม่ค่อยถ่ายมาลงอยู่แล้ว เพราะเราเชื่อว่าทุกที่มีอีกมุมของมันอยู่ รวมถึงไทยด้วย”

“แต่ถ้าถามว่าประเทศไหนที่เดินทางแล้วรู้สึกอยากกลับไปทุกครั้ง ก็คงเป็นบ้านเรานี่แหละ เรามีความภูมิใจที่จะชวนเพื่อน ๆ มาเที่ยวที่ประเทศไทย ธรรมชาติเราสวย ผู้คนพร้อมต้อนรับ วิธีชีวิตแบบดั้งเดิมยังพอมีให้เห็น”

 

ถึงว่า...มีแต่คนอยากทำอาชีพ YouTuber

“อาชีพนี้มันกลายเป็นฝันของใครหลายคน แต่อยากให้ทุกคนรู้ว่ายูทูบเบอร์มองเผิน ๆ เหมือนเป็นอาชีพที่สวยหรู ได้เดินทาง มีเงินใช้ เราอยากให้รู้ว่ามันมีเบื้องหลังการทำงานมากกว่าแค่คลิปที่คุณเห็น”

“สมมติจะเดินทางไปไหนสักที่ การทำงานมันเริ่มตั้งแต่ยังไม่เดินทางด้วยซ้ำ ต้องหาโลเคชัน รวบรวมข้อมูล เขียนสคริปต์ ลงไปถ่ายทำ เสร็จแล้วกลับมาตัดต่อ ซึ่งมันมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด”

“เราก็เลยอยากให้กำลังใจคนที่กำลังจะเริ่มต้นเส้นทางนี้ ลองหาสไตล์ของตัวเองให้เจอ อย่าเพิ่งคิดว่ามีคนทำแล้ว อย่าทำเลย ให้ลองหาทางที่ตัวเองชอบแล้วดัดแปลงเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ถ้าทำได้ เราจะมีความสุขที่ได้ทำ และเราจะทำได้ดี”

ChinoToShare ตบตีกับอัลกอริทึมบ้างไหม

“ทุกอย่างมันเปลี่ยนไว ผมคิดว่าเราต้องเป็นคนที่พร้อมรับทุกเรื่อง ต้องไม่ฟิกซ์ อัลกอริทึมเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ เราทำได้แค่ติดตามไปให้ได้มากที่สุด โอเคภาพมันดูสวยหรูใช่ไหม แน่นอนมันมีเรื่องยอดเอนเกจเมนต์ การดูยอดผู้ติดตามจากลูกค้า ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน”

“ผมอยากบอกว่าเราไม่ต้องไปเครียดขนาดนั้น เราทำในแบบที่เทรนด์มันบีบให้เราไป เช่น เมื่อก่อน YouTube นี่คือมาแรง แต่ตอนนี้ TikTok มาพร้อมกับเทรนด์คลิปสั้น”

“ประเด็นคือเราต้องเข้าใจว่าแต่ละแพลตฟอร์มเป็นยังไง YouTube อาจจะทำให้คนเห็นตัวตนได้มากกว่า คนจดจำได้มากกว่า ส่วน TikTok อาจจะยากนิดนึง แต่มันก็มีคนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ กลายเป็นกระแสภายในชั่วข้ามคืน”

 

พูดถึงคลิป ต้องมียอดวิวระดับไหนที่คุณรู้สึกพอใจ

“ถ้าในยุคนี้ ผมคิดว่าแสนวิวถือว่าโอเค สำหรับ YouTube นะ แต่มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะสไตล์แต่ละคนไม่เหมือนกัน เรามีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้น เวลาที่ผมทำคลิปเนี่ย อย่างแรกที่เราตั้งไว้เลยคือเราทำคลิปให้อิ่มไว้ก่อน ถ้าทำได้ผมจะรู้สึกว่า โอเค เราทำเสร็จแล้ว แต่ถ้ายอดวิวสูงมันคือกำไร”

“ช่อง ChinoToShare ถ้าสังเกตตอนนี้มันไม่ได้มีคลิป 15 นาที ส่วนใหญ่ 30-50 นาทีขึ้น อิ่มอย่างแรกคือเราได้ถ่ายทอดให้คนดูรู้สึกเหมือนกับเราหรือยัง ทั้งภาพเสียง ความรู้สึก อันนี้คืออิ่มสำหรับเรา เราตั้งใจถ่ายทำจนอิ่มให้ทุกคนได้เสพเหมือนที่เราเดินทางไปเที่ยวมา”

