SHORT CUT
ReCoffee: ปลุกชีวิตปากน้ำ! จากเมืองทางผ่านสู่ Creative Space ใจกลางชุมชน ที่ผสมผสานกาแฟ ดนตรี และวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน
ในห้วงเวลาที่กระแสธารแห่งความเจริญมักมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงเพื่อแสวงหาโอกาสและไขว่คว้าความสำเร็จ ทว่า ณ ใจกลาง "ปากน้ำ สมุทรปราการ" ดินแดนที่หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียง "เมืองทางผ่าน" ที่รายล้อมไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมและกลิ่นอายความเก่าแก่ กลับมีกลุ่มคนหนุ่มสาวผู้เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์กลุ่มหนึ่ง เลือกที่จะสวนกระแส พวกเขาไม่ได้กลับมาเพียงเพื่อพักพิงกาย แต่กลับมาเพื่อสร้างสรรค์ ปลุกชีวิตชีวา และเติมเต็มสีสันให้กับบ้านเกิดของตน ด้วยความเชื่อมั่นอันแรงกล้าว่า "บ้านเราก็มีดี" และ ReCoffee คือบทพิสูจน์ที่จับต้องได้ของความเชื่อนั้น
คุณโย่ ณัฐกานต์ สุทธิกุล ในหัวเรือใหญ่และผู้ก่อตั้ง ReCoffee เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของร้านกาแฟแห่งนี้ว่า ไม่ได้มาจากความหลงใหลในศาสตร์แห่งกาแฟเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก "Pain Point" หรือปัญหาที่เธอและเพื่อนๆ สัมผัสได้ชัดเจนในสมุทรปราการ นั่นคือการขาดแคลน "พื้นที่สร้างสรรค์" ที่จะเปิดโอกาสให้คนในท้องถิ่นได้แสดงศักยภาพ คุณโย่ซึ่งมีพื้นฐานด้าน Interior Design และใช้ชีวิตทำงานประจำอยู่ในกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมก่อตั้งอีก 5 คน ต่างเผชิญกับความเบื่อหน่ายจากกิจวัตรประจำวันที่ต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางบนท้องถนนในแต่ละวัน
"รู้สึกว่าเราเหมือนโตบนรถ กว่าจะถึงที่ทำงาน กว่าจะกลับบ้าน คือจริงๆ แล้วระยะทางมันอาจจะไม่ได้ไกลมาก อย่างเข้าสาทร เข้าทองหล่อ เอกมัย แต่รู้สึกว่าแบบมันน่าเบื่อจังแบบเราไปเสียเวลากับตรงนั้นเหมือนชีวิตเราหายไป วันหนึ่งก็แบบ 2-3 ชั่วโมงเลยอ่ะ" คุณโย่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สะท้อนถึงความอัดอั้นจากชีวิตในเมืองใหญ่ ความรู้สึกที่คล้ายกับคนทำงานจำนวนมากที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนมากกว่าในพื้นที่ส่วนตัว ทำให้เธอตั้งคำถามกับวิถีชีวิตแบบเดิมๆ และมองหาทางเลือกใหม่
ด้วยความต้องการที่จะนำเวลาอันมีค่าที่เสียไปนั้น มาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับบ้านเกิดที่พวกเขารัก ReCoffee จึงถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดที่ตกผลึกของเพื่อนสนิท 6 คน ซึ่งล้วนเป็น "เด็กปากน้ำ" โดยกำเนิด และมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย ทั้งด้านบัญชี (คุณแพ็ค), สื่อสารมวลชน (คุณพลอย), การทำเสื้อผ้ากีฬา (คุณโม) รวมถึงเพื่อนคนอื่นๆ ที่มีบทบาทเป็นผู้ลงทุน พวกเขาทุกคนล้วนเคยเป็น "คนสมุทรปราการที่ต้องออกไปทำงานกรุงเทพฯ" และเห็นถึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในบ้านเกิดแต่ไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์
"พวกเราหลายคนรวมตัวกันเพราะว่าเราอยากสร้างสรรค์พื้นที่สร้างสรรค์ให้กับคนในย่านแถวเนี้ย" คุณโย่เน้นย้ำถึงแก่นแท้ของ ReCoffee ที่ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟธรรมดาๆ แต่คือการเป็น "Creative Space" และ "Community" ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาแบ่งปันไอเดีย ความคิด และความสามารถร่วมกัน ด้วยความเชื่อว่า "เพื่อนกันไม่จำเป็นต้องทำธุรกิจแล้วเสียเพื่อน หากมีการสื่อสารที่ดีและหาจุดกึ่งกลางร่วมกันได้" พวกเขาใช้หลักการ "โหวต" และ "เหตุผล" ในการตัดสินใจทุกเรื่อง เพื่อให้ความชอบที่แตกต่างกันของแต่ละคน สามารถหลอมรวมเป็นทิศทางเดียวกันได้ ราวกับทีมซูเปอร์ฮีโร่ที่รวมพลังกันเพื่อภารกิจสำคัญ คุณโย่ในฐานะนักออกแบบเป็นผู้นำด้านดีไซน์ คุณแพ็คเป็นผู้ดูแลบัญชีอย่างละเอียดถี่ถ้วน ส่วนคุณพลอยซึ่งจบด้านสื่อสารมวลชนก็รับหน้าที่เป็น PR และ Marketing ของร้าน ที่คอยสื่อสารเรื่องราวของ ReCoffee ออกไปสู่ภายนอก
การตัดสินใจเปิดร้านที่ปากน้ำแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะทำเลที่ตั้งของร้านซึ่งเคยเป็นร้านกาแฟโบราณมาก่อนนั้น อยู่ใกล้บ้านของคุณโย่เพียงไม่กี่ห้อง ทำให้รู้สึกคุ้นเคยและเข้าถึงบริบทของชุมชนได้อย่างลึกซึ้ง
ชื่อ ReCoffee ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่กาแฟที่ "ถูกนำกลับมาใหม่" (Re) เท่านั้น แต่ยังมาจากคำว่า "Relate" ซึ่งสะท้อนปรัชญาและจุดยืนของร้านได้อย่างชัดเจน คือการ "เชื่อมโยง" ทุกสิ่งเข้ากับชุมชน ReCoffee ไม่ได้ต้องการเป็นร้านกาแฟที่ห่างเหินและเข้าถึงยาก แต่ต้องการเป็นเหมือน "บ้านเพื่อน" ที่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร มาจากไหน ก็สามารถเข้าถึงได้และรู้สึกสบายใจ ที่นี่คือพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กๆ ที่คุ้นเคยกับเมนูไมโลดิป ไปจนถึงคุณป้าคุณลุงที่กล้าเข้ามาลองดื่มกาแฟในร้านที่ดู "คูล" เกินกว่าที่พวกเขาเคยสัมผัส
คุณโย่และทีมงานให้ความสำคัญกับการหยิบจับวัตถุดิบและวัฒนธรรมท้องถิ่นมาสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการ "Relate" กับชุมชนและลูกค้าท้องถิ่น อย่างเช่น "เมนูเฮลโหล" ที่นำไมโลดิป ขนมหวานวัยเด็กยอดนิยมของคนปากน้ำมาตีความใหม่ ให้เป็นเมนูที่ชวนให้นึกถึงความทรงจำดีๆ หรือ "ไอศกรีมไข่แข็ง" ที่ได้แรงบันดาลใจจากร้านไอติมไข่แข็งพื้นบ้านที่คุณโย่และคุณแพ็ครับประทานมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสามารถเข้ากันได้อย่างลงตัวกับกาแฟรสเข้มข้น นี่คือการนำเสนอสิ่งที่คุ้นเคยในรูปแบบที่น่าสนใจ
นอกจากเมนูที่สร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจในวัยเยาว์ ReCoffee ยังก้าวไปอีกขั้นด้วยการ "Relate" กับชุมชนผ่านการร่วมมือกับร้านค้าท้องถิ่น นี่คือหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตไปด้วยกัน อย่างเช่น "น้ำมะตูมสูตรอี๊เปี๊ยะ" ที่นำน้ำสมุนไพรจากร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดหน้าบ้านที่ขึ้นชื่อ มาผสมผสานกับกาแฟได้อย่างลงตัว