
SHORT CUT
คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมงบประมาณโปรโมตการท่องเที่ยวปีละมหาศาล บางครั้งกลับสร้างแรงสั่นสะเทือนได้ไม่เท่าภาพถ่าย ‘ลูกชิ้นยืนกิน‘ หรือ ‘ผ้าซิ่นหมักโคลน‘ เพียงภาพเดียวบน Instagram ของศิลปิน โดยเฉพาะ ‘ลิซ่า‘
นาทีนี้ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ‘ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล’ คือ Amazing Thailand Ambassador ที่ทรงอิทธิพลที่สุด พลังของเธอไม่ใช่แค่การสร้างกระแสบนโลกออนไลน์ จนเป็นไวรัล Viral แต่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาคเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับสากล ผ่านการหยิบจับสินค้าและวัฒนธรรมไทย เรียกว่าเป็นการทำ Global Marketing ให้กับประเทศไทยแบบที่งบโฆษณามหาศาลก็อาจทำไม่ได้
จากอาหารริมทางสู่เมนูยอดนิยมในต่างประเทศ ปรากฏการณ์ 'ลิซ่า' ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่ออุตสาหกรรมอาหารอย่างชัดเจน
เปลี่ยนเมนูท้องถิ่นที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์บุรีรัมย์และหาดใหญ่ให้กลายเป็น Destination ที่นักท่องเที่ยวต้องไปเช็กอิน สร้างยอดขายให้ผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นถึงพลังในการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในระยะเวลาอันสั้น
เมื่อศิลปินระดับโลกเอ่ยชื่อ เมนูเหล่านี้ก็ไม่ใช่แค่ 'อาหารไทย' แต่กลายเป็น 'Lifestyle' ที่คนทั่วโลกอยากสัมผัส ส่งผลบวกโดยตรงต่อร้านอาหารไทยในต่างแดนที่มียอดจองเพิ่มขึ้น หลังจากมีการระบุว่าเป็นเมนูโปรด
การร่วมมือกับ Erewhon ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับไฮเอนด์ใน LA ในเมนู 'Thai Up the World' ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำ 'ชาไทย' คือการยกระดับ 'ชาไทย' เข้าสู่ตลาด Premium Beverage ในต่างประเทศ ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบไทย
นอกเหนือจากอาหาร ความโดดเด่นของศิลปหัตถกรรมไทยได้ถูกนำเสนอผ่านผลงานระดับโลก ในสไตล์ที่ไม่เหมือนเดิม ภาพจำของผ้าไทยที่เคยถูกมองว่า 'เข้าถึงยาก' ถูกทลายลงด้วยสไตล์ของ ‘ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล’
การสวมชุดไทยผ้าไหมยกลำพูนพร้อมรัดเกล้ายอดในมิวสิกวิดีโอ เพลง 'LALISA' คือการแสดงศักยภาพของงานฝีมือไทยในเชิง Craftsmanship ทำให้งานฝีมือไทยถ่ายทอดสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกหลายร้อยล้านครั้ง
การเลือกสวมผ้าซิ่นไปเที่ยวอยุธยา ได้เปลี่ยนมุมมองของคนรุ่นใหม่ต่อผ้าพื้นเมือง ทำให้เกิดเทรนด์ 'นุ่งซิ่นเที่ยวไทย' นี่กลายเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นร่วมสมัย (Outfit of the Day) ที่วัยรุ่นกล้าใส่ตาม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อรายได้ของกลุ่มทอผ้าทั่วประเทศ
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจาก ‘ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล’ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการติดตามดาราหรือศิลปินทั่วไป แต่คือกลยุทธ์ Authentic Marketing หรือการตลาดแบบจริงใจที่ทรงพลังที่สุด ไม่ได้ดูเป็นการยัดเยียดโฆษณา หรือขายสินค้า ผู้ติดตามชอบที่จริงใจ ทำให้เกิดความรู้สึก Cool และทันสมัยร่วม การนำจุดเด่นของไทยมาผสมผสานกับตัวตนของบุคคลที่มีอิทธิพลระดับโลก ส่งผลบวกโดยตรงให้เกิดการกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการรายย่อยและยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
สรุปสั้นๆ คือ ยุคนี้ 'การตลาดแบบจริงใจ' สำคัญที่สุด แบรนด์สินค้าเองก็ต้องปรับกลยุทธ์ เลิกการสร้างภาพให้เนียบเกินจริง แล้วหันมาสื่อสารแบบ 'ตรงไปตรงมา-ซื่อสัตย์-จริงใจ' มันคือการเชื่อมต่อกับผู้คนในระดับที่ลึกซึ้งกว่าเดิม ผ่านข้อความที่เป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง จนลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์นี้คือ 'เพื่อนที่ไว้ใจได้' ไม่ใช่แค่ 'คนขายของ'