ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
เมื่อพูดถึงหนังที่ออกฉายในช่วงคริสต์มาสส่วนใหญ่เรามักจะนึกถึงเรื่องราวความสนุกสนาน แต่ก็จะมีตัวละครบางตัวที่ตกอยู่ในสถานการณ์แย่ๆ ในช่วงเวลาแห่งความสุขและคุณเป็นคนหนึ่งที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้หรือเปล่า ?
ครั้งนี้ alive อยากจะแนะนำตัวละครในหนังที่เจอแต่เรื่อง “คิดมาก” ในวัน “คริสต์มาส” กัน
โทนี่ สตาร์ก (Iron Man 3 )
โทนี่ สตาร์ก น่าจะเป็นฮีโร่ในจักรวาลมาร์เวลตัวหนึ่งที่ดวงซวย อาจจะเป็นเพราะชะตาลิขิต หรือเป็นเพราะฝีปากกล้าของตัวเอง อันนี้ก็ไม่แน่ใจ แต่ใน Iron Man ภาค 3 โทนี่ของเรา แทนที่จะได้ฉลองคริสต์มาสกับคุณพอร์ต 2 ต่อ 2 แต่ต้องมาพบกับการโดนกลุ่มผู้ก่อการร้ายในนามว่า “เทน ริงค์” ที่มีผู้นำอย่าง “แมนดาริน” (ซึ่งในหนังก็เฉลยว่าไม่ใช่แมนดารินตัวจริง เป็นแค่นักแสดง) มาถล่มบ้านตัวเองครั้งใหญ่จนแทบจะไม่เหลือซาก เนื่องจาก โทนี่ ได้ไปท้าทายผู้ก่อการร้ายทางทีวีเอาไว้ แถมบอกที่อยู่บ้านไว้ด้วย กลุ่มก่อการร้าย “เทนริงค์” เลยจัดของขวัญคริสต์มาสให้โทนี่แบบเต็มๆ สรุปได้ว่า โทนี่ซวยเพราะปากแน่นอน
เควิน แม็กคาลลิสเตอร์ (Home Alone)
เควิน เด็กน้อยในครอบครัว แม็กคาลลิสเตอร์ ที่ถูกพ่อแม่และลูกพี่ลูกน้องไม่แยแสเพราะความเป็นน้องเล็ก เลยถูกมองว่าเป็นตัวปัญหาของที่บ้าน และในวันนั้น เควินดันถูกทิ้งให้อยู่ในบ้านโดยไม่มีใครรู้ เนื่องจากทุกคนต่างรีบไปขึ้นเครื่องเพื่อไปฉลองคริสต์มาสที่ต่างประเทศ แต่แล้ว แทนที่เควินจะร้องไห้ งอแง กลับใช้เวลานี้ตกแต่งบ้าน ให้เหมือนว่าโลกนี้เป็นของเควิน แต่แล้วจู่ๆก็มีโจรกระจอก 2 คน พยายามที่จะเข้ามาปล้นบ้านของเควิน เควินจึงหาอะไรเล่นสนุกๆ โดยการใช้สิ่งของในการหลอกล่อและกำจัดโจร 2 คนนั้นได้อย่างเหลือเชื่อ (น้องอาจจะดูเจมส์ บอนด์ 007 มากไปหรือเปล่า เก่งเกินไปนะ)
โต้ง - มิว (รักแห่งสยาม)
โต้งและมิวเป็นเพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งผ่านไปแล้วหลายปี เขาทั้งคู่กลับมาเจอกันอีกครั้ง และทั้งสองก็มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน (มากกว่าเพื่อน) แต่แล้วความรักของโต้งและมิวมันก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะสุรี แม่ของโต้งไม่ให้โต้งไปเจอมิวอีก สุรีรับไม่ได้ที่โต้งจะไปรักกับคนเพศเดียวกัน ในวันคริสต์มาสอีฟ โต้งมาดูคอนเสิร์ตที่มิวแสดงที่สยาม โต้งได้ให้ของขวัญคริสต์มาสกับมิว มันคือชิ้นส่วนชิ้นสุดท้ายของตุ๊กตา ที่โต้งเคยให้กับมิวไว้ในตอนยังเด็ก มิวรู้สึกตื้นตันใจกับของขวัญที่โต้งให้ ถึงแม้ว่าความรักที่มิวต้องการอาจจะไม่ได้เป็นดั่งที่หวัง
