ราคาน้ำมันโลก ที่ตลาดลอนดอน ร้อนแรงทะลุ 70 ดอลลาร์สหรัฐ ครั้งแรกในรอบ 3 ปีแล้ว เหตุน้ำมันสำรองในสหรัฐฯ ลดต่อเนื่อง ประกอบกับ กลุ่มโอเปกเดินหน้ามาตรการลดกำลังการผลิตต่อไป
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ตลาดลอนดอน เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับขึ้นอย่างร้อนแรง โดยระหว่างการซื้อขายนั้นราคาได้พุ่งไปถึง 1.2% ทะลุ 70.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลล์ เป็นราคาสูงสุดในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2014 ก่อนที่เมื่อปิดตลาดจะปรับลงมาเล็กน้อยปิดที่ 69.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลล์
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลก ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากเมื่อช่วงครึ่งปีหลัง ของปีที่แล้ว โดยมีปัจจัยหลักดังนี้คือ
ประการแรก กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก หรือโอเปก ซึ่งจับมือกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก โดยเฉพาะรัสเซียนั้น ยังคงเดินหน้าลดกำลังการผลิตที่ส่งออกสู่ตลาดโลก โดยคาดว่าในเดือนหน้า ปริมาณที่ลดลงจะอยู่ที่ 10 ล้านบาเรลล์ต่อวัน และจะลดต่อเนื่องไปสู่ 11 ล้านบาเรลล์ต่อวัน ในปลายปี 2019 ด้วย
ประการต่อมา ก็คือ ปริมาณน้ำมันในสำรองของสหรัฐฯ ก็ปรับลดลงต่อเนื่องเช่นกัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงราว 4.95 ล้านบาเรลล์ เป็นการปรับลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 แล้ว
ทางด้าน นาย ยูจีน ไวน์เบิร์ก หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคารคอมเมิร์ซแบงก์ เอจี ในแฟรงเฟิร์ต บอกว่า ราคาน้ำมันที่ 70 ดอลลาร์นั้น ถือว่าสูงเกินไปแล้ว และน่าจะทำให้ผู้ผลิตน้ำมันจากแหล่งเชลออยล์ในสหรัฐฯ กลับมาผลิตกันอีกครั้งเนื่องจากคุ้มทุนมากขึ้น ซึ่งเมื่อนั้นก็อาจจะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงอีกได้