ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
จากเหตุการณ์กลุ่มก่อความไม่สงบใช้อาวุธสงครามนานาชนิดยิงถล่มป้อมชรบ. บ้านทางลุ่ม หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 5 ราย เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเพจเฟสบุ๊ก N a R a Peace ( น ร า สันติ ) โพสต์เล่าเหตุการณ์สลดในวันนั้นพร้อมทั้งอยากให้ทางการทหารตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับตัวคนร้ายมารับโทษโดยเร็วและบรรเทาสถานการณ์ทางภาคใต้อย่างจริงๆจังๆ โดยระบุข้อความว่า...
เปลว สีเงิน-คนปลายซอย
จาก “บางระจัน” ถึง “ลำพะยา”
November 6, 2019
#SAVE ลำพะยา
ขอเป็นคำแทนดอกไม้วางหน้าอก ๑๕ วีระอาจหาญ ชรบ. แห่งลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา
เพื่อสันติสุข เพื่อพี่น้องไทย และเพื่อประเทศไทย
เมื่อคืน ๕ พ.ย. ๖๒……..
๑๕ ชรบ. “สละชีวิต” เพื่อสิ่งนี้ !
ด้วยวีระอาจหาญ “เหล่าท่าน ณ ลำพะยา” ตรงนี้ อนุสรณ์สถานถึง “๑๕ ชรบ. ลำพะยา” จะเกิดก่ออยู่ในใจคนไทยตลอดไป-ตลอดกาล
ชรบ. ไม่ใช่กองกำลังที่จะไปสู้รบตบมือกับใคร
เป็นชาวบ้านธรรมดา มืดค่ำก็ออกมาช่วยกันดูแลพื้นที่ ให้ทุกคนในหมู่บ้านได้หลับนอนพอเป็นสุข
แต่เมื่อคืน ๕ พ.ย. ๖๒ ก็ดังข่าวตามที่ทราบกัน
ยากทำใจ… บอกตรง ๆ !
กับชาวบ้าน ทั้งไทยพุทธ-ไทยมุสลิมด้วยกันแท้ ๆ ไม่ใช่ศัตรูหมู่ร้ายจากที่ไหน
แต่กลุ่มก่อการร้าย ซึ่งก็คนในพื้นที่ด้วยกัน กระทำต่อกัน โหดเหี้ยม อำมะหิต ยิ่งกว่าในสงคราม
ผมพูดก็คงไม่เห็นภาพ ขออาศัยภาพ NationPhoto ของคุณ “จรูญ ทองนวล” ที่โพสต์เฟซเมื่อวาน จะเกิดภาพในม่านคิดท่านเอง
ภาพนั้น มีคำบรรยายไว้ ดังนี้…….
ข้าวยำเหนาะสะตอ มื้อสุดท้าย ชรบ. ยะลาก่อนถูกถล่มคาป้อม 15 ศพ สภาพบริเวณรอบ ๆ และภายในป้อมรักษาการณ์ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านตะวันออก ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา
ขณะพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจความเสียหาย หลังถูกกลุ่มก่อความไม่สงบใช้อาวุธสงครามนานาชนิดยิงถล่ม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เป็นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 5 ราย ยังคงเห็นรอยกระสุนไม่ต่ำกว่า 100 นัด ที่ยิงเข้าใส่จุดตรวจ และรอยเลือดกระจายไปทั่วบริเวณ
ขณะที่จานข้าวยังคงวางอยู่บนบังเกอร์ หลงเหลือข้าวยำและลูกสะตอเพียงไม่กี่เม็ด
นับเป็นอาหารมือสุดท้ายของพวกเขา…..
ก่อนถูกยิงถล่มเสียชีวิต ขณะเข้าเวรรักษาความปลอดภัยภายในชุมชน / 6 พ.ย. 62
กับอีกหนึ่งโพสต์ของผู้ใช้นามว่า “ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูของเราคือหัวใจ”
เขาโพสต์ไว้อย่างนี้………
#เหตุการณ์เมื่อคืน ทำผมยืนสั่น น้ำตานองไหลนิดหน่อย
ตั้งแต่อยู่กู้ภัยมา
ไม่เคยเห็นศพนอนตายเรียงรายต่อหน้ามากมายนับ 10 ศพ ที่เกิดจากการกระทำของคนร้าย
ครั้งแรก เมื่อได้รับแจ้งเหตุคนร้ายได้ลอบวางระเบิด และยิงถล่มป้อม ชรบ. ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนอนเลือดนองในป้อม
ก่อนผมและทีมงานเข้าช่วยเหลือ ต้องเจอเรือใบและเผายางกลางถนน เพื่อสกัดการเข้าช่วยเหลือ
ผมเป็นรถคันแรก ที่นำและเข้าในที่เกิดเหตุ ครั้งแรกที่เห็นทำให้ผมเกือบทำอะไรไม่ถูกมีคนเจ็บ คนตายนอนเรียงรายในป้อม ชรบ.
