ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
จากกรณีที่ กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) ได้จัดทำโครงการรติดตั้งระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนเปลี่ยนช่องทางเดินรถในเขตห้าม (Lane Change Camera System ) เพื่อตรวจจับและเป็นการบังคับใช้กฎหมายกับรถที่กระทำผิด ลดอุบัติเหตุ และลดปัญหาการจราจรติดขัดจากพฤติกรรมดังกล่าว โดยตัวกล้อง มีความคมชัดและละเอียดสูง 2 ล้านเมกกะพิกเซลล์ สามารถตรวจจับได้ทั้งกลางวัน กลางคืน และทุกสภาพอากาศ สามารถบันทึกข้อมูลเก็บไว้ได้ไม่น้อยกว่า 1 ปี และเริ่มทำงานบันทึกภาพผู้กระทำผิดตั้งแต่เวลา 00.01 เป็นต้นมา
พ.ต.อ. กิตติ อริยานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร ระบุว่า ทาง บก.จร. ได้สรุปตัวเลขเบื้องต้นในเวลา 17.00 น. พบมีผู้กระทำความผิดทั้งสิ้น 14,710 ราย โดย 5 จุดที่มีผู้กระทำผิดสูงสุด ประกอบด้วย
1 . แยกสามเหลี่ยมดินแดง ถ.ราชวิถี ขาเข้า มีผู้กระทำผิดสูงถึง 2,018 ราย2. บริเวณสะพานศิริราชด้านอรุณอัมรินทร์ ถ.อรุณอัมรินทร์ ขาออก มีผู้กระทำผิด 1,696 ราย
3. ทางลอดแยกห้วยขวาง ถ.รัชดาภิเษก ขาเข้า มีผู้กระทำผิด 1,657 ราย
4. สะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถ.ลาดพร้าว ขาเข้า มีผู้กระทำผิด 1,236 ราย
5. สะพานพุทธ ถ.ประชาธิปก ขาเข้า มีผู้กระทำผิด 1,118 ราย
ขณะที่ แยกที่มีผู้กระทำผิดน้อยที่สุด มี 2 แยก คือ
1. สะพานข้ามแยกประชานุกุล ถ.รัชดาภิเษก ขาออก มีผู้กระทำผิด 445 ราย
2. สะพานข้ามแยกวงเวียนบางเขน ถ.แจ้งวัฒนะ ขาเข้า มีผู้กระทำผิด 446 ราย
สำหรับกล้องเลนเชนจ์ นี้กองบังคับการตำรวจจราจร ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 14,387,220 บาท ติดตั้ง กล้องทั้งสิ้น 15 จุดประกอบด้วย
1.สะพานแยกบางเขนถนนงามวงศ์วานขาออก2.สะพานข้ามแยกศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะขาออก
3.ทางลอดแยกห้วยขวางถนนรัชดาภิเษกขาเข้า
4.สะพานข้ามแยกบรมราชชนนีถนนบรมราชชนนีขาออก
5.สะพานข้ามแยกวงเวียนบางเขนถนนแจ้งวัฒนะขาเข้า
6.สะพานข้ามแยกราชเทวีถนนเพชรบุรีขาออก
7.แยกสามเหลี่ยมดินแดงถนนดินแดงขาเข้า
8.สะพานข้ามแยกประชานุกูลถนนรัชดาภิเษก ขาออก
9.สะพานศิริราชด้านถนนอรุณอัมรินทร์ถนนอรุณอัมรินทร์ขาออก
10.แยกรัชดา-ลาดพร้าวถนนลาดพร้าวขาออก
11.แยกรัชดา-ลาดพร้าวถนนลาดพร้าวขาเข้า 12.สะพานข้ามแยกวงศ์สว่างถนนรัชดาภิเษกขาออก
13.สะพานข้ามแยกพระราม4ถนนรัชดาภิเษกขาออก
14.สะพานพระพุทธยอดฟ้าถนนประชาธิปกขาเข้า
15.สะพานข้ามแยกกำนันแม้นถนนกัลปพฤกษ์ขาออก
ซึ่งจุดที่มีการติดตั้งกล้องนั้น แต่ละจุด จะมีป้ายแจ้งเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรับรู้ ในระยะ 100 เมตร, 50 เมตร และ 30 เมตร ก่อนถึงจุดตรวจจับและแต่ละจุดจะมีกล้อง 4 ตัว ทำงานอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง มีความคมชัดและละเอียดสูง 2 ล้านเมกกะพิกเซลล์ สามารถตรวจจับได้ทั้งกลางวัน กลางคืน และทุกสภาพอากาศ สามารถบันทึกข้อมูลเก็บไว้ได้ไม่น้อยกว่า 1 ปี ระบบจะดำเนินการตรวจจับ เมื่อพบการกระทำความผิด กล้องจะทำการบันทึกข้อมูลทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านระบบ ATS และส่งภาพข้อมูลไปยังศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของทะเบียนรถ, ยี่ห้อ, รุ่น และสีของรถ หากตรงกันก็จะดำเนินการ ออกใบสั่งและส่งไปยังระบบ PTM ของธนาคารกรุงไทยเพื่อได้บาร์โค้ดกลับมา จากนั้นจะยืนยันความถูกต้อง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการออกใบสั่ง ส่งไปยังผู้ครอบครองหรือเจ้าของรถ ภายใน 7 วัน
ซึ่งผู้ที่ถูกออกใบสั่งสามารถตรวจสอบความผิดย้อนหลังผ่าน http://www.trafficpolice.go.th ด้วยรหัสผ่านที่ระบุท้ายใบสั่งได้ และสามารถชำระค่าปรับผ่านเคาน์เตอร์และตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ หรือผ่านบริการ KTB netBank หรือสถานที่ที่ระบุไว้ในใบสั่ง โดยการกระทำดังกล่าว จะมีความผิด ข้อหาฝ่าฝืนเครื่องหมายบนพื้นที่ ตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 21 ประกอบมาตรา 152 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
แต่เนื่องจากในช่วงนี้ บก.จร. จะทำการเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 500 บาท โดยสามารถชำระค่าปรับผ่านเคาน์เตอร์และตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ หรือผ่านบริการ KTB netBank หรือสถานที่ที่ระบุไว้ในใบสั่ง บก.จร. จะดำเนินการตรวจจับรถฝ่าฝืนฯ ตั้งแต่วันพุธที่ 9 พ.ค.61 เป็นต้นไป