svasdssvasds

นักลงทุนยังเชื่อมั่น! 'คริปโตเคอร์เรนซี' แม้เกิดโจรกรรมครั้งใหญ่

นักลงทุนยังเชื่อมั่น! 'คริปโตเคอร์เรนซี' แม้เกิดโจรกรรมครั้งใหญ่

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

  นักลงทุนเอเชียส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่น แม้ว่า ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ จะถูกขโมยไปกว่า 17,000 ล้านบาท   นักลงทุนยังเชื่อมั่น! 'คริปโตเคอร์เรนซี' แม้เกิดโจรกรรมครั้งใหญ่   วันที่ 30 ม.ค. 61 -- บรรดานักลงทุนและเทรดเดอร์ในเอเชียยังคงแสดงความเชื่อมั่นต่อตลาดเงินเสมือนจริง หลังจาก ‘คอยน์เช็ค’ บริษัทซื้อขายเงินดิจิทัล สัญชาติญี่ปุ่น สูญเงินดิจิทัลสกุล NEM (เอ็นอีเอ็ม) มูลค่า 58,000 ล้านเยน หรือกว่า 17,000 ล้านบาท เนื่องจากถูกแฮกเกอร์เจาะระบบและขโมยเงินดิจิทัลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นส่วนหนึ่งของความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยน ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ และพวกเขาไม่คิดว่า การเจาะระบบขโมยเงินดิจิทัลครั้งนี้ จะลดขนาด ‘ตลาดบิตคอยน์’ ที่ขยายตัวอย่างสูง   นักลงทุนยังเชื่อมั่น! 'คริปโตเคอร์เรนซี' แม้เกิดโจรกรรมครั้งใหญ่   ขณะที่ นายแบ็ค ซองคยู นักลงทุนชาวเกาหลีใต้ ในกรุงโซล ระบุว่า การสูญเงินมหาศาลของ บริษัท คอยน์เช็ค เป็นปัญหาของบริษัท ไม่ใช่ปัญหาของเงินเสมือนจริง พร้อมระบุว่า การแลกเปลี่ยน ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ควรเพิ่มความระมัดระวังด้านความปลอดภัย สำหรับนักลงทุนกลุ่มใหญ่ของ ‘ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี’ ทั่วโลก โดยราคาเงินดิจิทัลถูกผลักดันให้เพิ่มสูงขึ้นใน 2 ประเทศนี้ เนื่องจากอุปสงค์อันแข็งแกร่ง   นักลงทุนยังเชื่อมั่น! 'คริปโตเคอร์เรนซี' แม้เกิดโจรกรรมครั้งใหญ่   นายยาสุโนริ ซุกิอิ รองประธาน บริษัท บล็อคเชน คอลแลบบอเรทีฟ คันซอร์ เชียม แถลงในกรุงโตเกียวว่า การแฮกเงินดังกล่าวจะจูงใจให้บริษัทแลกเปลี่ยนอื่น ๆ พัฒนาความปลอดภัยต่อการปฏิบัติการ ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ขณะที่ ทางการต่าง ๆ อยู่ระหว่างยกระดับกฎระเบียบการซื้อขาย ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ท่ามกลางความนิยม โดยญี่ปุ่นสั่งให้บริษัทแลกเปลี่ยนลงทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลบริการการเงินญี่ปุ่น หรือ เอฟเอสเอ ส่วนเกาหลีใต้วางแผนห้ามเทรดเดอร์ ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ใช้บัญชีธนาคารนิรนาม  
related