คุณโย่เล่าว่าพวกเขาได้พูดคุยและทดลองสูตรกับอี๊เปี๊ยะอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยและลงตัวที่สุด เมนูนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่ม แต่เป็นสัญลักษณ์ของการ "ซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน" และการเติบโตไปพร้อมกับชุมชน นอกจากนี้ยังมี "ขนมจากบางด้วน" ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของสมุทรปราการที่ ReCoffee นำมาเสิร์ฟคู่กับอเมริกาโน่ร้อน เป็นการยกระดับขนมพื้นบ้านให้ดูน่าสนใจและเข้าถึงง่ายขึ้นในรูปแบบใหม่ ที่ไม่เพียงแต่ส่งเสริมรสชาติของกาแฟ แต่ยังชูวัตถุดิบและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จัก
"เราอยากจะ Relate ร้านเรากับชุมชนด้วย" คุณโย่กล่าวถึงความตั้งใจที่จะเติบโตไปพร้อมกับชุมชน และไม่เพียงแต่สนับสนุนร้านค้าในละแวกใกล้เคียง แต่ยังสร้างโอกาสให้คนในชุมชนได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และรู้สึกภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง การที่ผู้คนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นป้าข้างบ้านที่เข้ามาสั่งอเมริกาโน่เย็นหวานเจี๊ยบ หรือคุณลุงคุณป้าที่แต่งตัวสบายๆ เข้ามาลองกาแฟในร้านที่ดู "คูล" เกินกว่าที่พวกเขาเคยสัมผัส ล้วนเป็นภาพสะท้อนของความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนในท้องถิ่น และการสร้างความหลากหลายของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ
สิ่งที่ทำให้ ReCoffee แตกต่างจากร้านกาแฟทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด และเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนจากทุกสารทิศคือการนำ "ดีเจ" เข้ามาสร้างสรรค์บรรยากาศและเติมเต็มประสบการณ์การดื่มกาแฟ
"จริงๆมันเป็น Main Concept ของเราตั้งแต่แรกเลย ทำไมดีเจถึงไม่มาอยู่ในร้านกาแฟตอนเช้าจิบกาแฟแทนจิบแอลกอฮอล์อะไรอย่างเงี้ย ฟังดนตรีชิลๆ ให้มันแบบได้ทั้งมู้ดได้ทั้งไวบ์" คุณโย่อธิบายถึงแนวคิดที่แหวกแนวและต้องการให้คนในพื้นที่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าสนใจในยามเช้าตรู่ ซึ่งปกติแล้วดีเจมักจะปรากฏตัวในบาร์ตอนกลางคืน การเปิดพื้นที่ให้ดีเจได้แสดงความสามารถในช่วงเวลากลางวัน ถือเป็นการสร้างโอกาสและส่งเสริมศิลปะในอีกรูปแบบหนึ่ง
การมีดีเจช่วย "เปิดการมองเห็น" ให้กับร้าน ReCoffee อย่างชัดเจน ลูกค้าให้ความสนใจและสอบถามถึงตารางการแสดงของดีเจอยู่เสมอ และจากการวางแผนการตลาดอย่างรอบคอบ รวมถึงการใช้แพลตฟอร์มอย่าง TikTok อย่างชาญฉลาด ทำให้ ReCoffee กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ซึ่งส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวในวันที่ดีเจมาเล่นดนตรี ไม่ใช่เพียงแค่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่ยังช่วยสร้าง "คอมมูนิตี้" ใหม่ๆ ที่คนรักเสียงเพลงและการดื่มกาแฟได้มารวมตัวกัน บรรยากาศที่เป็นกันเองและดนตรีที่เร้าใจ ทำให้ลูกค้ากล้าที่จะขยับตัวตามจังหวะ ไม่เขินที่จะโยกหัว และบางคนถึงขั้นเต้นอย่างสนุกสนาน ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากในร้านกาแฟทั่วไป และตอกย้ำว่า ReCoffee คือพื้นที่ที่ทุกคนสามารถปลดปล่อยตัวเองได้อย่างเต็มที่
นอกจากดีเจแล้ว ReCoffee ยังเป็นมากกว่าแค่ร้านกาแฟ พวกเขาจัดอีเวนต์ดนตรีสดและศิลปะแขนงอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเวิร์คช็อปปั้นเซรามิก ที่นำศิลปะมาสู่ย่านปากน้ำโดยไม่ต้องเข้าไปถึงกรุงเทพฯ หรือเวิร์คช็อปดีเจ เพื่อให้คนในชุมชนได้เข้าถึงศิลปะและดนตรีได้ง่ายขึ้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นมากกว่าแค่ร้านกาแฟ แต่เป็นพื้นที่ที่ช่วยเติมเต็มชีวิตชีวาและสีสันให้กับสมุทรปราการ และยังมองเห็นถึงศักยภาพในการเป็น "แจ๊สแอนด์ค็อกเทลบาร์" ในยามค่ำคืนในอนาคต ซึ่งจะใช้เมนู Local อย่างน้ำมะตูมมาสร้างสรรค์เป็นเมนูค็อกเทลพิเศษ
แม้จะประสบความสำเร็จอย่างงดงามและได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม แต่ ReCoffee ก็ยังคงเผชิญกับความท้าทาย โดยเฉพาะปัญหาเรื่อง "ที่จอดรถ" ที่มีจำกัด ซึ่งต้องคอยบริหารจัดการและสื่อสารกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้กระทบกระทั่งกับคนในชุมชน นอกจากนี้ยังมีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับความต้องการและรสนิยมของลูกค้าในชุมชน เช่น การนำเสนอกาแฟที่หลากหลายรสชาติมากขึ้น จากเดิมที่เน้นกาแฟติดเปรี้ยวตามสไตล์ของร้าน ซึ่งอาจจะไม่ถูกปากลูกค้าบางกลุ่มที่คุ้นเคยกับรสชาติกาแฟที่เข้มข้นกว่า
"จริงๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องยึดตัวตน 100 เปอร์เซ็นต์ มันอาจจะแบบมี เราเหมือนเปลี่ยนบ้างก็ได้ ปรับเปลี่ยนตามบริบทของร้านเรา" คุณโย่กล่าวถึงบทเรียนอันล้ำค่าที่ได้รับจากการทำร้านกาแฟในชุมชน ที่ต้องมีความยืดหยุ่นและเข้าใจในบริบทโดยรอบ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจบริการ เธอและทีมงานเรียนรู้ที่จะประนีประนอมระหว่าง "สิ่งที่ชอบ" กับ "สิ่งที่ลูกค้าต้องการ" และตระหนักว่า การปรับตัวในบางจุดไม่ได้หมายถึงการละทิ้งตัวตน แต่เป็นการทำให้ร้านสามารถเข้าถึงและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนได้อย่างแท้จริง
ReCoffee ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตไปพร้อมกับชุมชน พวกเขาเชื่อว่าการสนับสนุนร้านค้าเล็กๆ รอบข้าง เป็นการสร้างวงจรแห่งการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นในท้องถิ่น เมื่อ ReCoffee มีลูกค้า ร้านค้าใกล้เคียงก็จะมีลูกค้าตามไปด้วย เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในชุมชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้พวกเขายังเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากคนในชุมชนและลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ReCoffee คือภาพสะท้อนของความใฝ่ฝันที่คุณโย่และเพื่อนๆ มีต่อปากน้ำ พวกเขาอยากเห็นเมืองแห่งนี้ไม่ใช่แค่เมืองทางผ่าน แต่เป็นเมืองที่มีศักยภาพ มีความ Creative และเป็นแหล่งรวมคนเก่งที่ได้กลับมาใช้ความสามารถเพื่อพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง ความเบื่อหน่ายจากชีวิตในเมืองหลวง และความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความหมายกับครอบครัว คือแรงผลักดันให้คนรุ่นใหม่จำนวนมากเลือกที่จะกลับมาพัฒนาบ้านเกิด
