ราชทัณฑ์ แจงขั้นตอนยื้อชีวิต "บุ้ง ทะลุวัง" จ่อส่งประวัติการรักษาทนาย-ญาติ

19 May 2024

กรมราชทัณฑ์ แจงแล้ว ขั้นตอนช่วยชีวิต บุ้ง ทะลุวัง ใส่ท่อช่วยหายใจ-นวดหัวใจ-ให้ยากระตุ้น ยัน ทำตามมาตรฐาน พร้อมให้ประวัติการรักษาญาติ-ทนายความ หลัง ทนายด่าง เผย ใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่ง จากหลอดลมเป็นหลอดอาหาร ออกซิเจนไม่เข้าปอด

SHORT CUT

"ทนายด่าง" เผยข้อมูลใหม่ "บุ้ง ทะลุวัง" พบ รพ.ราชทัณฑ์ ใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่ง จากหลอดลมเป็นหลอดอาหาร ออกซิเจนไม่เข้าปอด
ราชทัณฑ์ แจงขั้นตอนช่วยชีวิต บุ้ง ทะลุวัง ใส่ท่อช่วยหายใจ-นวดหัวใจ-ให้ยากระตุ้น
ราชทัณฑ์ ยันการช่วยชีวิตผู้ป่วยทำมาตรฐานถูกต้องทุกประการ ตลอดจนกระบวนการการรักษาที่เป็นไปตามหลักวิชาชีพ

กรมราชทัณฑ์ แจงแล้ว ขั้นตอนช่วยชีวิต บุ้ง ทะลุวัง ใส่ท่อช่วยหายใจ-นวดหัวใจ-ให้ยากระตุ้น ยัน ทำตามมาตรฐาน พร้อมให้ประวัติการรักษาญาติ-ทนายความ หลัง ทนายด่าง เผย ใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่ง จากหลอดลมเป็นหลอดอาหาร ออกซิเจนไม่เข้าปอด

จากกรณีการเสียชีวิตของ บุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องหาคดีทางการเมือง จากการอดอาหารประท้วง หลังถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา กระทั่งมีอาการวิกฤตหัวใจหยุดเต้น จึงต้องส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี โดยแพทย์ได้ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต (CPR) แต่ไม่เป็นผลก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อเวลา 11.22 น. วันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา

วานนี้ (18 พ.ค. 67) ที่วัดสุทธาโภชน์ ทนายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้แถลงข้อเท็จจริงกรณี นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ "บุ้ง ทะลุวัง" เสียชีวิตก่อนถึงมือแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

โดย ทนายด่าง กล่าวว่า หลังการเสียชีวิตของ บุ้ง ญาติไม่ได้รับรายงานการรักษา แต่เท่าที่ดูอาการของบุ้ง 5 วันย้อนหลัง พอบ่งชี้ได้ถึงมาตรฐานการรักษาพยาบาล รวมทั้งได้ขอภาพเคลื่อนไหวกล้องวงจรปิด ซึ่ง รมว.ฯ และอธิบดีฯ ยืนยันว่ามี และได้ตรวจสอบภาพแล้ว ก่อนนำไปแถลงให้สื่อมวลชนรับทราบ แต่กลับไม่ได้มอบให้กับทนายความ โดยอ้างกฎกระทรวงฯ แม้พี่สาวของบุ้งจะมอบให้ทนายความไปขอวงจรปิด ก็ไม่สามารถทำได้ ต้องให้คุณพ่อหรือคุณแม่ไปรับเอง ซึ่งเรื่องนี้ย้อนแย้งกับการนำข้อมูลภาพวงจรปิดไปแถลงให้สื่อฟังหลายครั้งโดยไม่ได้ขออนุญาตครอบครัวผู้ตายด้วยซ้ำ