ต่อมา ได้นำคนเจ็บคนแรก พร้อมรถกู้ภัยในเขตเมืองจำนวนเกือบ 10 คัน ลำเลียงออกจากที่เกิดเหตุ
คนแรกเราไม่สามารถนำออกทางเดิมได้ จึงขอความช่วยเหลือให้กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ช่วยนำพาออกจากที่เกิดเหตุ
ขณะใช้ความเร็วเพื่อนำส่ง ร.พ. ทำให้ผมชนกับต้นไม้ต้นใหญ่ที่คนร้ายได้ตัดขวางทางเอาไว้ เพื่อสกัดกั้นการเข้าช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ผมได้ชนเข้าอย่างจัง
และรถกู้ภัยอีกหลายคัน ได้เหยียบตะปูเรือใบบริเวณล้อหน้าซ้าย ทำให้ต้องจอดรถในพื้นที่ เสี่ยงมาก ๆ
ต่อมา เห็นรถ อส. กำลังจะเข้าพื้นที่ ผมเลยโบกขอความช่วยเหลือเพื่อถ่ายคนเจ็บนำส่ง ร.พ.
และได้ประสานขอความช่วยเหลือรถยกบังเด่น เพื่อเปลี่ยนยางรถ
ต่อมา ได้ดำเนินการสำเร็จ จึงนำรถกลับไปเปลี่ยนเพื่อออกมาสนับสนุนรถบรรทุกศพ อุปกรณ์ส่องสว่าง เครื่องปั่นไฟ และน้ำดื่ม เพื่อเข้าสนับสนุนที่เกิดเหตุต่อ เพื่อรับร่างผู้เสียชีวิต ลำเลียงนำส่ง ร.พ. ยะลา
หลังจากนั้น ได้รับแจ้งว่ามีลูกระเบิดของคนร้ายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งผมและพวกได้วิ่งข้ามไป-ข้ามมา เมื่อรู้ว่าขนาดที่เราเข้าที่เกิดเหตุนั้น ยังมีวัตถุดังกล่าวตกอยู่
เหตุการณ์นี้ เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจมากที่สุดในชีวิตที่เคยทำงานมา
มีคนเจ็บและนอนตาย เรียงรายจากการกระทำจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกัน
ความรู้สึกตอนนั้น……
ใครที่ไม่ได้เห็น ไม่ได้เข้าสัมผัสในนั้นไม่รู้หรอก
และได้รับแจ้งเมื่อสักครู่ คนเจ็บที่ผมนำส่งก่อนโดนเรือใบนั้น ได้เสียชีวิตแล้วขณะกำลังผ่าตัด
สุดท้ายนี้ ต้องขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตด้วยครับ
ผมเข้าใจความรู้สึกของผู้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และได้รับบาดเจ็บ 4 ราย
เหตุเกิด พื้นที่ป้อม ชรบ. ม.5 บ.ตะวันออก (ทางลุ่ม) ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา
เอาละมังครับ……..
จาก ๒ โพสต์ในเฟซ อ่านแล้ว หลับตา… คงนำเราทุกคนเหมือนไปอยู่ในสถานการณ์นั้น
ไม่ต้องให้พูดกระมังว่า แล้วเราทั้งหลาย รู้สึกอย่างไร ต่อการกระทำของคนกลุ่มนี้ ?
กับรัฐบาล
กับกองทัพ
ก็ไม่ต้องให้บอกกระมังว่า ต้องทำอย่างไร กับคนกลุ่มนี้ ?
ด้วยทัศนคติตอบสนอง ทั้งจากประชาชน จากรัฐบาล และทั้่งจากทหาร ในเมื่อ “มีหัวใจ”
บางเรื่อง แม้คำเดียว ก็มากเกินจะพูดมิใช่หรือ ?