"อยากให้ภาครัฐซัพพอร์ตเรื่องความ Creative ในปากน้ำก็ได้ อยากให้ดึงคนเข้ามาเยอะๆ ให้ปากน้ำมันแบบพัฒนา มีเงินหมุนเยอะๆ ช่วยกันก็คือเหมือนซัพพอร์ตกันและกันแหละ อยากให้มันเกิด Creative Space ที่ไม่ใช่แค่ร้านเรา อยากให้มันมีอย่างอื่นอีก" คุณโย่กล่าวถึงความหวังที่จะเห็นภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ในสมุทรปราการ รวมถึงการจัดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ที่สามารถดึงดูดผู้คนจากภายนอกเข้ามาได้ เพื่อให้สมุทรปราการเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจ
คุณโย่เชื่อมั่นว่า สมุทรปราการมีศักยภาพที่ซ่อนอยู่มากมาย เพียงแต่ยังขาดการชูจุดเด่นและโอกาสในการแสดงออก และในฐานะที่ ReCoffee เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ พวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในพื้นที่ที่คุ้นเคยนั้นเป็นไปได้ และสามารถสร้างแรงกระเพื่อมที่ยิ่งใหญ่ได้ การกลับมาพัฒนาบ้านเกิด ไม่ใช่แค่การกลับมาอยู่กับครอบครัว แต่คือการนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากโลกภายนอก มาต่อยอดและสร้างคุณค่าให้กับชุมชนของตนเอง
ReCoffee ไม่ได้เป็นเพียงร้านกาแฟแห่งเดียวที่ทำเช่นนี้ในสมุทรปราการ ยังมีร้านอื่นๆ ที่เกิดจากคนรุ่นใหม่ที่รักบ้านเกิดและต้องการจะพัฒนาพื้นที่ของตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสัญญาณที่ดีของการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในปากน้ำ และเมื่อมีโอกาสขยายสาขาในอนาคต คุณโย่ก็ยังคงอยากให้ ReCoffee อยู่ในสมุทรปราการหรือพื้นที่ใกล้เคียงอย่างบางนา เพราะความคุ้นเคยกับพื้นที่ ความสะดวกในการเดินทาง และการรู้จักผู้คนในท้องถิ่น คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาสามารถควบคุมและดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ReCoffee ไม่ใช่เพียงแค่ร้านกาแฟธรรมดาๆ ที่ให้บริการเครื่องดื่ม แต่เป็นหัวใจดวงใหม่ที่กำลังเต้นอยู่ใจกลางปากน้ำ เป็นพื้นที่ที่ผสานความหลงใหลในศิลปะ ดนตรี และกาแฟเข้ากับจิตวิญญาณของชุมชนได้อย่างลงตัว คุณโย่และผองเพื่อนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความฝันที่จะปลุกชีวิตชีวาให้กับบ้านเกิดนั้นเป็นจริงได้ เพียงแค่มีความกล้าที่จะลงมือทำและเชื่อมั่นในศักยภาพของพื้นที่และผู้คน และบางที... "วัยรุ่นปากน้ำอาจจะเท่กว่าวัยรุ่นกรุงเทพฯ" เพราะพวกเขากล้าที่จะเป็นตัวเอง กล้าที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และกล้าที่จะทำอะไรในพื้นที่ที่พวกเขาเติบโตมา ทำให้ปากน้ำไม่ใช่แค่เมืองที่ต้อง "ผ่าน" ไป แต่เป็น "บ้าน" ที่น่าภาคภูมิใจ น่าค้นหา และน่าจับตามองในอนาคต
แล้วคุณล่ะคิดว่าอะไรคือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ธุรกิจในท้องถิ่นสามารถเติบโตและเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองได้อย่างยั่งยืน?