ทีมพร้อม!! สธ.สั่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อมรับดูแลสุขภาพ 13 ชีวิต

ทีมแพทย์ - พยาบาลพร้อมรับ - ดูแลสุขภาพ 13 ชีวิต

อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.อำนาจ กุสลานันท์ อุปนายกแพทยสภา คนที่หนึ่ง จากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ให้สัมภาษณ์สปริงนิวส์ ออนไลน์ว่า การช่วยเหลือเยาวชน 13 คนออกมาได้ สิ่งแรกที่ต้องดูแล คือนำไปตรวจสุขภาพร่างกายทุกระบบ ทั้งหัวใจ ระบบหายใจ ทางเดินอาหารและสมอง ทั้งนี้ การอดอาหารของเด็กวัยนี้ คงไม่มีผลกระทบรุนแรง แต่ต้องระวังเรื่องน้ำดื่ม ซึ่งน้ำในถ้ำแม้ไหลมาตามธรรมชาติ อาจไม่สะอาดมีเชื้อโรค ต้องตรวจร่างกายว่าได้รับโรคติดเชื้อจากน้ำดื่ม เช่น แบคทีเรีย พยาธิหรือไม่ ส่วนความเสี่ยงที่ต้องแช่อยู่ในน้ำ ต้องดูว่าติดเชื้อรา หรือโอกาสเป็นปอดบวม ผิดปกติหรือไม่เช่นกัน

"เด็กโชคดีกว่าผู้ใหญ่ เพราะร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดี สามารถอดทน ทดแทนและปรับตัวได้ดี สามารถฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายได้ จึงหวังว่าจะไม่มีใครเจ็บป่วยรุนแรง ส่วนสภาพอากาศชื้น เย็นในถ้ำที่มีออกซิเจนน้อย ยังไม่น่าห่วงมาก และด้านจิตใจ จิตแพทย์ด้านวัยรุ่นสามารถเยียวยาช่วยเหลือได้ อย่างไรก็ตาม หมอว่าเด็กๆ คงมีกำลังใจดี เพราะติดอยู่ภายในเป็นกลุ่ม คงให้กำลังใจกันและกัน" นพ.อำนาจ กล่าว

ด้านนายสง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการด้านโภชนาการ ในฐานะที่ปรึกษากรมอนามัย กล่าวว่า กรณีเด็ก 12 คนและโค้ชที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง โดยอดอาหาร แต่คงไม่ได้อดน้ำ ทั้งนี้ ร่างกายคนเราสามารถดึงเอาไขมันที่สะสมในร่างกายมาใช้เป็นพลังงานทดแทน เพียงแต่จะมีใช้ได้ไม่มาก ผลระยะสั้นกับเด็ก คงอ่อนแอไม่มีแรง แต่สามารถฟื้นตัวได้เร็วหากดูแลให้ถูกหลักโภชนาการ โดยเริ่มจากอาหารอ่อนๆ หรือเครื่องดื่มประเภทน้ำหวานที่จะให้พลังงาน รอให้ร่างกายปรับตัวได้ตามปกติ ประมาณ 1 สัปดาห์ขึ้นกับร่างกายแต่ละขึ้น และคำแนะนำจากแพทย์ด้วย