มันไม่ใช่เรื่อง “ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน” หรือการไล่ล่า ในความหมาย ใช้กำลังเข้าปราบ
แต่การที่มีกลุ่มคน ด้วยอาวุธสงครามร้ายแรง ยกมากึ่งกองกำลัง กราดปืน ฆ่าชาวบ้าน ฝังระเบิด ทั้งไม่รู้จัก ทั้งไม่มีเหตุใด ๆ เป็นกรณีปฏิปักษ์ต่อกัน
มันเป็นอาชญากรรมร้ายแรง เป็นภัยคุกคามประชาชน ทั้งเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
จำเป็นอย่างยิ่ง………..
ย้ำว่า “อย่างยิ่ง” ที่ทางการ จะต้อง “ทำทุกทาง” ให้ทันท่วงที ติดตามคนร้ายกลุ่มนี้ นำตัวมาเข้าสู่กระบวนการกฎหมายให้ได้
ถ้าทางการบอกว่า “มันมีอาวุธร้ายแรง มันมีขบวนการ มัน ต่อสู้แน่”
ก็จะบอกว่า…….
ตำรวจ-ทหาร ถ้าสู้ไม่ได้ ก็ให้มันยิงให้ตายไปเถอะ !
ถ้าไม่ตาย มันสู้... ขัดขืน
ก็ต้องให้ “ความตาย” กับพวกมัน !
ตายก็ต้องเอาศพมาดู มาให้ประชาชนดูหน้า ว่ามันเป็นใคร พวกไหน อยู่หมู่บ้านไหน ?
ที่มันเลวยิ่งกว่าสัตว์ ลอบกัด ลอบฆ่ากระทั่งชาวบ้านทั้งไทยมุสลิม ไทยพุทธ ด้วยกัน
น่าจะตัดหัวเสียบประจานไว้ที่ลำพะยาซัก ๗ วัน เพื่อให้คนมาดูหน้า ว่าไอ้หน้าอย่างนี้ ที่มันลอบกัด-ลอบฆ่า ชรบ. ลำพะยา คนบ้าน ๆ ด้วยกันแท้ ๆ
เหตุเกิดครั้งนี้ ไม่โทษว่าทางการทหาร-ตำรวจล้มเหลวครั้งที่ ๑๐๑
๑๕ ศพ ทุกคนเจ็บลึก เท่ากันทุกคน
และทุกคน ไม่ว่า ตำรวจ-ทหาร-ประชาชน มีคำถาม-คำตอบ ในเรื่องนี้อยู่ในใจกันแล้วทั้งนั้น
ดังนั้น ไม่ต้องกล่าวโทษ กล่าวตำหนิใคร !
เพียงแต่……
ใครมีหน้าที่ “โดยตรง” ทางไหน อย่างไร จงทำหน้าที่แห่งตน เป็นบทพิสูจน์ประสิทธิภาพให้ประจักษ์
ในชาตินี้ ไม่ใช่ชาติหน้า !
มันมีผลทางบริหารและปกครองมาก ไม่เชื่อถามฉ้อ ถามตี๋ ถามออง ตวน ถามนางชะนี และไอ้สุนัข ดูก็ได้ว่าจริงมั้ย ?
ในเมื่อ ๑๕ ชรบ. ลำพะยา “ด้วยมือเปล่า”
กลับต้องด่าวดิ้น เลือดไทยพุทธ-ไทยมุสลิม ไหลรินรวมกัน ในความหมายเทิดพิทักษ์สันติสุขสิทธิมนุษยชาติไปวันนี้
แต่อีกเป็นปี ๆ ถึงจะมาบอกว่า………
นี่ไง ไอ้คนนี้ไง เพิ่งได้ตัว เมื่อ ๕ ปีที่แล้ว ๑๐ ปีที่แล้ว มันฆ่า ๑๕ ชรบ. ลำพะยา
ในหนังจีน ก็เรื่องหนึ่ง ร้อยปียังไม่สาย
แต่ในชีวิตจริง ผู้รักษากฎหมาย ผู้รักษากติกาบ้านเมือง เกินเดือน-เกินปี กับการตามจับคนร้ายมาลงโทษ
แบบนี้ มีแค่ธูป-เทียนบนบาน “ถูกกว่า” มีงบประมาณจ้างคนสวมเครื่องแบบ !
อย่าให้ชาวบ้านคั้นกะทิรอเนื้อนานนัก
รอข้ามคืน-ข้ามวัน เนื้อที่จะแกงก็ยังไม่มีมา สาดทิ้งให้หมา หมาก็ไม่กินกะทิบูด
แต่พวกแก้ทุกมาตรา บอกว่า… เข้าทางกู !