ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ที่บริเวณอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จันทบุรี งานเฉลิมฉลอง เทศกาลคริสต์มาสชุมชนชาวคริสต์ “SWEET CHRISTMAS@ CHANTHABURI MIRACLE CHRISTMAS 2018” งานคริสต์มาสที่น่ารักที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นงานประเพณีเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสประจำปีของชุมชนชาวคริสต์ เชื้อสายเวียดนามที่อยู่อาศัยใน จ.จันทบุรี มานานกว่า 300 ปี และจัดติดต่อมาเป็นปีที่ 6 ที่ไฮไลท์ของงานอยู่ที่การแสดง แมทติ้งโปรเจคชั่นแสงสีฉาบอาคารอาสนวิหารฯ ที่ปีนี้มีฉาก แสงสี ที่แตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีการจุดพลุดอกไม้ไฟในเวลาเที่ยงคืน การประดับตกแต่งสถานที่ด้วยไฟประดับสวยงาม อุโมงค์ไฟ สะพานดาว การประดับถ้ำพระกุมาร ต้นคริสต์มาสปีนี้ประดับตกแต่งไฟแนววินเทอร์ ไวท์คริสต์มาส การจับสลากมอบของขวัญเทศกาลคริสต์มาส การแสดงของเยาวชนในชุมชนที่ถ่ายทอด ความรัก ความศรัทธา การแบ่งปันที่สื่อความหมายของเทศกาลคริสต์มาส เทศกาลแห่งความรัก และการแบ่งปัน ทั้งนี้การแสดงแสงสีฉาบอาคารอาสนวิหารฯ จะจัดขึ้นวันละ 2 รอบ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง วันที่ 24 ธันวาคม 2561
[gallery columns="1" size="full" ids="407772,407773,407774,407775"]
SWEET CHRISTMAS@ CHANTHABURI MIRACLE CHRISTMAS 2018 ในปีนี้ นับเป็นการจัดกิจกรรมเป็นปีที่ 6 ซึ่งปัจจุบันการจัดกิจกรรมไม่ได้เป็นเพียงงานภายในชุมชนอีกต่อไป โดยพบว่ามีชาวคริสต์และนักท่องเที่ยวเดินทางมามากขึ้น จนกลายเป็นงานระดับจังหวัด และติดตลาดระดับประเทศ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนรอคอยเทศกาลคริสต์มาส โดยเฉพาะในปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหล เข้ามาเที่ยวชมงานเพิ่มขึ้นกว่าเดิม โดยคณะกรรมการจัดงานได้เตรียมพื้นที่จอดรถบริเวณด้านนอก แล้วมีรถบริการสาธารณะนำคนเข้าร่วมงานที่บริเวณอาสนวิหาร ธีมการจัดงานปีนี้เน้น การส่งต่อความสุข ขบวนพาเหรดฉลองเทศกาลคริสต์มาส การเปิดบ้านแบ่งปันของชุมชนที่แสดงให้เห็นถึงการแบ่งปันน้ำใจให้กับผู้มาเยือน งานออกร้านอาหารชุมชนวิถีถิ่นจันทบูรเพิ่มพื้นที่ขายสินค้าชุมชนบริเวณหน้าตลาด 100 ปี และ ชุมชนท่าเรือจ้าง ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน 3 เชื้อชาติ และชาวคริสต์โดยรอบอาสนะวิหาร วัดคาทอลิกจันทบุรีเพิ่มขึ้น
ที่ชุมชนบ้านซ่งแย้ ตำบลคำเตย อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร งานแห่ดาวของชุมชนชาวคริสต์ในเทศกาลวันคริสต์ มาส ประจำปี 2018 โดยโบสถ์อัครเทวดามีคาแอล ร่วมกับชุมชนชาวซ่งแย้ได้ร่วมกันจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ของการจัดงานแห่ดาวโดยมี ขบวนดาวขนาดใหญ่ ที่ประดับด้วยแสงไฟหลากสีสัน จำนวน 12 ดวง จากคริสต์ศาสนิกชน 12 ชุมชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดยโสธร ได้นำดาวขนาดใหญ่ร่วมขบวนแห่ไปตามถนนวารี ราชเดชและถนนภายในชุมชนซ่งแย้ ก่อนที่จะไปสิ้นสุดที่บริเวณโบสถ์ อัครเทวดามีคาแอล ซ่งแย้ พร้อมตกแต่งตามเรื่องราวต่าง ๆ ของพระเยซูตั้งแต่ประสูติ
[gallery columns="1" size="full" ids="407778,407779,407780"]
