ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
บ้านของ เณรคำ ที่ จ.อุบลราชธานี ยังคงปิดเงียบ ด้าน เพื่อนบ้านในหมู่บ้านคิดว่า เณรคำไม่ได้ทำผิด และการกลับเมืองไทยถือว่าดี เพราะจะได้สู้คดี ทำให้เรื่องราวต่าง ๆ กระจ่างและปรากฏความจริงให้กับสังคมรับรู้
วันที่ 19 ก.ค. 60 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 999/10 บ้านทรายมูล หมู่ 10 ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านบิดาและมารดาของอดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือ หลวงปู่เณรคำ หรือ นายวิรพล สุขผล ก่อนหลบหนีไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนหน้านี้ นายวิรพลได้เดินทางมาเยี่ยมบิดา มารดา และญาติพี่น้องที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ แต่ปรากฏว่าวันนี้ บ้านหลังดังกล่าวยังคงปิดเงียบเหมือนทุกวันที่ผ่านมา
จากการสอบถาม นายคำกร บุญบรรจบ เพื่อนบ้านที่พักอาศัยอยู่ฝั่งตรงข้าม ทราบว่า หลังบิดาและมารดาของเณรคำเสียชีวิต มีเพียงพี่ชายต่างบิดา ชื่อ นายวิจารณ์ พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนี้เพียงคนเดียว โดยตอนกลางวันจะออกไปทำงานและกลับเข้ามาบ้านช่วงค่ำของทุกวัน ส่วนนายสุลิ สุขผล น้องชายบิดาเดียวกันของเณรคำ ปัจจุบันไปอาศัยอยู่ที่บ้านของภรรยาที่ ต.โพธิ์ศรี อ.พิบูลมังสาหาร ไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้เลย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบบริเวณอาคารสูง 2 ชั้น ที่อยู่ติดกับบ้านหลังดังกล่าว และเดิมจะทำเป็นมูลนิธิของเณรคำ เนื้อที่เกือบ 200 ตารางวา ปรากฏถูกทิ้งร้างจนหญ้าขึ้นรกไปหมด โดยไม่มีการทำอะไร หลังเณรคำหลบหนีไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งอายัดตัวอาคารหลังนี้ เพื่อใช้ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่อดีตพระเณรคำ นำเงินจากประชาชนมาสร้างด้วย
ด้าน นายสงัด บรรเทา อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านเณรคำ เปิดเผยว่า ส่วนตัวตนเองรู้สึกดีที่เณรคำกลับมาต่อสู้คดี เรื่องราวต่าง ๆ จะได้กระจ่าง ปรากฏความจริงให้สังคมรับรู้ แต่เรื่องที่พระเณรคำกระทำความผิดนั้น ส่วนตัวแล้ว ตนเองไม่เชื่อว่า พระเณรคำจะประพฤติพฤติกรรมดังกล่าว
สำหรับ เณรคำ ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งข้อกล่าวหาหลังก่อเหตุอื้อฉาวรวม 5 กระทง ประกอบด้วย พรากผู้เยาว์, กระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี, ฉ้อโกงประชาชน, ฟอกเงิน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อนหลบหนีไปอยู่วัดแห่งหนึ่งในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนียร์ สหรัฐอเมริกา ล่าสุด ทางการสหรัฐอเมริกากำลังส่งตัวกลับมาให้ดีเอสไอดำเนินคดีที่ประเทศไทย