svasdssvasds

CPTPP คืออะไร ทำไมต้องสนใจและทำไมไทยไม่ควรเข้าร่วม

CPTPP คืออะไร ทำไมต้องสนใจและทำไมไทยไม่ควรเข้าร่วม

มาทำความรู้จัก CPTPP คืออะไร ประเทศไทยเกี่ยวข้องอะไร ถ้าประเทศไทยเข้าร่วมจริงๆ ใครจะได้ประโยชน์และเสียประโยชน์

CPTPP คืออะไร เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนกำลังสงสัยและสนใจ หลังจากที่หลายภาคส่วนได้ออกมาวิพารณ์ถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลได้เตรียมอนุมัติลงนาม ข้อตกลงความเข้าใจและความคืบหน้าเพื่อหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก หรือ CPTPP

 

CPTPP หรือ Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership หรือที่รู้จักว่า ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก โดยเป็นความตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมเรื่องการค้า การบริการ และการลงทุน เพื่อสร้างมาตรฐานและกฎระเบียบร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกทั้ง 11 ประเทศ ที่ครอบคลุมทั้งการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานแรงงาน กฎหมายสิ่งแวดล้อม รวมถึงกลไกแก้ไขข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลและนักลงทุนต่างชาติ

ความตกลงนี้ริเริ่มกันมาตั้งแต่ปี 2006 มีชื่อเดิมว่า TPP (Trans-Pacific Partnership) และเดิมมีสมาชิกทั้งหมด 12 ประเทศ แต่หลังจากสหรัฐฯ หัวเรือใหญ่ถอนตัวออกไปเมื่อต้นปี 2017 ประเทศสมาชิกที่เหลือก็ตัดสินใจเดินหน้าความตกลงต่อโดยใช้ชื่อใหม่ว่า CPTPP

ปัจจุบัน สมาชิก CPTPP มีทั้งหมด 11 ประเทศ คือ

ญี่ปุ่น, แคนาดา, เม็กซิโก, เปรู, ชิลี, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สิงคโปร์, มาเลเซีย, บรูไน และเวียดนาม

CPTPP คืออะไร ทำไมต้องสนใจและทำไมไทยไม่ควรเข้าร่วม

 

CPTPP ต่างจาก TPP อย่างไร

อยู่ที่ขนาดของเศรษฐกิจและการค้าที่เล็กลง แต่มีกฎเกณฑ์ที่ผ่อนคลายมากขึ้น มีรายงานจากธนาคารโลกระบุว่า ขนาดเศรษฐกิจรวมของ CPTPP หลังไม่มีสหรัฐฯ ลดจาก 38% ของเศรษฐกิจโลก เป็น 13% ส่วนขนาดการค้ารวมลดลงจาก 27% เป็น 15%

ขณะที่รายละเอียดในกฎหมายบางข้อถูกระงับไป อาทิ ข้อบัญญัติ (provision) 22 ข้อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเด็นที่สหรัฐฯ สนับสนุนมาก แต่ไม่เป็นประโยชน์กับประเทศสมาชิกอื่นๆ เท่าไหร่ ตัวอย่างเช่น การคุ้มครองอุตสาหกรรมยา การขยายระยะเวลาคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาจาก 50 ปีเป็น 70 ปี และการให้สิทธินักลงทุนฟ้องร้องรัฐบาลในบางกรณีที่นโยบายรัฐส่งผลลบต่อธุรกิจ เป็นต้น

 

โดยสรุปแล้ว CPTPP ก็คือ TPP ที่ไม่มีสหรัฐฯ มีขนาดเศรษฐกิจและการค้าเล็กลง แต่มีกฎเกณฑ์ที่ผ่อนคลายมากขึ้น

  1. CPTPP คืออะไร ทำไมต้องสนใจและทำไมไทยไม่ควรเข้าร่วม

จากการที่ประเทศไทยพึงพิงการส่งออก-นำเข้าเป็นหนึ่งในเสาหลักเศรษฐกิจโดยมีมูลค่าสูงถึง 123% ของ GDP ทำให้ปัจจัยเกื้อหนุนของไทยจาก CPTPP นั้นสามารถแบ่งออกเป็น 3 เรื่องดังนี้

การส่งออก : CPTPP จะเพิ่มโอกาสการส่งออกของไทยไปยังประเทศสมาชิก CPTPP โดยเฉพาะตลาดแคนาดาและเม็กซิโก ที่ไทยมีสัดส่วนการส่งออกอยู่ราว 2 % เป็นสินค้าจะพวก อาหารทะเลแปรรูป ข้าว ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้สินค้ากลุ่มนี้มีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้น

การลงทุนจากต่างประเทศ : ที่จะการเข้าร่วม CPTPP จะช่วยดึงดูดการลงทุนที่ต้องการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศสมาชิก CPTPP

ความสามารถทางการแข่งขัน : CPTPP จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทย จากการปรับปรุงกฎระเบียบภายในประเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ที่ได้ชื่อว่าเป็นความตกลงทางการค้าคุณภาพสูง

 

CPTPP คืออะไร ทำไมต้องสนใจและทำไมไทยไม่ควรเข้าร่วม

ขณะเดียวกัน ธุรกิจการบริการ และ อุตสาหกรรมการเกษตร 2 ธุรกิจของไทยขะได้รับผลกระทบจากการเข้าร่วม CPTPP

1. ธุรกิจบริการ สำหรับภาคบริการ CPTPP ใช้เงื่อนไขการเจรจาแบบการระบุรายการที่ไม่เปิดเสรี หมายความว่าประเทศสมาชิกสามารถระบุหมวดธุรกิจบริการที่ไม่ต้องการเปิดเสรีได้ ส่วนที่หมวดธุรกิจบริการอื่นๆ ที่ไม่ได้เลือกไว้ในข้อตกลงจะต้องเปิดเสรีต่อนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด ดังนั้น สำหรับไทยที่เป็นประเทศที่ค่อนข้างปิดในหมวดบริการ การเปิดเสรีนี้อาจทำให้ธุรกิจบริการภายในประเทศเสียประโยชน์ให้นักลงทุนต่างชาติไป

2. อุตสาหกรรมเกษตร จะเผชิญการแข่งขันมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตรจากแคนาดา เช่น ปุ๋ย และถั่วเหลือง ที่จะเข้ามาตีตลาดไทยหลังการเปิดเสรีด้านการค้า นอกจากนี้ CPTPP ยังมีข้อบัญญัติให้ประเทศสมาชิกต้องเข้าร่วมในอนุสัญญาการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ หรือ UPOV (International Union for the Protection of New Varieties of Plants) ที่จะเปิดโอกาสให้ต่างชาติสามารถนำพันธุ์พืชพื้นเมืองไทยไปทำการวิจัยเพื่อสร้างพันธุ์พืชใหม่แล้วจดสิทธิบัตรได้ ข้อนี้ส่งผลเสียต่อเกษตรกรไทยโดยตรง เพราะถ้านำพันธุ์พืชใหม่นี้มาปลูกแล้วจะไม่สามารถเก็บเมล็ดไปปลูกต่อได้เหมือนเมื่อก่อน ต้องซื้อเมล็ดใหม่เท่านั้น ทำให้ต้นทุนการเกษตรยิ่งสูงขึ้น    

 

ข้อมูล scb / กรุงเทพธุรกิจ

เครดิตรูปภาพ pixabay

related