svasdssvasds

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

ชวนไปเดินเล่นในดินแดนลึกลับ กับ ทะเลสาบสีฟ้าที่เกิดจากน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว พร้อมกับลิ้มลองปลาเทราต์ออร์แกนิค และแหล่งปิกนิกของคนเมือง Switzerland

ขึ้นชื่อว่า Switzerland ประเทศที่เราคุ้นชินกับภาพของหิมะขาวปกคลุมทั่วทุกแห่ง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเช่นนั้นตลอดปี เพราะบางทีสถานที่เหล่านั้นอาจเปลี่ยนไปมากกว่าที่เราคิด และครั้งนี้ก็เช่นกันที่ทำให้เราลุ้นว่า “Blausee” ที่เราจะเจอนั้นจะมีหน้าตาเป็นเช่นไร

“Blausee” คือทะเลสาบเล็กๆ ที่ส่วนมากจะมีแค่คนท้องถิ่นแวะเวียนมาทำกิจกรรมในช่วงวันหยุดเท่านั้น ไม่ได้เป็นสถานที่โด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยวแบบคณะทัวร์ซักเท่าไหร่ เพราะถ้าเทียบกับเมืองใกล้ๆอย่าง “Interlaken” “Grindelwald” หรือ “Jungfrau” ที่นี่ก็อาจจะถูกตัดออกไปจากแผนทัวร์ แต่สำหรับเฟรมแล้ว ที่แบบนี้แหละเป็นสิ่งที่เราอยากจะสัมผัส

ถ้าพูดถึง “Blausee” หรือถ้าทุกคนจะลองเอาคำนี้ไปค้นหารูปภาพดู จะต้องใจเต้นแบบเฟรมแน่นอน เพราะในแต่ละฤดูกาล ภาพของนี้จะต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง และภาพที่ทำให้สถานที่นี้โด่งดังและเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นก็น่าจะเป็นภาพที่มีหิมะขาวปกคลุมโอบกอดทะเลสาบน้ำสีฟ้าเอาไว้ (เหมือนฉาก The Twilight Saga Breaking Dawn Part 2 ในฉากสุดท้ายมากๆ)

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

 

 

ดินแดนลึกลับ กับ ทะเลสาบสีฟ้า

ได้เวลาเข้าสู่แดนพิศวงกันแล้ว ที่เฟรมเรียกแบบนี้ก็เพราะว่า เมื่อเราจอดรถที่ลานด้านหน้าแล้วเราไม่สามารถมองเห็นภายในได้เลยว่าหน้าตาเป็นเช่นไร เหมือนกับหอยมุกที่มีเปลือกคอยห่อหุ้มอัญมณีไว้ภายในอย่างไงอย่างงั้น ตั้งแต่ทางเข้าเราจะเห็นต้นไม้ใหญ่เมืองหนาวจำพวกสน และอื่นๆอีกมากมายนอกจากให้ความร่มรื่นแล้วยังทำให้อุณหภูมิรอบๆตัวของเราลดลงมากอีกด้วย ตลอดทางเดินจะเป็นทางคดเคี้ยว และมีเนินขึ้นลงลดหลั่นกันไป แต่เดินได้ไม่นานก็ม่านตาของเราก็เบิกโพลงขยายใหญ่ขึ้น เพราะพอเราหลุดโค้งและเนินต้นไม้ใหญ่สุดท้ายมาจะเจอกับ ทะเลสาบน้ำสีฟ้าใส ที่มีร้านกาแฟเล็กๆ และเตาผิงไฟด้านหน้าคอยต้อนรับอยู่ ช่างอบอุ่นและแสนโรแมนติกจริงๆ

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

“ทะเลสาบสีฟ้า” ตามคำบอกเล่าสวยไม่มีผิดเพี้ยน ที่ถึงแม้ว่าบรรยากาศตรงหน้าเราจะไม่ใช่หิมะขาวที่คอยปกคลุม เพราะเราไปในช่วงของปลายหนาวแล้ว แต่ก็เป็นบรรยากาศที่มีความอุ่นของแสงแดดอ่อนๆลงมาให้อากาศที่ยังเย็นอยู่ละมุนลงมาบ้าง

นอกจากสีของน้ำที่เป็นสีฟ้าใส ใสจนเห็นพื้นของทะเลสาบแล้ว เรายังเห็นปลาตัวโตกำลังว่ายน้ำอย่างเพลิดเพลิน ขณะที่เรากำลังชื่นชมความงามของน้ำ ภูเขา และน้องปลา เราก็เอะใจขึ้นมาในทันทีว่า “ถ้าได้มาที่ “Blausee” อยาลืมกินปลาเทราต์ออร์แกนิคนะ” ประโยคที่พี่คนขับรถแนะนำเรา หรือว่า... ใช่ ใช่ไหม? เราหันมาคุยกับเพื่อนร่วมทริปแล้วได้คำตอบยืนยันว่า “ใช่จ้า” แล้วก็หัวเราะกันออกมาดังลั่น 

