svasdssvasds

เกมเมอร์สูงวัยมีถึง 57 ล้านคน สะท้อนกิจกรรมเกษียณยุคใหม่

เกมเมอร์สูงวัยมีถึง 57 ล้านคน สะท้อนกิจกรรมเกษียณยุคใหม่

วัยเกษียณไม่เหงา! เกมเมอร์สูงวัย 57 ล้านคนในอเมริกาใช้เกมเยียวยาใจและเชื่อมโลก เปลี่ยนวัยเกษียณให้เป็นยุคทองของเกมเมอร์

SHORT CUT

  • จำนวนเกมเมอร์สูงวัยเพิ่มขึ้น: ในสหรัฐอเมริกา มีเกมเมอร์สูงวัยถึง 57 ล้านคน คิดเป็น 28% ของประชากรเกมเมอร์ทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุยังคงใช้เทคโนโลยีและเล่นวิดีโอเกมเพื่อความบันเทิง
  • บทความได้ยกตัวอย่าง Michelle Statham (TacticalGramma) วัย 60 ปี และ Will (GrndpaGaming) วัย 72 ปี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่ประสบความสำเร็จในการสตรีมและสร้างคอนเทนต์เกม แสดงให้เห็นว่าเกมไม่จำกัดเฉพาะวัยรุ่น
  • การเล่นเกมมีส่วนช่วยพัฒนาสุขภาพจิตและสมองของผู้สูงอายุ เช่น การฝึกความจำ การกระตุ้นการตอบสนอง และช่วยลดความโดดเดี่ยว รวมถึงยังเป็นช่องทางในการเชื่อมโยงผู้คนต่างวัยเข้าไว้ด้วยกัน

วัยเกษียณไม่เหงา! เกมเมอร์สูงวัย 57 ล้านคนในอเมริกาใช้เกมเยียวยาใจและเชื่อมโลก เปลี่ยนวัยเกษียณให้เป็นยุคทองของเกมเมอร์

ใครว่าเกมเป็นเรื่องของวัยรุ่น? รายงานล่าสุดจากสมาคมซอฟต์แวร์บันเทิง (ESA) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 เผยข้อมูลน่าทึ่งว่า ปัจจุบันในสหรัฐอเมริกามีผู้เล่นเกมที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปมากถึง 57 ล้านคน หรือราว 28% ของประชากรเกมเมอร์ทั้งประเทศ ตัวเลขนี้สะท้อนภาพที่เปลี่ยนไปของ “วัยเกษียณ” ที่ไม่ได้หมายถึงการหันหลังให้โลกเทคโนโลยีอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการค้นพบความสนุก ผ่านวิดีโอเกมที่เคยถูกมองว่าไกลตัว

หนึ่งในผู้เล่นระดับตำนานคือ Michelle Statham หรือที่แฟน ๆ บน Twitch รู้จักกันในนาม “TacticalGramma” วัย 60 ปี ที่สตรีมเกมยิงชื่อดังอย่าง Call of Duty จนมียอดผู้ติดตามกว่าแสนคน เธอไม่ใช่เพียงสตรีสูงวัยที่เล่นเกมได้เก่งเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบของ “เกมเมอร์ยุคทอง” ที่ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์สร้างพลังบวก ส่งต่อความมั่นใจแก่คนรุ่นเดียวกัน

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ “GrndpaGaming” หรือ Will วัย 72 ปี อดีตทหารเรือที่กลายเป็นยูทูบเบอร์เกมสาย FPS ที่มียอดผู้ติดตามทะลุ 1.4 ล้านคน พร้อมประโยคติดปากว่า “ไม่มีใครแก่เกินจะ respawn ได้”

จากข้อมูลใน Good News Network กระแสเกมเมอร์รุ่นใหญ่ไม่ได้เป็นเพียงความบันเทิง แต่ยังมีผลดีต่อสุขภาพจิตและสมองอย่างชัดเจน หลายคนเลือกเล่นเกมเพื่อฝึกความจำ กระตุ้นปฏิกิริยาตอบสนอง และลดความโดดเดี่ยว โดยเฉพาะในผู้ที่อยู่คนเดียวหรือไม่มีครอบครัวอยู่ใกล้ ๆ วิดีโอเกมจึงกลายเป็นพื้นที่กลางที่เชื่อมโยงผู้คนจากต่างรุ่น ต่างเมือง และต่างทวีป ให้กลับมาแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ร่วมกันได้อย่างไม่จำกัดวัย

แม้ว่าจะมีงานวิจัยบางชิ้นเตือนว่าการเล่นเกมประเภทยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS) อาจมีผลต่อโครงสร้างสมองในผู้เล่นวัยหนุ่มสาว แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาหลายรายกลับมองว่าผู้สูงอายุที่เล่นเกมอย่างมีวินัย มีสังคมในเกม และเล่นด้วยเป้าหมายที่สร้างสรรค์ มักจะได้รับผลดีมากกว่าผลเสีย ทั้งในแง่ของความยืดหยุ่นทางความคิด การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ และการมีเป้าหมายเล็ก ๆ ในแต่ละวัน ซึ่งส่งเสริมสุขภาพจิตอย่างยั่งยืน

เกมเมอร์สูงวัยมีถึง 57 ล้านคน สะท้อนกิจกรรมเกษียณยุคใหม่

การเติบโตของ “เกมเมอร์วัยเกษียณ” เป็นภาพสะท้อนถึงสังคมที่กำลังเปลี่ยนรูป การเข้าสู่วัยสูงอายุไม่ได้แปลว่าต้องหยุดเล่น หยุดเรียนรู้ หรือหยุดเชื่อมต่อกับโลกอีกต่อไป ในทางกลับกัน เกมกำลังกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างรุ่น เป็นพื้นที่ให้ผู้สูงวัยได้แสดงความสามารถ สร้างสังคม และที่สำคัญที่สุด ได้สนุกไปกับชีวิตอีกครั้ง

ที่มา : theguardian

related