svasdssvasds

พยัคฆ์ไพรตรวจซิบไลน์ "รุกป่าเขากมลา"  

พยัคฆ์ไพรตรวจซิบไลน์ "รุกป่าเขากมลา"  

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

วันที่ 4-7-60-กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำชุดพิเศษที่เรียกว่า ทีมพยัคฆ์ไพรลงพื้นที่จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตามนโยบายทวงคืนผืนป่า โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจซิปไลน์ที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ ซึ่งพบว่าบุกรุกพื้นที่ป่า 

พยัคฆ์ไพรตรวจซิบไลน์ "รุกป่าเขากมลา"  

 

ทีมชุดพยัคฆ์ไพรลงพื้นที่ตรวจสอบบังคับใช้กฎหมายจ.ภูเก็ต   โดยนายชลทิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เน้นการตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวโหนสลิงหรือซิปไลน์ ที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน เนื่องจากเป็นการยึดครองพื้นที่และใช้ประโยชน์โดยมิชอบ ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงได้ดำเนินการตามขั้นตอนให้มีการแจ้งเตือน ขอให้ผู้ครอบครองรายงานตัว ดังนั้นผู้ที่กระทำผิดกฎหมายจึงต้องดำเนินคดีตามคำสั่ง คสช. ที่ 64 และ 66 

 

 

พยัคฆ์ไพรตรวจซิบไลน์ "รุกป่าเขากมลา"  

  

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร ได้เดินทางไปบริเวณที่มีการรายงานว่ามีการประกอบธุรกิจซิปไลน์ผิดกฎหมาย โดยพบสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เช่น สะพานไม้ ลวดสลิง และพบชายคนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่ออ้างว่าเป็นผู้เช่าพื้นที่จากอดีตผู้ว่าฯภูเก็ต จำนวน 30 ไร่ 30 ปี ด้วยอัตราค่าเช่าที่ 120,000 บาทต่อเดือน เพื่อก่อสร้างซิปไลน์สำหรับนักท่องเที่ยว โดยมีหลักฐานเป็นเอกสารสัญญาเช่า และไม่ทราบว่าการดำเนินการต่างๆ ผิดกฎหมาย เพราะขณะที่เช่านั้น เจ้าของที่ยืนยันว่ามีใบแจ้งครอบครองที่ดิน(สค.1) ทั้งนี้ ชายดังกล่าวยังเป็นเจ้าของเดียวกับธุรกิจซิปไลน์ในจ.เชียงใหม่ ที่กรมป่าไม้มีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เมื่อต้นปี 2560 ด้วย  

 

พยัคฆ์ไพรตรวจซิบไลน์ "รุกป่าเขากมลา"  

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ยังคงยืนยันว่า จะต้องทำดำเนินการตามกฎหมายเพราะเป็นการใช้ประโยชน์โดยมิชอบ จึงขอให้ลงบันทึกประจำวัน และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออก และหากไม่ดำเนินการจะให้เจ้าหน้าที่มารื้อออกด้วยตนเอง ซึ่งชายคนดังกล่าวระบุว่ายินดีทำตาม แต่ขอเวลาในการรื้อถอน 2-3 เดือน  

 

พยัคฆ์ไพรตรวจซิบไลน์ "รุกป่าเขากมลา"  

   

ขณะเดียวกันทีมพยัคฆ์ไพรได้ลงพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิดที่มีการร้องเรียนว่า มีการออกโฉนดที่ดินกว่า 20 ไร่ แต่เมื่อเดินทางถึงพื้นที่กลับไม่พบบุคคลที่แสดงตัวเป็นเจ้าของพื้นที่แต่อย่างใด 

 

พยัคฆ์ไพรตรวจซิบไลน์ "รุกป่าเขากมลา"  

นายชีวะภาพ กล่าวว่า พื้นที่บริเวณนี้มีความผิดชัดเจนในการออกโฉนดโดยมิชอบ ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมทำผิด ซึ่งขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและเตรียมลงโทษทางวินัยแล้วซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องรีบเข้าตรวจค้นและดำเนินคดี เนื่องจากเป็นพื้นที่มูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านบาท และหากปล่อยไว้ที่ดินอาจถูกเปลี่ยนมือและขายต่อให้ชาวต่างชาติที่ไม่เข้าใจเรื่องเอกสารสิทธิหรือกฎหมายไทยและนำไปพัฒนาต่อ จนพื้นที่ป่าหมดไป  

 

พยัคฆ์ไพรตรวจซิบไลน์ "รุกป่าเขากมลา"  

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของพื้นที่จะต้องดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่และกรมป่าไม้จะฟ้องร้องต่อศาลให้เพิกถอนโฉนดที่ได้มามิชอบ ตามมาตรา 61 ของพ.ร.บ.ที่ดินต่อไป

 

พยัคฆ์ไพรตรวจซิบไลน์ "รุกป่าเขากมลา"    

นายชีวะภาพ กล่าวอีกว่านอกจากที่ดินแปลงนี้แล้วยังมีที่ดินอีกกว่า 100 ไร่ ที่มีความผิดลักษณะเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเตรียมตั้งชุดเฉพาะกิจทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสารสิทธิ ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันทั้ง กรมป่าไม้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ )ฝ่ายปกครอง ที่จะเน้นการทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ปลูกยางพาราในเขตต้นน้ำลำธาร

related