ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
หน่วยงานของสหรัฐฯและยุโรปเรียกตัวนายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Facebook เพื่อชี้แจงว่า ทำไมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ Facebook หลายสิบล้านคน ตกไปอยู่ในมือของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลที่ทำงานให้กับแคมเปญหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งสหรัฐฯเมื่อปลายปี 2016 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้
กรณีที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า บริษัท Facebook ได้ละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ Facebook ถูกปรับเป็นมูลค่ามหาศาล ด้านคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ - FTC (หน่วยงานอิสระของรัฐบาลสหรัฐ ทำหน้าที่ควบคุมดูแลธุรกิจการค้าให้ดำเนินงานอย่างถูกต้องและยุติธรรม) ระบุว่า ค่าปรับสูงสุดอยู่ที่ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯหรือ ราว 1.4 ล้านบาทต่อการละเมิด 1 ครั้ง ซึ่งในกรณีนี้ มีผู้ใช้งาน Facebook 50 ล้านคนถูกละเมิด เท่ากับว่า หากมีการลงโทษสูงสุด Facebook อาจต้องจ่ายค่าปรับหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเลยทีเดียว
กรณีที่สายลับรัสเซียใช้ Facebook ในการสร้างข่าวปลอมต่างๆในช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯปี 2016 นั้น ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Facebook อย่างหนัก นอกจากนี้ยังทำให้ Facebook ถูกอังกฤษและสหรัฐฯสอบสวนมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
นายเอมี่ โคลบูชาร์ วุฒิสมาชิกของสหรัฐฯระบุว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ขอให้เราไว้ใจ Facebook ของเขา แต่เขาก็จำเป็นต้องมาให้การต่อหน้าคณะกรรมาธิการด้านยุติธรรมของวุฒิสภาด้วยว่า Facebook รู้หรือไม่ว่า มีการนำข้อมูลของชาวอเมริกัน 50 ล้านคนไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งล่าสุด สหภาพยุโรปมีการเรียกร้องให้มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หรือผู้บริหารคนอื่นๆของ Facebook ชี้แจงต่อกรณีนี้ด้วยตนเอง ขณะที่นายเดเมียน คอลลินส์ ประธานคณะกรรมาธิการสภาอังกฤษ ด้านดิจิทัลและวัฒนธรรม เรียกร้องให้ Facebook ชี้แจงถึงกรณีข้อมูลบัญชีผู้ใช้ Facebook รั่วไหลนับสิบล้านบัญชีเช่นกัน / ไปฟังเสียงกันครับ