"ศูนย์อำนวยการภัยพิบัติ พปชร." เปิดช่องทาง ปชช.แจ้งขอความช่วยเหลือ ประสานรัฐบาลช่วยเหลือทั่วถึง ย้ำทุกกระทรวงจริงจังแก้ปัญหา เร่งจัดมาตรการเยียวยา
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (19 ก.ย.62) น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. และ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวเปิดศูนย์อำนวยการภัยพิบัติ พรรคพลังประชารัฐ
โดย "น.ส.วทันยา" กล่าวว่า จากการที่พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดตั้งแต่เกิดพายุลูกแรกอย่างโพดุล ได้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะภัยธรรมชาติทุกรูปแบบ จึงคิดว่าควรจะจัดตั้งศูนย์อำนวยการภัยพิบัติและทีมทำงานขึ้นมา เพื่อให้เวลาเกิดภัยพิบัติต่างๆ พรรคพลังประชารัฐ จะสามารถเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มความสามารถและทันท่วงที ที่สำคัญยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่พี่น้องประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยพิบัติ สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือเข้ามา ทางศูนย์จะทำหน้าที่ประสานงานรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐ ในการเข้าช่วยเหลืออย่างทั่วถึง เพราะพรรคมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เชื่อมโยงกับประชาชนทั่วทั้งประเทศ
นอกจากนี้จะเป็นศูนย์สนับสนุนข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ตั้งแต่การเตือนภัยล่วงหน้า การให้ข้อมูลที่ถูกต้องถึงสถานการณ์เร่งด่วน และรายละเอียดในการดูแลเยียวยาพี่น้องประชาชน และกรณีเร่งด่วน ก็จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมสิ่งของบริจาคจากภาคประชาชนไปยังผู้ประสบภัยด้วย โดยพี่น้องประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรศัพท์เข้ามาแจ้งได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 065-929-8868 , 065-929-8869 สายด่วน 1350 หรือจะส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊ก พรรคพลังประชารัฐ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งนี้ในวันเสาร์ที่ 21 ก.ย.นี้ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ จะเดินทางลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อให้กำลังใจ มอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นและเปิดโรงครัว ช่วยพี่น้องผู้ประสบภัยด้วย
"น.ส.วทันยา" ระบุด้วยว่า ตั้งแต่เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย จัดที่พักพิง ดูแลเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค รวมไปถึงมอบถุงยังชีพ เห็นได้จากตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและ ส.ส.ของพรรค ลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อวันที่ 9 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี และบ่ายวันนี้ (19 ก.ย.) ก็ลงพื้นที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี อีกครั้ง
ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ก็ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ที่ จ.มหาสารคาม , ขอนแก่น , ร้อยเอ็ด , ยโสธร , อำนาจเจริญ , อุบลราชธานี , พิจิตร และ พิษณุโลก ส่วนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน พร้อมคณะลงพื้นที่น้ำท่วม จ.ร้อยเอ็ด เช่นเดียวกับตนเองและ ส.ส.ที่อยู่ตรงนี้ ก็ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น และพิจิตร เพื่อมอบสิ่งของช่วยเหลือ ให้กำลังใจ รวมทั้งร่วมบิ๊กคลีนนิ่งพื้นที่น้ำลด นอกจากนี้ยังเป็นตัวกลางรับของบริจาคเพื่อส่งต่อไปยังพื้นที่ประสบภัยด้วย
สำหรับมาตรการเยียวยานั้น ล่าสุดหลายกระทรวงก็เริ่มออกมาบ้างแล้ว ขณะที่บางมาตรการต้องรอสำรวจความเสียหาย อย่างกระทรวงการคลังออกมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยและอนุมัติเงินกู้ฉุกเฉิน รวมถึงขยายเวลาผ่อนชำระเบี้ยประกันภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตครอบครัวละ 50,000 บาท , บ้านเสียหายทั้งหลัง 200,000 บาท , เสียหายบางส่วนชดเชยตามจริงตั้งแต่ 15,000-70,000 บาท ขณะที่กระทรวงเกษตรฯ เยียวยาตามจำนวนพื้นที่จริงที่ได้รับความเสียหาย รายละไม่เกิน 30 ไร่ ให้นาข้าวได้รับอัตราไร่ละ 1,113 บาท , พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่นๆ อัตราไร่ละ 1,690 บาท และกระทรวงพลังงาน โดย ปตท.เปิดพื้นที่ให้นำสินค้ามาขายฟรี ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม ก็ออก 7 มาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น ดังนั้นจึงขอยืนยันว่า รัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ตั้งใจและจริงจังในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน