svasdssvasds

ครอบครัวสร้างพระอุทิศให้ "น้องเมย" คดียังไม่คืบรอแพทย์นิติเวช ชี้ขาดผลชันสูตร

ครอบครัวสร้างพระอุทิศให้ "น้องเมย" คดียังไม่คืบรอแพทย์นิติเวช ชี้ขาดผลชันสูตร

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

วันนี้ ครอบครัวตัญกาญจน์ ประกอบด้วย นายพิเชษฐ์ – นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พร้อมบรรดาญาติพี่น้อง คนรู้จักและประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญเททองหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตัก 29 นิ้ว ถวาย วัดวิเวการาม จังหวัดชลบุรี เพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับ นตท.ภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย ณ โรงหล่อพระสมานช่างหล่อ ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

ครอบครัวสร้างพระอุทิศให้ "น้องเมย" คดียังไม่คืบรอแพทย์นิติเวช ชี้ขาดผลชันสูตร

ครอบครัวสร้างพระอุทิศให้ "น้องเมย" คดียังไม่คืบรอแพทย์นิติเวช ชี้ขาดผลชันสูตร

ภายในพิธียังมีทีมดูแลงานกฎหมายเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ น้องเมย เข้าร่วมด้วย โดย นายพิเชษฐ์ –นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา บอกว่าขณะประกอบพิธีได้มีนิมิตที่ดีซึ่งบอกให้รู้ว่า น้องเมย ได้รับรู้ถึงงานบุญที่ทางครอบครัวทำให้ และหวังว่า น้องเมย จะได้อยู่ในภพภูมิที่ดียิ่งขึ้น ส่วนทางคดีนั้นยกให้เป็นหน้าที่ของทีมงานทนายความจาก บริษัท บาร์ริสเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ลอว์เฟิร์ม จำกัด ซึ่งมีความเป็นมืออาชีพ เพราะที่ผ่านมาทางครอบครัว ได้เดินหน้าหาหลักฐานต่างๆ จนสุดความสามารถภายใต้การช่วยนำเสนอข่าวสารของสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง หลังจากนี้จึงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีเชี่ยวชาญด้านกฏหมายในการหาคำตอบที่ชัดเจนให้กับครอบครัวต่อไป

ครอบครัวสร้างพระอุทิศให้ "น้องเมย" คดียังไม่คืบรอแพทย์นิติเวช ชี้ขาดผลชันสูตร

ขณะที่ นายสาธิต พูนสวัสดิ์พงศ์ หัวหน้าทีมดูแลงานกฎหมายทั้งหมด เผยว่า เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแยกเป็นหลายๆ ส่วนของการดำเนินคดี ซึ่งในส่วนของคดีอาญาต้องขึ้นศาลทหาร แต่ในส่วนค่าสินไหมทดแทน ต้องขึ้นศาลพลเรือนหรือศาลปกครอง ที่สำคัญคดีนี้มีกรณีเกี่ยวกับการตายที่ผิดธรรมชาติ จึงมีการชันสูตรพลิกศพและเข้าใจว่าน่าจะขึ้นศาลยุติธรรม ซึ่งผลของการไต่สวนชันสูตรพลิกศพ จะเป็นจุดสำคัญที่นำไปสู่การดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้อง แต่ในเบื้องต้นในชั้นไต่สวนการชันสูตรพลิกศพ จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าผู้ตาย เสียชีวิตเพราะเหตุใดก่อน

ทั้งนี้ล่าสุด พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรนครนายก ได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร ต่อมารดาของ “น้องเมย” ว่าได้สอบพยานบุคคลไปแล้ว 28 ปาก แต่จะมีประเด็นหนึ่งที่พนักงานสอบสวนกำลังรอเรื่อง คือประเด็นเกี่ยวกับ ผลตรวจชันสูตรพลิกศพ ที่จัดทำโดยโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ กับ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ความเห็นทางวิชาการแตกต่างกัน ดังนั้น พนักงานสอบสวนจึงแจ้งมายังคุณแม่ว่าอยู่ระหว่างการทำหนังสือถึง เลขาธิการแพทยสภา เพื่อให้ติดต่อไปยังสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย เพื่อจัดหาผู้เชี่ยวชาญเข้ามาให้ความเห็นถึงความต่างทางวิชาการ ของทั้ง 2 สถาบัน

“สำหรับมุมมองของผมเห็นว่า แพทย์ที่ให้ความเป็นกลางจากสถาบันใดก็ได้ ที่จะต้องเข้ามาพิสูจน์ผลการตรวจสอบที่ต่างกันของทั้ง 2 สถาบัน เพื่อให้ได้รับคำยืนยันว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ ซึ่งเราต้องการเพียงที่จะทำให้ ความจริงออกมาว่า สุดท้ายแล้วผู้ตายเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด เนื่องจากบางข่าวออกมาว่า ล้ม วูบไป ตกบันไดเสียชีวิต แต่ทางครอบครัวมีความเชื่อตามหลักฐานที่มีอยู่ในมือว่ามีการตายผิดธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้ผลทางนิติวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ และจะมีหน่วยงานกลางเข้ามาตรวจสอบผล”

นายสาธิต ยังกล่าวทิ้งท้ายว่าขณะนี้ทีมทนาย อยู่ระหว่างการส่งหนังสือ เพิ่มเติมให้กับทางแพทยสภา หลังทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำหนังสือไปยังแพทยสภาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ ซึ่งหากระยะเวลาเนิ่นนานไป ทีมทนายก็มีสิทธิที่จะสอบถามเข้าไปได้ในฐานะตัวแทนของแม่ผู้ตาย “เป็นสิทธิของแพทย์สภา และสิทธิของสมาคมแพทยสภา ที่จะติดต่อไปยังสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทยว่าจะให้ความร่วมมือหรือไม่ก็ได้ เพียงแต่เราเพียงแค่จะขอความเมตตาว่าขอให้ความจริงเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อผลของความจริงออกมาเช่นไร ผลนั้นจะไปต่อยอดทางคดีเอง

related