ประวัติวันฮาโลวีน 31 ต.ค. 62 ตำนานผีฟักทอง แจ็ค-โอ-แลนเทิร์น

ประวัติวันฮาโลวีน 31 ต.ค. 62 (Halloween Day) ตำนานผีฟักทอง แจ็ค-โอ-แลนเทิร์น และที่มาการเล่น Trick or Treat แนวทางการขอขนมหวานแสนอลเวง มอบบรรยากาศสุดแสนพิเศษ ชวนหลอนนิดๆ เรียนรู้ประเพณี วัฒนธรรมแสนพิเศาของชาติตะวันตก ส่วนลด Lazada 10.10 | สูงสุด 90% | ตุลาคม 2020 | คลิกเลย!

31 ต.ค. 2562 ความเป็นมาของ วันฮาโลวีน ถูกเล่าผ่าน "ชาวเซลท์ (CELT)" ชนพื้นเมืองโบราณในไอร์แลนด์ ที่เชื่อว่าวันที่ 31 ตุลาคม ของทกปีคือวันของเทพเจ้าแห่งความตาย Samhain และประตูมิติวิญญาณจะเปิดออก และเชื่อมโยงโลกมนุษย์ พวกเขาต้องป้องกันทุกวิถีทางไม่ให้บรรดาผี หรือปีศาจเข้ามารบกวน หรือสิงสู่ การปิดไฟตามบ้านเรือน งดกิจกรรมต่างๆ รวมถึงแต่งกายเลียนแบบผีคือแนวทางการป้องกันในยุคสมัยนั้น 

สำหรับในศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิก ประวัติวันฮาโลวีน ที่คำว่า Halloween เพี้ยนมาจากคำว่า All Hallows (แปลว่านักบุญ) + Eves จะแปลว่า "วันสมโภชนักบุญทั้งหลาย" ซึ่งชาวคริสต์ได้เลื่อนพิธีกรรมทางศาสนาออกไปเพื่อรำลึก และถือเป็นแนวทางปฏิบัติก่อนงานรื่นเริงช่วงคริสต์มาสอีฟอีกด้วย

พบความหฤหรรษ์ของ "ผีฟักทอง" แจ็ค-โอ-แลนเทิร์น (Jack-o'-lantern) เรื่องเล่าคู่ ประวัติวันฮาโลวีน มาช้านาน กับนิทานเก่าแก่ของชาวไอริชที่พูดถึงกับ "Stingy Jack" หรือ แจ็คขี้ตืด หรือขี้เหนียว ชายหนุ่มขี้แกล้งที่ชาวบ้านเอือมระอา วีรกรรมของเขาลุกลามไปยันซาตาน ด้วยความเจ้าเล่ห์ที่หลอกเงินซาตานให้แปลงกายเป็นเหรียญเพื่อนำไปจ่ายค่าเหล้า และอีกครั้งที่ทำเอาซาตานลงจากต้นไม้ไม่ได้จนนำไปสู่คำขอของแจ๊คต่อซาตานที่ว่า "ห้ามนำดวงวิญญาณของเขาไปสู่ยมโลก

ทั้งนี้เมื่อแจ็คเสียชีวิตลงวิญญาณของเขาก็ต้องไร้ที่อาศัยเพราะจะไปสวรรค์บรรดาเทพก็ไม่เปิดประตูให้เข้า ครั้นจะไปนรกคำสัญญาเมื่อตอนที่แกล้งซาตานก็ปิดกั้นเขาไว้อีก สุดท้ายซาตานยังใจดีเปลวไฟดวงน้อยๆจากนรกให้แจ็คไว้ส่องนำทาง เขานำมันไปใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอร์นิป (Turnip) และเร่ร่อนไปในโลกมนุษย์จนเป็นที่มาของฉายา "Jack of the Lantern" และการตกแต่งฟักทองที่ด้านในมีดวงไฟเพื่อแสดงออกถึงบรรยากาศวันฮาโลวีน นั่นเอง