svasdssvasds

จนท.ยัน ยังไม่พบผู้สูญหายศาลาริมน้ำแม่กลองถล่ม-เตรียมปรับแผนยกซาก

จนท.ยัน ยังไม่พบผู้สูญหายศาลาริมน้ำแม่กลองถล่ม-เตรียมปรับแผนยกซาก

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยังค้นหาร่างของผู้สูญหาย จากกรณีศาลาเรือนไทยริมน้ำแม่น้ำแม่กลองพังถล่ม ที่จ.สมุทรสงคราม โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 29 ชั่วโมงในการค้นหา น.ส.พรพิไล เสือเล็ก อายุ 24 ปี ซึ่งรายงานล่าสุดเจ้าหน้าที่ประดาน้ำเปิดเผยว่ายังไม่พบร่างของนางสาวพรพิไล แต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้รถเครนขนาด 20 ตัน ยกเศษวัสดุต่างๆ ออกมาอย่างระมัดระวัง และพยายามยกโครงสร้างหลังคาขึ้นมา แต่ด้วยโครงสร้างหลังคาที่หนักเกือบ 20 ตัน ทำให้เครนยกไม่ขึ้นเกือบโค่น จึงต้องปรับการทำงานใหม่ โดยจะต้องรื้อแนวสายไฟฟ้าออกให้หมด และปรับรถเครนใหม่ เพื่อให้มีกำลังในการยกให้มากขึ้น

จนท.ยัน ยังไม่พบผู้สูญหายศาลาริมน้ำแม่กลองถล่ม-เตรียมปรับแผนยกซาก

ด้าน นายประจิตต สุขวัฒนะ นายกสมาคมสว่างมงคลศรัทธาเพชรบูรณ์ กล่าวว่า กรณีกระแสข่าวที่พบร่างผู้สูญหายแล้วไม่เป็นความจริง เนื่องจากมีนักประดาน้ำที่เพิ่งมาลงเมื่อเช้าไปสัมผัสบางอย่าง แล้วก็ขึ้นมาบอกว่าน่าจะพบร่างผู้สูญหายแล้ว ทำให้กระแสข่าวกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามจากการปูพรมของนักประดาน้ำ 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นจุดที่ยาก

ส่วนกรณีที่เครนยกน้ำหนักไม่ไหวมีการปรับแผนโดยการสำรวจโครงสร้างเหมือนเดิม และเอ็กซเรย์ 30 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ซึ่งเป็นจุดผู้สูญหายนั่งอยู่ และคาดว่าจะอยู่บริเวณนี้ จะเอาสิ่งของภายในเช่นตู้ โต๊ะ ที่วางของ หลังคา ระแนง เสาต่างๆ ออกให้หมด เพื่อลดน้ำหนักโครงสร้างลง เพื่อจะให้รถเครนยกขึ้นอีกครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนเรือเครนขนาด 50 ตัน จากแม่กลองคอนกรีตมาช่วย ซึ่งจะพยายามค้นหาผู้สูญหายให้เร็วที่สุด

จนท.ยัน ยังไม่พบผู้สูญหายศาลาริมน้ำแม่กลองถล่ม-เตรียมปรับแผนยกซาก

ขณะที่ รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ ที่ปรึกษาคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมาตรวจสอบโครงสร้างอาคารเรือนไทยอีก 1 หลังที่อยู่ติดกัน พร้อมให้คำแนะนำว่าให้รื้อถอนอาคารเรือนไทยที่เหลือออก เพราะโครงสร้างถูกกัดเซาะ เหล็กในปูนถูกความเค็มของน้ำทะเลกัดกร่อนไปมาก จะอาจจะไม่สามารถรับน้ำหนักได้ จะอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นได้ ซึ่งกรณีนี้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสงครามได้ประกาศให้พื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือข้ามฟากแสงวณิช อาคารศาลาริมน้ำตลอดแนว จนถึงบริเวณวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ด้านซอยวัดเพชรสมุทร 2 เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย และห้ามบุคคลหรือหน่วยงานผู้ประกอบการร้านค้าเข้าไปใช้ประโยชน์โดยเด็ดขาด จนกว่าหน่วยงานผู้มีอำนาจหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบและรับรองความปลอดภัย หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

related