สปริงนิวส์ สัมภาษณ์เปิดใจ คุณศิริธร ธำรงนาวาสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมบัญดารา ออน ซี ระยอง จากกรณีทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ที่ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังไปได้ดี ชะงักงัน มียอดเลื่อนและยกเลิกการเข้าพักสูงถึง 90 %
ช่วงระหว่างที่การป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังเป็นไปอย่างเข้มงวด กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักหนาสาหัสระดับต้นๆ
ต่อมาเมื่อสถานการณ์ภายในประเทศ ไม่มีผู้ติดเชื้ออย่างยาวนาน กระทั่งนำไปสู่การผ่อนปรนต่างๆ และภาครัฐก็ได้ออกแคมเปญ "เราเที่ยวด้วยกัน" เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเริ่มให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.
แต่แล้วธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง ก็ราวถูกฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว หลัง ศบค. แถลงวันที่ 13 ก.ค. ว่า ทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ได้เข้าไปในห้างสรรพสินค้าในจังหวัดระยอง
จากวิกฤตที่เกิดขึ้นกะทันหันอย่างไม่คาดคิดนี้ สปริงนิวส์จึงติดต่อสัมภาษณ์ไปยัง คุณศิริธร ธำรงนาวาสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมบัญดารา ออน ซี ระยอง สอบถามทั้งในส่วนของสถานการณ์ และการรับมือ เพื่อผ่านช่วงเวลาอันหฤโหดนี้ไปให้ได้
คุณศิริธรเริ่มต้นเล่าว่า ก่อนจะเกิดวิกฤตโควิด-19 ระยองเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น
กระทั่งได้รับผลกระทบ ช่วงรัฐออกมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่แนวโน้มก็เริ่มสดใส หลังมีการคลายล็อกธุรกิจต่างๆ เป็นระยะ
“เราต้องปิดโรงแรมในช่วงที่เรียกว่า 'อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ' พอเปิดปุ๊บ ระยองก็ฟื้นตัวเร็วมาก ไม่ใช่แค่โรงแรมบัญดารานะคะ ในโซนบ้านเพทั้งหมด รวมไปถึงในเมือง ช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และ Long Weekends หรือก่อนที่โรงเรียนจะเปิด (1 ก.ค.) ก็มีลูกค้าเยอะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ไม่ต้องพูดถึงเลย เต็มอยู่แล้ว วันธรรมดา 40 - 50 % และพอมีแคมเปญเราเที่ยวด้วยกัน ลูกค้าก็จองห้องพักเยอะมาก พร้อมกับเริ่มมีกรุ๊ปสัมมนาติดต่อขอจองสถานที่ ซึ่งข้อดีอีกอย่างของระยองก็คือ ห้องพักโรงแรมราคาไม่แพง ถ้าเทียบกับที่อื่นๆ ในประเทศไทย ราคาที่นี่ถูกกว่า แต่มีคุณภาพที่ดี”
คุณศิริธรเล่าว่า ทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ประกอบกับมาตรการกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวของรัฐบาลเป็นแรงหนุน ก็ยิ่งทำให้มีการจองห้องพักในโรงแรมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่กำลังจะถึงนี้ เนื่องจากมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน
แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกผันไปอย่างไม่มีใครคาดคิด หลังจากเกิดกรณีทหารอียิปต์ติดโควิด-19 เดินทางเข้ามาในจังหวัด และไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ทำให้ระยองกลายเป็นพื้นที่เสี่ยง และมีการเลื่อน รวมถึงยกเลิกห้องพักเป็นจำนวนมาก
โดยเธอเล่าถึงเหตุการณ์วันที่มีข่าวทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ว่า “โห เรียกว่ากระหน่ำมาก ลูกค้าที่จองห้องพักผ่าน OTA หรือ Agoda ขอแคนเซิลหมดเลย ลูกค้ากลุ่มสัมมนาก็ยกเลิก
“ยอดแคนเซิล มันไม่ได้อยู่แค่ช่วงนี้นะคะ ไปถึงช่วงเดือนสิงหาคม เพราะหลายบริษัทไม่กล้าพาพนักงานมาในพื้นที่ที่เสี่ยง เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า 14 วันต่อจากนี้ จะไม่มีเคสติดโควิด-19 ในระยอง และทุกอย่างจะกลับสู่ปกติ”
หากระบุเป็นตัวเลขอย่างชัดเจน ในส่วนของการเลื่อนกับยกเลิกการจองห้องพักและสัมมนา คุณศิริธรบอกกับสปริงนิวส์ว่า เป็นไปตามกระแสข่าวที่ออกมา นั่นก็คือสูงถึง 90 %
ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างกะทันหัน จากสว่าง ก็กลับกลายเป็นมืดมน จนคำว่าท้อใจ ยังน้อยไป หากพูดถึงความรู้สึกของผู้บริหารและพนักงาน หลังจากทราบข่าวร้าย
“ถ้าถามว่าท้อไหม ก็ร้องไห้กันเลยน่ะค่ะ...”
และเมื่อต้องเจอวิกฤตอีกระลอกอย่างไม่คาดคิด ทางผู้บริหารก็พยายามหาวิธีรับมืออย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้โรงแรมบัญดาราผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้
“พยายามช่วยๆ กันน่ะค่ะ อย่างช่วงที่เราต้องปิดโรงแรมก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีการเลย์ออฟพนักงาน แต่ให้ทำหน้าที่อื่นไปพลาง เช่น คุณทาสีเป็นไหม คุณเลื่อยไม้เป็นไหม คุณทำอะไรได้บ้าง นำสกิลพวกนี้มาใช้ ระหว่างนั้นก็ซ่อมแซมโรงแรมกันไปเรื่อยๆ ผลที่ตามมาก็คือ อย่างน้อยเราก็อยู่ด้วยกันครบทุกคน เป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะอยู่กันมานาน”
ส่วนการเยียวยาจากภาครัฐ ในช่วงวิกฤตรอบแรก ที่ทำให้ผู้ประกอบการหายใจหายคอได้คล่องขึ้น ก็คือการพักชำระหนี้ หรือจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย ส่วนในครั้งนี้ที่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง โดนวิกฤตเข้าอย่างจังๆ คุณศิริธรก็กล่าวว่า หากมีการขยายมาตรการเกี่ยวกับการพักชำระหนี้ ก็น่าจะทำให้ธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ สามารถดำเนินเดินต่อไปได้
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของธุรกิจท่องเที่ยวในระยอง ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ โดยต้นเหตุของวิกฤต เกิดจากความหละหลวมในขั้นตอนการกักกันตัวตามมาตรการที่กำหนด และการขาดจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อส่วนรวมของทหารอียิปต์
ความหวัง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญในเวลานี้ หวังว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อจากเคสนี้ และสถานการณ์จะไม่ลุกลามบานปลาย รวมถึงหวังว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำบทเรียนครั้งนี้ไปปรับปรุงข้อกำหนดต่างๆ ของกลุ่มที่เดินทางเข้าประเทศ ทั้งในแบบปกติและพิเศษ รวมถึงการบังคับใช้ข้อกำหนดต่างๆ อย่างเข้มงวด
เพราะอย่างที่เราเห็นกันอยู่ เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น ผลเสียที่ตามมา มันช่างหนักหนาสาหัสยิ่งนัก