 

“ลองทำสิ่งที่รักให้เป็นงาน
ถ้าเวิร์กขึ้นมา มันอาจเป็นงานที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ได้”

ปัจจุบัน ช่อง ChinoToShare กลายเป็นชื่อแรก ๆ ที่เมื่อคุณอยากรับชมคอนเทนท์ท่องเที่ยว เป็นอันต้องกดไปดู หรือกลับไปดูคลิปเก่า ลองสำรวจตัวเองกันดูว่า...ลึก ๆ แล้วคุณแค่อยากหาอะไรไว้ดูเป็นเพื่อนตอนกินข้าว หรือหัวใจกำลังเรียกร้องให้คุณออกเดินทาง

“ถ้าถามว่าเราประสบความสำเร็จในในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจไว้ หรือพอใจหรือยัง คำตอบคือใช่ ตอนนี้เรามาไกลมาก เราไม่เคยมีภาพว่าตัวเองจะมาอยู่ในจุดนี้มาก่อน มันเกิดจากการลองทำ แล้วก็ทำมาเรื่อย ๆ”

 

ย้อนกลับไปตอนลาออก คุณปรึกษากับที่บ้านบ้างไหม?

“มีคุยบ้าง แต่สุดท้ายแล้ว เราทำให้เขาเห็นว่าสิ่งที่เราทำอยู่เนี่ย มันสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ผมคิดว่าพ่อแม่จะเป็นห่วงว่าเราจะอยู่ยังไง กินอยู่ยังไง อนาคตจะเป็นยังไง นี่คือสิ่งที่พ่อแม่เขาเป็นห่วง แล้วเราจะทำยังไงให้เขาไม่เป็นห่วงคือการพิสูจน์

“พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราเลี้ยงดูตัวเองได้ เรามีรายได้ที่สามารถซัพพอร์ตที่บ้านได้ แต่เราโชคดีตรงที่พ่อแม่ไม่เคยขอ เขาไม่เคยบอกว่าเราต้องเลี้ยงดูนะ เขาบอกว่าไปเติบโต ดูแลตัวเองให้ได้ก่อน สร้างอนาคตให้ได้ ถึงเวลานั้น อยากช่วยค่อยช่วย แต่เราเป็นคนที่ชอบให้พ่อแม่อยู่แล้ว”

 

ทุกวันนี้ ครอบครัวพูดถึงงานที่คุณทำว่ายังไง?

“เอาจริง ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาพูดถึงงานที่เราทำไว้ยังไงนะ แต่เรารู้สึกได้ว่าเค้าภูมิใจ เค้าก็ยังเป็นพ่อแม่ที่คอยสนับสนุน ลูกทำอะไรแล้วมันออกมาดี เค้าก็น่าจะแฮปปี้”

 

มองกันดี ๆ ชีวิตคุณพลิกผันมาตลอดเหมือนกันนะ

“ใช่ ล่าสุดเราเพิ่งไปแชร์ให้น้อง ๆ กลุ่มนึงฟัง เราแชร์ไปว่าเราเป็นคนที่ไม่วางแพลนให้ชีวิต จะเรียนอะไร จะปฏิบัติตัวยังไง จบไปจะไปทำอาชีพอะไร เราไม่ได้เริ่มทำยูทูบตั้งแต่ต้น เราเข้าระบบงานประจำอยู่ตั้งหลายปี ซึ่งมันก็มีหลายความรู้สึกที่เกิดขึ้น”

“เราก็เลยสื่อสารว่าทุกอย่างมันมีขั้นตอนของมัน คุณไม่ต้องเร่ง คนอื่นจะเป็นยังไงก็ช่าง ขอให้คุณพอใจในสิ่งที่ตัวเองทำก็พอแล้ว และอย่าลืมชื่นชมตัวเองด้วย”

"เราเจอเด็กรุ่นใหม่เยอะเหมือนกันที่บอกว่าไม่อยากเอาสิ่งที่ตัวเองรักมาทำเป็นอาชีพ เพราะกลัวจะสูญเสียมันไป เราว่าลองดูก็ไม่เสียหาย พิสูจน์มาแล้วว่าการทำงานหาเงิน ไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ชอบก็ได้ แต่ถ้าได้ทำสิ่งที่รัก แล้วมันดันเวิร์ก มันอาจเป็นอาชีพที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ได้”

 

เรื่อง: วงศกร ลอยมา

ขอบคุณสถานที่: ร้าน Beachboy Coffee