ทนายด่าง เผย รพ.ราชทัณฑ์ ใส่ท่อช่วยหายใจผิดตําแหน่ง

ทนายด่าง เผยต่ออีกว่า ประเด็นหลักคือรายงานการรักษาจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ที่ส่งมาให้ ระบุว่าบุ้งมาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ เวลา 09.30 น. ซึ่งไม่หายใจและไม่มีสัญญาณชีพ วัดค่าลมหายใจเป็นศูนย์ และที่สําคัญมีการตรวจพบว่า การรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อนมาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯนั้น มีการทําที่ผิดพลาด คือ 'ใส่ท่อช่วยหายใจผิดตําแหน่ง' โดยใส่ไปในหลอดอาหารแทนที่จะใส่ในหลอดลมเพื่อนําออกซิเจนเข้าไปช่วยในการหายใจ ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ยืนยันว่านี่คือหนึ่งในสาเหตุใหญ่ที่ทําให้บุ้งเสียชีวิต

และยังมีเรื่องที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือ แพทย์พบสารบางอย่างซึ่งตนยังไม่ขอเปิดเผยตอนนี้ ต้องรอผลวิเคราะห์แยกแยะอย่างเอียดก่อน และเพราะเหตุนี้หรือไม่ทางราชทัณฑ์จึงไม่ยอมส่งรายการการรักษาของบุ้งให้สักที ซึ่งตนไม่อยากบอกว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ห่วย แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทําให้เกิดข้อกังขาหลายอย่างและถือเป็นเรื่องที่ใหญ่ เพราะบุ้งเสียชีวิตภายใต้การควบคุมของราชทัณฑ์ ส่วนใครจะเป็นผู้รับผิดชอบนั้นตนไม่ทราบ นอกจากนี้แพทย์ตรวจพบว่ามีค่าบางอย่างที่พุ่งสูงผิดปกติ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอให้แพทย์ตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะตนไม่ต้องการใส่ร้ายใคร แต่อยากบอกว่าเป็นสิ่งที่น่าตกใจว่า ทํากันถึงขนาดนี้เลยหรือ

ทนายด่าง ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่า อย่าหลอกลวงให้ "ตะวัน" เซ็นเอกสารใดๆ หรือให้การใดๆ เพราะเด็กยังอยู่ในอาการเสียใจและอาการอ่อนแรงเป็นอย่างมาก และที่สําคัญตะวันถือเป็นพยาน ดังนั้นอยากให้ครอบครัวและเพื่อนช่วยกันดูแลความปลอดภัยให้ดี เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับตะวันหรือไม่ แต่เชื่อว่าตอนนี้อยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ปลอดภัยแน่นอน

ล่าสุดวันนี้ (19 พ.ค. 67) กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า ตามที่ ทนายฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกล่าวพาดพิงถึงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทำการรักษาและการช่วยชีวิต น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง อย่างผิดวิธีจึงอาจเป็นสาเหตุทำให้ น.ส.เนติพรเสียชีวิตนั้น

ราชทัณฑ์ แจง กระบวนการรักษา-การช่วยชีวิต บุ้ง ทะลุวัง

จากกรณีดังกล่าว กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ชี้แจงกระบวนการรักษา และการช่วยชีวิต น.สงเนติพร เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2567 ว่าทีมบุคลากรทางการแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ช่วยชีวิต น.ส.เนติพร ในภาวะวิกฤตตามมาตรฐานการรักษาพยาบาล โดยมีแพทย์ดำเนินการใส่ท่อช่วยหายใจ ได้นวดหัวใจ

พร้อมให้ยากระตุ้นหัวใจ ยากระตุ้นความดันโลหิตตามมาตรฐานการช่วยชีวิตขั้นสูง และทีมบุคลากรทางการแพทย์ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลา จนส่งตัวผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยังคงให้การดูแลรักษาผู้ต้องขังทุกรายตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วย ล้วนแล้วแต่ได้มาตรฐานถูกต้องทุกประการ ตลอดจนกระบวนการการรักษาที่เป็นไปตามหลักวิชาชีพ

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ขอให้ติดตามข้อมูลทางการแพทย์ และผลการชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมเกียรติ เพื่อเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ต่อไป สำหรับประวัติการรักษาพยาบาลของน.ส.เนติพร ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้เตรียมพร้อมให้ญาติหรือทนายความที่ได้รับมอบอำนาจมารับเอกสารในวันเปิดทำการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง