ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
จากกรณีนางสาวไก่ (นามสมมติ) ได้เข้าร้องทุกข์กับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หลังจากเด็กชายบี (นามสมมติ) ลูกชายวัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท ถูกเพื่อนและรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันรวม 3 คน จับขังไว้ในห้องเก็บของของเรือนนอนแล้วใส่กุญแจล็อกไว้ ก่อนจะฉีดยาฆ่าแมลงเข้าไปจนไม่มีอากาศหายใจ จากนั้นได้จุดไฟแช็คจนทำให้เกิดประกายไฟลุกท่วมภายในช่องเก็บของดังกล่าว จนเผาไหม้ร่างกายของ ด.ช.เอ ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ล่าสุด เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว นายสมเกียรติ สุทธิเจริญพานิชย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนของเด็กชายบี ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตนได้รับแจ้งจากครูหอนอนพบเด็กเล่นกันจนเกิดอุบัติเหตุ โดยเด็กที่ได้รับบาดเจ็บได้เข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า มีเพื่อนคนหนึ่งเรียกให้ออกมาแต่ไม่ยอมออก เพื่อนอีกคนใช้ยาฉีดยุงที่เป็นสเปรย์ฉีดเข้าไป แล้วใช้ไฟจุด ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ลวกตัวเด็กที่อยู่ในตู้
จากนั้นเพื่อนๆ และครูจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร หลังจากนั้นตนได้ไปเยี่ยมเด็กที่โรงพยาบาล พร้อมให้กำลังใจเด็กว่าไม่เป็นไร ประเมินดูแล้วเดี๋ยวก็หาย แต่ผู้ปกครองเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนหาว่า ผอ.ดูถูกเรื่องบาดแผล
เมื่อตนได้พบกับผู้ปกครองของเด็กชายบีที่โรงพยาบาล ผู้ปกครองบอกว่า ผอ.อย่าดุว่าเด็กนะ ผู้ปกครองไม่ติดใจเอาเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้รู้สึกสบายใจ หลังจากนั้นกลับมาที่โรงเรียนเช้าขึ้นได้ข่าวว่า ผู้ปกครองเด็กที่ได้รับบาดเจ็บไปแจ้งความแล้ว ทำให้ทางโรงเรียนไม่สบายใจนัก จากนั้นได้ประสานกับผู้ปกครองโดยตลอด ขณะที่ผู้ปกครองบ่ายเบี่ยงไม่ยอมเจรจา ก่อนในเวลาต่อมาจะยอมเจรจาทั้งสองฝ่าย
ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ยังกล่าวอีกว่า ประเด็นที่ผู้ปกครองนักเรียนที่บาดเจ็บได้ไปแจ้งข้อหาพยายามฆ่า จริงๆ แล้วเด็กกลุ่มนี้มีความสนิทกันมาก เป็นเพื่อนรักกัน หลังเกิดเหตุกลับมาบอกว่าไม่รู้จักกัน ทั้งๆ ที่เขาอยู่หอนอนเดียวกัน เล่นด้วยกันตลอด ตรงนี้เป็นข้อสังเกต ไม่เข้าใจว่าเจตนาจริงๆ ผู้ปกครองต้องการอะไร ขณะที่เด็กนอนโรงพยาบาล ทางโรงเรียนจะมีครูไปเยี่ยมทุกวัน ตนเองถ้าว่างก็จะเข้าไปเยี่ยมทันที ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ สงสัยว่าทำไปผู้ปกครองไม่ยอมรับเงินตามข้อตกลง
"เพราะทุกวันที่ครูไปเยี่ยมก็ได้นำเงินที่รวบรวมได้พกติดตัวไปเพื่อมอบให้ผู้ปกครอ แต่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับ ทำให้ไม่เป็นที่สบายใจของทางโรงเรียน เขาได้ขู่ว่าเดี๋ยวเจอกันพูดแบบนี้ตลอด" นายสมเกียรติ ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าว.
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เผยว่าทางผู้ปกครองของเด็กที่ได้รับความเสียหาย ได้เข้าไปแจ้งความในประเด็นการชำระเงินของคู่กรณี ไม่ได้มีการแจ้งความเกี่ยวกับการพยายามฆ่าแต่อย่างใด สำหรับอาการของเด็กขณะนี้ดีขึ้นมากแล้ว บาดแผลใกล้หาย เหลืออีกประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นแผลที่ไม่น่ามีอาการหนัก ลักษณะแผลรอยไฟรวกที่แขน ขา และในหู โดยที่ใบหูตกสะเก็ดแล้ว.