ทางออกนอกตำรา : ใครลาก Gulf ไปสกรัมหุ้น

ระยะ 2-3 สัปดาห์ปลายปี ตลาดหุ้นเมืองไทยไม่ไปไหน ไต่ระดับ 1,695-1,710 จุด นักลงทุนเล่นหุ้นกันไม่กี่กลุ่ม กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน กลุ่มก่อสร้าง และที่ดุเดือดเลือดพล่านกันทั้งกระดานคือ “หุ้นกลุ่ม IPO”

เข้ามาทุกตัว “ร้อนฉ่าทุกตัว” คนถือมือแรกได้กำไรจากราคาเหนือจองอย่างน้อย 20-40% นำเงินรายได้ไปฉลองปีใหม่สบายอุรา ปล่อยให้แมลงเม่าที่เข้าตามภายหลังลุ้นกันปากแห้งผา

ในจำนวนหุ้น IPO ที่ต้องบอกว่าร้อนแรง และมี “มือดี”ลากขึ้นรุมสกรัมในบั้นท้ายที่ควานหาไอ้โม่งกันให้ควั่ก หนีไม่พ้นหุ้นพลังงานเจ้าเสน่ห์ หุ้น Gulf บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  ของ “เสี่ยกลาง-สารัชถ์ รัตนาวะดี” มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 5 บาท มีมูลค่าทางบัญชี (Book Value) 8.63 บาท  เสนอขายไอพีโอในราคาหุ้นละ 45 บาท รวม 533.30 ล้านหุ้น  หลังเปิดขายแล้ว Gulf จะมีหุ้นทั้งหมด 2,133.30ล้านหุ้น

สารัชถ์ รัตนาวะดี

ผมไล่เลียงให้เห็นภาพ วันที่ 6 ธันวาคม หุ้น Gulf เปิดตลาดที่ราคา 57.50 บาท จากราคาไอพีโอ 45 บาท ราคาวิ่งไปสูงสุด 59.50 บาท ราคาตํ่าสุด 52.25 บาท ขึ้นลงวันแรก สุดเหวี่ยง ก่อนปิดตลาดที่ราคา 53.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18,366 ล้านบาท ซื้อขายกันสิริรวมทั้งสิ้น 350.3 ล้านหุ้น

ในจำนวน 350 ล้านหุ้นนี้ ธนาคารกรุงเทพ (BBL)ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้รายใหญ่ ได้เสนอซื้อหุ้นบิ๊กล็อตจากกลุ่ม นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในวันแรกที่ซื้อขาย ในจำนวน 64 ล้านหุ้น ราคาไอพีโอที่ 45 บาท รวมไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้ BBL เข้ามาถือหุ้นใน GULF ประมาณ 3.52% ส่งผลให้กลุ่มนายสารัชถ์ จะเหลือสัดส่วนหุ้นหลังการขายไอพีโอและหลังรายการ บิ๊กล็อตแค่ 71.88% จากเดิมถือ 100%

นั่นเท่ากับว่า มีการซื้อขายกันจริงในตลาด 15,366 ล้านบา ท กำไรกันเหนาะๆจากไอพีโอ 10-12 บาท

ดูรายละเอียดในสัญญาณการซื้อขายวันแรกแล้ว “เสี่ยกลาง” และ 3 ที่ปรึกษาทางการเงิน อันประกอบด้วย “บล.กสิกรไทยฯ-บล.ไทยพาณิชย์ฯ-บล.บัวหลวงฯ” บอกว่า “รูปทรงสวย” สำหรับหุ้นไอพีโอระดับนี้

พอถึงวันที่ 7 ธันวาคม นี่สิ....มีสัญญาณบางประการที่คล้ายๆจะมี “มือดี” มาลาก หุ้น Gulf ไปรุมประชาทัณฑ์ รุมสกรัม ให้เสี่ยกลาง หนาวเหน็บเจ็บไปถึงทรวงอก

เช้าขึ้นมาเปิดตลาดยังพอดูดี 54 บาท ก่อนถูกทิ้งพรวดลงมาเหลือ 50.75 บาท และยืนสลบเหมือดที่ระดับนี้นาน ก่อนปิดตลาดที่ 51 บาท ปริมาณการซื้อ ขาย 53 ล้านหุ้น มูลค่าซื้อขายกันรวม 2,782 ล้านบาท เฉลี่ยวันนั้นทั้งวัน ซื้อขายกันแค่หุ้นละ 51 บาทเศษ

วันนั้นขาใหญ่ในตลาดหุ้นแถวรัชดาฯ ยัน“ขาใหญ่ในออลซีซั่นส์ เพลส” ตามล่าตัวไอ้โม่งผู้กล้าบังอาจแหย่หนวด “ชายกลาง” กันทั้งวัน….ไผสิกล้าทำ...

พรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์

สืบไปสาวมาพบว่า “เสี่ยกลาง” และ “เจ๊พรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์” ที่ว่าแน่ โดน “นักเลงคีย์บอร์ด” ในวัยคะนองศึก รับไม้จาก “บิ๊กสีเขียว” กลุ่มหนึ่งมาถล่มเสียเละเทะ

โลกโซเชียลมีเดีย ได้หยิบยกประเด็นที่กระทรวงพลังงานยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด ในกรณีของ บริษัท IPD GSRC และ GPD บริษัทลูก ได้เป็นคู่ความในคดีปกครอง โดยในปี 2558 IPD GSRC และ GPD ได้ยื่นฟ้อง คดีต่อศาลปกครองกลางและในปัจจุบันคดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า หากศาลปกครองสูงสุดพิจารณาตัดสินจะกระทบกับฐานะของบริษัท Gulf อย่างแน่นอน ว่าเข้าไปนั่น

เพราะคำพิพากษาของศาลปกครองนั้น ตัดสินให้กลุ่ม กัลฟ์ชนะคดีก็จริง แต่สาระสำคัญศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่า “ผู้ถูกฟ้องคดี คือ (1) กกพ. (2) สกพ. (3) กระทรวงพลังงาน และ (4) คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง (รวมเรียกว่า “ผู้ถูกฟ้องคดี”) มีอำนาจดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย แต่ได้กระทำการนอกเหนือเกินขอบเขตอำนาจ ในการใช้ผลการตรวจสอบดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีคือบริษัทลูก 2 บริษัท ได้รับความเสียหาย และให้กระทรวงพลังงาน แจ้งยกเลิกหนังสือที่ส่งไปถึงสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกับการชะลอการพิจารณาอนุมัติการส่งเสริมการลงทุน ที่ได้มีมติอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนแก่ GSRC และ GPD ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดกระทรวงพลังงาน ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ขณะที่ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดภายในกำหนดเวลาแล้วเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 แล้ว”

เรื่องในโลกโซเชียล จึงว่อนไปทั้งกระดาน ทั้งกระดานหุ้น กระดานไลน์ กระดานอินสตาแกรม และเพจดัง กระทั่งผู้บริหาร Gulf ต้องออกโรงชี้แจงในเรื่องนี้ หุ้นจึงสงบ

วันที่ 3 ของการเปิดซื้อขายหุ้น Gulf เปิดตลาดที่ 52.25 บาท วิ่งขึ้นไปสูงสุด 55.25 บาท ใครขายตอนนั้นกำไรเหนาะๆ 3 บาท แต่สุดท้ายวิ่งลงมาปิดที่ 54.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,200 ล้านบาท

ไม่มีใครคาดคิดว่า หุ้นพี่ใหญ่ในวงการพลังงานที่มีโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ขายไฟฟ้าแล้ว 13 โครงการ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 4,771.5 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของ 1,963.1 เมกะวัตต์

ปี 2567 กลุ่มบริษัทตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 11,125.6 เมกะวัตต์ คิดตามสัดส่วนความเป็นเจ้าของอยู่ที่ 6,329.2 เมกะวัตต์ ซึ่งจะขึ้นอันดับ 1 ในไทยและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเจอนักเลงคีย์บอร์ดขย่มเสียจนเด้งไปเด้งมา ใน 3 วันทำการ

ผมยังทราบอีกว่า กลุ่มไอ้โม่งที่พร้อมลาก Gulf มาสกรัมยังไม่หนำใจ ไม่เชื่อลองไปสุ่มในห้องหุ้นดังจะเห็นร่องรอยปมใหญ่ที่เสี่ยกลางและคณะจะต้องหาทางแก้ไขโดยเร็วมิได้อยู่ที่ตัวหุ้น และการทำมาหาได้ของบริษัท หากแต่ที่ “กลุ่มนักเลงคีย์บอร์ด” กำลังขยับคือ การสร้างปมใหม่ในเรื่องที่ผู้ถือหุ้นเดิมเคยได้รับการจัดสรรหุ้นแบบ RO จำนวน 980-990 ล้านหุ้น เมื่อเดือนสิงหาคม 2560

ว่ากันว่า ผู้ถือหุ้นเหล่านี้มีต้นทุนแค่ 5 บาท ตํ่ากว่าราคาไอพีโอ ร่วม 88% ในจำนวนนี้มีถึง 400 ล้านหุ้นที่ไม่ติดไซเลนต์ พีเรียด

ลองเดากันมั้ยว่า....พวกเขาจะขย่มกันอย่างไร....

ผมกำลังชี้ทางให้ผู้ถือหุ้น และคณะผู้บริหารบริษัท กัลฟ์  เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) รับทราบ และหาทางแก้ ด้วยความเคารพ...

ข้อมูลรายบริษัท/หลักทรัพย์ ..คลิก

…………………………..

คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา/ หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3322 ระหว่างวันที่ 14-16 ธ.ค.2560