ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันนี้ (12 ก.ย. 62) นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดบ้านพระอาทิตย์พบกับประชาชนที่มาให้กำลังใจ หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ พ้นจากเรือนจำ หลังถูกจำคุกอยู่นานเกือบ 3 ปี โดย เล่าเรื่องราวในเรือนจำ ปัญหาต่างๆ เช่นการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมถึงชื่นชมอธิบดีกรมราชทัณฑ์คนปัจจุบัน ทั้งยังแนะนำให้ข้าราชการกรมราชทัณฑ์มองนักโทษให้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
นายสนธิ ชี้แจงว่า การปล่อยตัวตนเป็นไปตามกติกา ไม่มีอะไรพิเศษ เข้าเงื่อนไขการอภัยโทษเพราะอายุเกิน 70 ปี และมีการปรับแก้การลดโทษ นับเป็นความโชคดี ตนนั่งเฉยๆ และออกจากเรือนจำตามกติกา พร้อมยังกล่าวถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ว่าเรือนจำไม่ได้น่ากลัว
ส่วนเรื่องการเมืองนั้น ก็ไม่เคยเปลี่ยน กรณีถวายสัตย์ที่เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ก็ต้องถามว่า ไม่มีอะไรทำกันแล้วหรือ เรื่องใหญ่ของบ้านเมืองทำไมไม่ทำกัน ตนคิดว่าระบอบประชาธิปไตยในบ้านเราเป็นเพียงลมปาก ประชาธิปไตยก็มีระบบเผด็จการรัฐสภาได้ ตนไม่ได้ปลื้มรัฐประหาร แต่ก็ต้องยอมรับ และหวังว่าจะมีการปกครองที่ดี ซึ่งจะดีจะชั่ว พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯแล้ว หวังว่าท่านจะทำงานให้ดี เอาประเทศเป็นตัวตั้ง ไม่เล่นพวกเล่นพ้อง ถ้าหวังแบบนี้ ประเทศจะมีอนาคต ตนไม่ต้องการให้คนทะเลาะกัน ความคิดเห็นต่างกัน ก็ต้องยอมรับ
นายสนธิกล่าวต่อว่า ตนเพียงหวังว่าการเมืองจะพัฒนาไปในรูปแบบที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เราเกลียดใคร เราก็ไม่ชอบรักใครก็เชิดชูบูชา ผมคิดว่าเราควรมองทุกอย่างตามความจริง สิ่งที่ผมเรียนรู้จากในคุกคือ ปัญหาของคนไทยจริงๆ เจอได้ในคุก คนจนก็จนจริงๆ หมายคนติดคุกเพราะจนจริงๆ ที่บอกว่า คนรวยไม่ติดคุก นั้น จริง 70% ไม่จริง 30% การติดคุกไม่น่ากลัวถ้าทำใจได้ อาหารในคุกก็พอกินได้
“ใครที่คิดว่าผมต้องออกถนนอีก ไม่ต้องแล้ว ผมไม่ออกแล้ว เห็นใจเถอะผม 72 แล้วปีนี้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสถานะตอนนี้เป็นอย่างไร นายสนธิกล่าวต่อว่า “ตอนนี้ไม่ได้พักโทษ แต่พ้นโทษแล้ว คดีความเหลือเพียงคดีเดียว คือปิดสนามบิน คดีอื่นๆไม่มีอะไรเหลือเลย ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมือง คงเป็นเรื่องการให้ความรู้มากกว่า การอออกถนนไม่มีแล้ว และผมเห็นว่าไม่จำเป็นแล้ว ชีวิตผมผ่านความขมขื่นมามาก เคยโดนยิง 200 นัด เศษกระสุนยังอยู่ที่หัว” นายสนธิ กล่าว