svasdssvasds

วิธีคำนวณ หา ส.ส.บัญชีรายชื่อ

วิธีคำนวณ หา ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

เมื่อให้บัตรเลือกตั้งใบเดียว จึงจำเป็นต้องมีวิธีการคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อกำหนดไว้ใน ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ด้วย โดยหลักการคือเสียงของประชาชนทุกคนต้องไม่ตกน้ำ

โดย ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทั้ง 150 คน จะใช้วิธีการคำนวณ ดังนี้ คือ นำคะแนน ส.ส.เขต เฉพาะพรรคการเมืองที่ส่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มารวมกัน และหารด้วย 500 เพื่อหาคะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส. 1 คน จากนั้น เริ่มการคิดคะแนนนิยมของแต่ละพรรค โดยนำคะแนนรวม ส.ส.เขต ทั่วประเทศของแต่ละพรรค หารด้วย คะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส. 1 คน ก็จะจำนวน สส.ที่แต่ละพรรคพึ่งได้ ขั้นตอนสุดท้าย นำจำนวน สส.ที่แต่ละพรรคพึ่งได้ ลบด้วย คะแนน ส.ส.เขต ก็จะได้จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ

วิธีคำนวณ หา ส.ส.บัญชีรายชื่อ วิธีคำนวณ หา ส.ส.บัญชีรายชื่อ วิธีคำนวณ หา ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ยกตัวอย่าง มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 30 ล้านใบ พรรค ก. ได้รับความนิยม 15 ล้านใบ หมายความว่า พรรค ก. ต้องได้ จำนวนส.ส.ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสภา นั่นก็คือ 250 ที่นั่ง ขณะที่พรรค ง. ได้รับความนิยมน้อยที่สุด คือ 5% ก็ควรจะได้ ส.ส. 5% จาก 500 ที่นั่งในสภา

เมื่อคำนวณสัดส่วนของแต่ละพรรคเสร็จแล้ว ขั้นที่ 2 จะไปดูว่า ในจำนวน 15 ล้านบัตรเลือกตั้งนั้น พรรค ก.ชนะเขตเลือกตั้งกี่เขตเช่น ชนะ 200 เขต ขณะที่คะแนนความนิยมทั่วประเทศต้องได้ 250 ที่นั่งในสภา ก็จะเอา ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มเข้าไปให้ ตามสิทธิที่พรรคนั้นควรได้ แต่ส่วนเกินนั้นจะไปเบียดจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ควรแบ่งให้กับพรรคอื่น

 

ส่วนกรณี หาก จำนวน ส.ส.ที่ชนะเขตเลือกตั้ง มากกว่า ค่านิยมของพรรค หรือ เกิดโอเวอร์แฮงค์ เช่น พรรค ค.ได้จำนวน ส.ส.ที่พึงมี 4 คน แต่ชนะ ส.ส.ระบบแบ่งเขต จำนวน 5 คน มีโอเวอร์แฮงค์ จำนวน 1 คน ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ก็จะได้ สส.แบบแบ่งเขต เท่านั้น แต่จะไม่ได้สส.ระบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีก กรณีนี้ น่าจะเกิดขึ้นยาก

สำหรับการเลือกตั้งซ่อมภายใน 1 ปี ก็ต้องนำมาคำนวณ ใหม่ ใครอยู่อันดับท้ายของพรรคที่ต้องเสียคะแนนนิยมไป ก็ต้องหลุดจากตำแหน่ง ของ ส.ส. /พรรคใดได้คะแนนเพิ่มขึ้น ลำดับผู้สมัคร ส.ส.ในบัญชีรายชื่อ คนต่อไป ก็จะได้เข้ามาเป็น ส.ส.

related