นอกจากนี้ภายในงานยังเปิดโอกาสในทุกคนทุกศาสนาสามารถเข้าร่วมงานได้อย่างสนุกสนาน พร้อมร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์ มาสได้และในปีนี้ภายในงานได้มี การทำอุโมงค์ดาวขนาดใหญ่ ที่มีการประดับดาวและแสงไฟหลากสี เอาไว้ให้ประชาชนได้เข้าไปชมและเป็นจุดถ่ายรูป ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าไปถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก โดยนอกจากจะมีขบวนแห่ดาวขนาดใหญ่แล้วชาวชุมชนยังได้ ร่วมกันประดับดาวขนาดเล็กอีกจำนวนกว่า 20,000ดวง ตามแนวถนนภายในชุมชนและตามบ้านเรือนของตนเพื่อเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า
โบสถ์อัครเทวดามีคาแอลบ้านซ่งแย้ เป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก่อสร้างด้วยไม้ทั้งหลังใช้เสาไม้ขนาดใหญ่กว่า 227 ต้น และใช้ไม้แป้นมุงหลังคากว่า 1,000 แผ่น มีอายุกว่า 100 ปี ตัวโบสถ์รูปทรงที่สร้างขึ้นมีลั กษณะแบบศิลปะไทย กว้าง 16 เมตร ยาว 57เมตร
ที่บริเวณอัครสถานเทวดาคามี แอลท่าแร่ เทศบาลตำบลท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ชาวคริสต์ ในเขตเทศบาลตำบลท่าแร่ และชาวตำบลท่าแร่นับพันคน ได้นำรถยนต์ประดับตกแต่งเป็นรูปดวงดาวขนาดใหญ่ ซึ่งประดับไฟอย่างสวยงาม ที่ชาวคุ้มต่างๆ ในท่าแร่ สร้างสรรค์ขึ้นมา เข้ามาร่วมกันแห่ดาวไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลท่าแร่ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในเทศกาลวันคริสต์มาส ที่จะมีมาถึง ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ โดยดาวที่นำมาแห่ดังกล่าว เพื่อรำลึกถึงการถือกำเนิดของพระเยซูเจ้า ศาสดาของศาสนาคริสต์ ตามความเชื่อของชาวคาทอลิก จากนั้นก็นำไปหน้าโบสถ์อัครเทวดามิคาแอล โดยมีนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนหลั่งไหลเข้ ามาชมความตระการตาของขบวนแห่ ดาวแห่งเดียวในไทย
[gallery columns="1" size="full" ids="407783,407784,407785,407786"]
โดยในวันนี้เป็นการแห่ดาวที่ประดับบนรถยนต์ และแห่ดาวมือถือ แล้วเข้าสู่พิธีทางศาสนา (มิสซา) ซึ่งเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ภายในวิหาร โดยมีประมุขของมิสซังท่าแร่ หนองแสงเป็นประธาน ส่วนบริเวณในเขตเทศบาลท่าแร่ ประชาชนส่วนใหญ่ ก็มีการตกแต่งบ้านเรือนด้วยดาวอีกด้วย ทำให้ในถนนเต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับน่าดู สำหรับขบวนแห่ดาวได้วิ่งไปตามถนนภายในชุมชนต่างๆ ซึ่งมีระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งหลังจากที่ได้แห่ไปตามถนนที่ ประดับตกแต่งด้วยดาวและแสงไฟระยิบระยับแล้ว ผู้มาร่วมงานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ก็ต่างพากันออกมารอรับขนม ลูกอมจากซานตาครอส ซึ่งมีความความเชื่อที่ว่า เป็นการแสดงถึงความรักแบ่งปันซึ่งกันและกัน แสดงความยินดีแก่วันประสูติ พระเยซูเจ้า ให้โลกสงบสุข
ตามตำนานที่เล่าว่า ในช่วงเวลาที่พระเยซูประสูตินั้น โหราจารย์ได้มองเห็นดาวลักษณะพิเศษดวงหนึ่งที่มีความสุกสว่างกว่าดาวทั่วไป ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเป็นที่น่าอัศจรรย์ จึงออกเดินทางตามแสงแห่งดวงดาว จนไปพบกับสถานที่ประสูติ ของพระเยซูเจ้าที่เมืองเบธเลเฮม ประเทศปาเลสไตน์ นับแต่นั้นมาชาวคริสต์จึงถือว่ า "ดาว" คือสัญลักษณ์ของการเสด็จลงมาประสูติบนโลกมนุษย์ ของพระเยซูเจ้า จึงมีการริเริ่มประเพณีแห่ดาวในเทศกาลคริสต์มาสเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์นั้น การแห่ดาวจึงเป็นการแสดงถึงความเชื่อความศรัทธา การส่งมอบความสุขความรื่นเริง ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชนในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เป็นเทศกาลแห่งสีสันความสุขและรอยยิ้ม