Sleepless in Seattle
แซม ชายวัยกลางคนที่พึ่งสูญเสียคนที่รักไป ถึงขั้นย้ายที่อยู่และย้ายงานมาที่ซีแอตเทิล เพื่ออยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่มันก็ทำไม่ได้ มีอาการเหมือนคนไม่มีความสุข เบื่อหน่าย ไม่เปิดใจให้ใคร เหมือนชายผู้อมทุกข์อยู่ตลอดเวลา โจนาส ลูกชายของเขา คงทนเห็นพ่อเป็นแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป ในคืนวันคริสต์มาสอีฟ โจนาสได้โทรเข้าไปในรายการวิทยุเกี่ยวกับปัญหาความรัก (อารมณ์คล้ายๆ Club Friday ใน Green Wave 106.5 เลยจ้า) เพื่อประกาศหาคู่ให้กับพ่อของเขา ซึ่งแซมเองก็รู้ว่า โจนาสได้โทรเข้าไปในรายการ แซมจึงยอมพูดคุยกับดีเจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต แต่หารู้ไม่ว่า ยังมีแอนนี่ สาววัยทำงานคนหนึ่งของอีกฟากในอเมริกา ได้ฟังรายการนี้แล้วตกหลุมรักแซม แม้ว่า เขาจะไม่ได้เจอกันเลย และเรื่องราวของแซม ก็เป็นที่พูดถึงของคนอเมริกาในคืนวันคริสต์มาส กลายเป็นหนุ่มฮ๊อตไปซะแล้ว
Catch me if you can
คาร์ล แฮนแรตตี้ เจ้าหน้าที่ FBI กำลังตามจับ แฟรงค์ อเบกเนล นักต้มตุ๋นอายุยังน้อยที่เป็นอัจฉริยะระดับเทพในการปลอมเช็คไปทั่วประเทศ แฟรงค์มีความสามารถใช้วาจาในการสนทนาเพื่อหลอกล่อผู้คนและเบี่ยงเบนความสนใจ แถมยังสามารถตีเนียนเข้าไปประกอบอาชีพต่างๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความรู้พื้นฐานมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น หมอ ทนาย นักบิน อาจารย์ในมหาวิทยาลัย (อิหยังวะ) ซึ่งการเจอกันครั้งแรกของแฟรงค์กับคาร์ล แฟรงค์ก็สามารถสับขาหลอกคาร์ลจนลอยนวล คาร์ลใช้เวลาหลายปีตามจับแฟรงค์ แต่แล้วด้วยชะตาลิขิต (ใช้คำเป็นหนังรักเลยนะ) แฟรงค์ยังติดต่อกลับมาหาคาร์ลได้ในวันคริสต์มาสของทุกๆ ปี ไม่ใช่ในแง่ในการยอมจำนน แต่โทรมาเพราะแฟรงค์ไม่มีใคร แม่ก็มีครอบครัวใหม่ ส่วนพ่อก็ติดต่อมานานๆ ที เพราะกลัวทาง FBI จะแกะรอยตนได้ แต่แล้วคาร์ลก็สามารถจับแฟรงค์ได้ที่ฝรั่งเศส แถมเป็นวันคริสต์มาสด้วย (บังเอิญอีกแล้ว)
ทั้งหมดนี้คือ ตัวละครในหนัง ที่เจอแต่เรื่องคิดม๊าก คิดมาก ในวันคริสต์มาส ไม่ว่าคุณผู้อ่านจะตกอยู่ในสถานการณ์อะไรก็แล้วแต่ ผู้เขียนก็ขอให้ผู้อ่านมีความสุขในวันคริสต์มาสนี้และตลอดไป Merry Christmas & happy New Year 2020 : )