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

เพราะที่นี่เป็นแหล่งเลี้ยงปลาเทราต์ออร์แกนิคในน้ำแร่ธรรมชาติ (ก็คือทะเลสาบแสนสวยนี่แหละ)
ซึ่งบางฤดูกาลที่นี่ก็จะเปิดให้นักท่องเที่ยวตกปลา กางเต็นท์นอกกันที่เลยหละ แต่สำหรับเราแล้วคงจะขอแค่ชิมจากครัวของร้านก็พอไม่ต้องถึงขั้นนั่งตกปลา เพราะเราเชื่อแล้วว่าปลาที่นี่สดจริง 

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

ระหว่างที่เรารอคิวร้านอาหารก็เลยอาศัยช่วงนี้เดินลัดเลาะให้รอบทะเลสอบ เพราะจากสายตาที่เฟรมมองแล้วน่าจะใช้เวลาไม่นานเพราะทะเลสาบแห่งนี้ไม่ได้กว้างมากนัก เราจึงรีบออกเดินตามเจ้าหมาน้อยขนปุยไปตามทาง ระหว่างทางจะเจอนักท่องเที่ยวที่พาเด็กน้อยมานั่งรับลม เจอคู่รักมานั่งปิกนิก ระหว่างที่เดินบรรยากาศช่างแตกต่าง บางช่วงก็เหมือนเดินอยู่ริมทะเล บางช่วงก็เหมือนกำลังเดินขึ้นดิย บางช่วงก็รู้สึกว่าข้างๆคือหน้าผาสูงชัน แต่ไม่ได้ลำบากอะไรเพราะเขาทำทางไว้ให้เดินแบบสบายๆ แต่แล้วเราก็มาหยุดบนสะพานแห่งหนึ่งที่ทุกคนชี้ลงไปในน้ำด้วยความอยากรู้ของเราจึงพยายามขอดูด้วยก็เลยรู้ว่าตรงนี้มีตำนาน

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

ตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว

“Blausee” มีเรื่องเล่าว่า “น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ เกิดขึ้นมาจากการที่หญิงชาย ที่เป็นคนรักกัน มักจะนัดมาเจอกันที่ทะเลสาบแห่งนี้เป็นประจำอยู่มาวันหนึ่งฝ่ายชายได้ตายจากไป หญิงสาวจึงมาร้องไห้คร่ำครวญคำนึงหาถึงคนรักที่จากไปที่ทะเลสาบแห่งนี้จนน้ำในทะเลสาบกลายเป็นสีฟ้าจากน้ำตา จนตัวผู้หญิงเองก็กลายเป็นหินเฝ้าอยู่ที่จุดนี้”  จบคำอธิบายเราก็รีบก้มมองดูหินที่อยู่ในน้ำ เอ้... ก็เหมือนอยู่นะ (ทุกคนลองดูเอาเองนะคะ) แต่ขอย้ำอีกทีว่านี่คือเรื่องเล่าของคนท้องถิ่นนะคะ

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”


ถ้าได้มาที่ “Blausee” อยาลืมกินปลาเทราต์ออร์แกนิคนะ

และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอยได้คิวร้านอาหารแล้ว เมนูที่เขาแนะนำก็คือปลาเทาซ์ ทั้งปลาเทาซ์ทั้งตัว บลูเทาซ์ แซลมอนเทาซ์ แต่นอกเหนือจากปลาก็มีเมนูอื่นๆที่น่ากินไม่แพ้กัน เฟรมจึงสั่งมาทั้งปลา ทั้งเนื้อ และเมือ่ได้ลิ้มรสก็ขอลุกขึ้นปรบมือ สมคำล่ำลือจริงๆ ไม่รู้ด้วยความสดของปลา ความเก่งของเชฟ หรือบรรยากศโดยรวม แต่อาหารมื้อนี้ทำให้เฟรมอิ่มท้องแบบสุขสุดๆไปเลย

 

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

 

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

 

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

ก็นี่แหละค่ะความสุขของเราจะมีอะไรไปมากกว่านี้ ได้เดินเล่นในที่อากาศดีดี กินอาหารที่แสนอร่อยในบรรยากาศที่เป็นใจ ถ้าเฟรมตัด “Blausee” ออกจากแพลนคงจะเสียดายแย่ เพราะฉะนั้นการเดินทางครั้งหน้าทุกคนลองเปิดใจให้กับเมืองลอง เพราะความเป็นที่สองไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นกำหนด เป็นลองของคนอื่น แต่อาจจะเป็นที่หนึ่งในใจเราก็ได้นะคะ  

 

ทุกคนสามารถติดตามการเดินทางครั้งต่อไปของเฟรมได้ที่นี่ Lifestyle Spring
“พิธีกรที่หลงรักการเดินทาง เพื่อพบเจอ พูดคุย และได้ใช้กล้องที่รักเวลาออกทริป” by famframe

 

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

 

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”


ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”

 

ทะเลสาบสีฟ้า กับตำนานน้ำตาแห่งความรักของหญิงสาว “Blausee Switzerland”