เทรนด์ใหม่กินอร่อยได้แบบไม่รู้สึกผิดแถมห่างไกลโรค

15 Nov 2019

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

ข้อมูลล่าสุดขององค์การอนามัยโลกเผย ปัจจุบันคนไทยป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs (Non-communicable Diseases) กว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ หรือเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากร ซึ่งอัตราการเสียชีวิตจากโรค NCDs ในไทยสูงถึงประมาณ 300,000 คนต่อปี หากเทียบเป็นชั่วโมงเท่ากับมีผู้เสียชีวิตตกชั่วโมงละประมาณ 34 คนเลยทีเดียว

พฤติกรรมการกินเป็นปัจจัยสำคัญที่ต่อการรักษาสุขภาพ ยิ่งเรากินอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงหรือสารให้ความหวานสังเคราะห์มากจนเกินไป อาจก่อให้เกิดโรคตามมามากมาย เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน เป็นต้น ซึ่งหากเราใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากขึ้นก็จะส่งผลดีทั้งต่อตัวเราเองและคนใกล้ชิดให้สามารถลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้

ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการขึ้นทะเบียนให้สามารถใช้สารสตีวิโอไซด์เพื่อการบริโภคแทนน้ำตาลได้ เพราะมีความปลอดภัยสูง มีพิษเฉียบพลันต่ำ ไม่เป็นอันตรายหรือมีผลข้างเคียงใดใด และที่สำคัญหญ้าหวานยังจัดให้อยู่ในหมวดพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งอีกด้วย

หญ้าหวานมีฤทธิ์ในการออกรสหวานของสารสตีวิโอไซด์จะไม่เหมือนกับน้ำตาลซะทีเดียว เนื่องจากสารสตีวิโอไซด์จะออกรสหวานช้ากว่าน้ำตาลทรายเล็กน้อย และรสหวานของสารสตีวิโอไซด์จะจางหายไปช้ากว่าน้ำตาลทราย นอกจากนี้สารดังกล่าวยังเป็นสารที่ไม่มีคุณค่าทางอาหารแต่อย่างใดเพราะมีแคลอรีต่ำมากหรือไม่มีเลย และจะไม่ถูกย่อยให้เกิดเป็นพลังงานกับร่างกาย แต่จากข้อด้อยตรงนี้นี่เองก็ถือเป็นจุดเด่นที่เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิต โรคอ้วน และโรคหัวใจ

ธัญยธรณ์ โสดากุล หรือพีท ซีอีโอ จาก บริษัท บุญถึง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย HAPe Stevia หญ้าหวาน กล่าวถึงแรงบันดาลใจการทำธุรกิจแบรนด์แฮปปี้ว่า เกิดจาการที่พ่อป่วยเป็นเบาหวาน แล้วภายในบ้านทะเลาะกันบ่อยเรื่องของการทานอาหาร เนื่องมาจากอยากให้พ่อสุขภาพดีไม่อยากให้กินอะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ประกอบกับพ่อกินยามานานเป็น 10 ปีแล้ว จึงอยากให้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ได้ โดยกินยาควบคู่กับการปรับพฤติกรรมเชื่อว่าจะช่วยให้หายจากโรคได้ โดยในไทยมีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 4 ล้านคน ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นเบาหวานอีกกว่า 7 ล้านคน ไม่ได้อยากช่วยเพียงพ่อแต่หากเราสามารถช่วยผู้อื่น รวมถึงลดอัตราการการเกิดผู้ป่วยเบาหวานมันจะเป็นการช่วยคนได้มหาศาล แถมยังเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร และกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งด้วย

นอกจากนี้พีทยังตั้งเป้าไว้ภายใน 5 ปี หวังให้อัตราการป่วยเป็นโรคเบาหวานของคนไทยในปี 2567 จะลดเหลือเพียง 10,000 คนต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 12,000 คนต่อปี โดยปัจจุบันแฮปปี้มีพันธมิตรร้านอาหาร ร้านค้าอยู่ 100 ร้านด้วยกัน ซึ่งบางร้านหันมาใช้หญ้าหวานทดแทนน้ำตาล 100 เปอร์เซ็นต์ บางร้านยังจำเป็นต้องใช้น้ำตาลอยู่แต่ใช้น้ำตาลลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นสัญญาณที่ดีมาก ซึ่งสิ่งสำคัญหลักคือความต้องการลดอัตราน้ำตาลที่ไม่จำเป็นในอาหารออกเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า โดยแต่ละร้านจะมีตราสัญลักษณ์อยู่เป็นบางเมนู ให้ลูกค้าได้มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น แฮปปี้ตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2563 จะสร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรมอาหารทั่วประเทศเพิ่มอีก 300 ราย และตอนนี้มีข่าวดีสำหรับคนชอบทานชานมไข่มุกด้วย โดยมีร้านชานมไข่มุกที่ตอบรับเข้าร่วมแล้ว 5-6 ร้าน ซึ่มีร้านที่เป็นเฟรนไชน์จากต่างประเทศด้วย

การเลือกใช้วัตถุดิบเป็นขั้นตอนสำคัญ แฮปปี้ดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก เพราะแต่ละสายพันธุ์จะให้รสชาติที่ต่างกัน อุณหภูมิการปลูกก็ทำให้รสชาติเปลี่ยน ควบคุมการสกัดเพื่อลดความขมเฝื่อนออกไปให้ได้มากที่สุด ซึ่งด้านข้างขวดของแฮปปี้จะมีการบอกไว้ว่าเจือจางน้ำบริสุทธ์ด้วย เพราะหากไม่เจือจางจะหวานมาก

ซีอีโอจากแฮปปี้ ยอมรับว่ายังมีข้อเสียของหญ้าหวานอยู่ คือ เรื่องรสชาติที่ยังคงไม่เหมือนน้ำตาล 100 เปอร์เซ็นต์ แต่รสชาติดีกว่าหญ้าหวานแบบเก่าขึ้นมาก หญ้าหวาน 1 หยด เทียบเท่ากับน้ำตาล 1 กรัม 6 หยดเทียบเท่ากับน้ำตาล 2 ช้อนชา ซึ่งทำให้สามารถลดแคลอรี่จากการเปลี่ยนมาบริโภคหญ้าหวานแทนน้ำตาลได้ถึง 60 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยยืนยันว่า หญ้าหวานจะเป็นผลเสียต่อร่างกายเมื่อต้องบริโภคเป็นเครื่องดื่มมากกว่า 80 แก้วต่อวัน หญ้าหวานเป็นสิ่งที่มาจากธรรมชาติ ไม่ผสมสารให้ความหวานสังเคราะห์ หญ้าหวานจึงไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีผลกระทบต่อการหลั่งของอินซูลินเหมือนสารให้ความหวานสังเคราะห์ตัวอื่นๆ ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ดีในแง่สุขภาพให้แก่ผู้บริโภค

เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่ใช้ HAPe Stevia เป็นวัตถุดิบให้ความหวาน สามารถหาทานได้ที่พันธมิตรร้านอาหารและร้านค้าเพื่อสุขภาพชั้นนำกว่า 2,000 สาขาทั่วไทย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hapeofficial เตรียมตัวปฏิวัติความอร่อย กินอร่อยแบบแฮปปี้ กันได้ในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ ณ ลาน EDEN ชั้น 1 ห้าง CentralWorld