svasdssvasds

สรุปให้ NETA ไทยสั่นคลอน : กรรมการหาย ผู้บริหารจีนล่องหน ยอดขายรูด 45.8%

สรุปให้ NETA ไทยสั่นคลอน : กรรมการหาย ผู้บริหารจีนล่องหน ยอดขายรูด 45.8%

กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตามองไม่น้อย กับกรณีที่ NETA เนต้าออโต้ ประเทศไทย มีกรรมการเหลือคนเดียว-ผู้บริหารจีนหนีไปไหนหมด และที่สำคัญ ยอดขายร่วง 45.8% , เรามาร่วมหาคำตอบกัน ที่ละประเด็น

SHORT CUT

  • ผู้บริหารจีนของ NETA Auto ในไทยหายตัว เหลือกรรมการคนไทยเพียงคนเดียวท่ามกลางวิกฤติยอดขายตก 45.8%
  • บริษัทแม่ในจีนเผชิญหนี้มหาศาล ส่งผลให้ลูกในไทยขาดทุนหนัก ปลดคน และลดราคาขายรถ
  • สถานการณ์นี้สะท้อนความเปราะบางของธุรกิจ EV จีนในไทย และอาจเป็นสัญญาณเตือนก่อนล่ม

กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมจับตามองไม่น้อย กับกรณีที่ NETA เนต้าออโต้ ประเทศไทย มีกรรมการเหลือคนเดียว-ผู้บริหารจีนหนีไปไหนหมด และที่สำคัญ ยอดขายร่วง 45.8% , เรามาร่วมหาคำตอบกัน ที่ละประเด็น

ช่วงนี้ใครตามข่าวรถยนต์ไฟฟ้าในไทย คงไม่มีชื่อไหน "ร้อนแรง" เท่า NETA Auto (ประเทศไทย) อีกแล้ว เมื่อจู่ ๆ กรรมการบริษัทเหลือเพียงคนไทยคนเดียว แถมผู้บริหารชาวจีนหายตัวไร้ร่องรอย ทั้งที่บริษัทกำลังเจอวิกฤติยอดขายดิ่งหนักถึง 45.8% แล้วเกิดอะไรขึ้น? ใครหนี ใครรับผิดชอบ? และสถานการณ์นี้บอกอะไรเราบ้าง ? เราแยกเป็น 3 ประเด็นใหญ่ ๆ ชวนคิด 

1. กรรมการหาย เหลือแค่คนไทยคนเดียว 

บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด จดทะเบียนตั้งแต่ ธ.ค. 2564 โดยมีผู้บริหารจีนเป็นกรรมการหลัก
แต่เมื่อ พ.ค. 2568 จู่ ๆ รายชื่อกรรมการก็เปลี่ยน เหลือเพียง “นางสาวสรินยา ศรีไทย” พนักงานตำแหน่ง Sale Operation Specialist เป็นกรรมการคนเดียว

ที่สำคัญ เธอถึงกับเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ ว่าเธอเข้าใจว่าจะมีกรรมการร่วมกัน 2 คน แต่กลับกลายเป็นว่าเธอ “อยู่คนเดียว” บนเอกสารทั้งหมด

เคสแบบนี้ ตั้งข้อสังเกตว่า “ผิดวิสัย” ธุรกิจจีนที่จะยอมให้ชาวต่างชาติลุยเดี่ยว ถืออำนาจลงนามบริษัทแต่เพียงผู้เดียว

ทั้งนี้ การที่ผู้บริหารจีนถอนตัวออกพร้อมกัน แถมทิ้งกรรมการไว้เพียงคนเดียว สะท้อนภาวะ “หนีหรือถอย?” จากปัญหาที่กำลังก่อตัวใหญ่โต

สรุปให้ -  NETA ไทยสั่นคลอน: กรรมการหาย ผู้บริหารจีนล่องหน ยอดขายรูด 45.8% Credit ภาพ Facebook NETA  Auto Thailand

2. ผู้บริหารจีนหายเกลี้ยง: ตำแหน่งเหลือ แต่คนไม่อยู่ 

นาย ซูน เปาหลง อดีตกรรมการผู้มีอำนาจ กลับลาออกจากตำแหน่งในเดือนเดียวกับที่เปลี่ยนชื่อกรรมการ แม้ยังดำรงตำแหน่ง “ผู้จัดการทั่วไป”

ยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้บริหารคนอื่น ๆ อยู่ที่ไหน และยังมีบทบาทกับไทยอยู่หรือไม่

คำถามที่คาใจ : การที่ผู้บริหารระดับสูงชาวจีนหายไปหมด โดยปล่อยให้พนักงานคนไทยเป็นกรรมการเพียงคนเดียว — เป็นการ “วางมือแบบตั้งใจ” หรือแค่ “เอาตัวรอดก่อน”?

เบื้องหลังวิกฤติ: บริษัทแม่หนี้ท่วม – ลูกในไทยสะเทือนทั้งระบบ

Hozon Auto บริษัทแม่ที่จีน กำลังเผชิญหนี้สินกว่า 100,000 ล้านหยวน (ประมาณ 4 แสนล้านบาท)  - เกิดการลดเงินเดือน ปลดพนักงาน และค้างหนี้ซัพพลายเออร์

• ในไทยเอง NETA มียอดขายรถ EV ลดลงถึง 45.8% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2567
• ขาดทุนสะสม ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 1,882 ล้านบาท
• โรงงาน BGAC ที่ประกอบรถ NETA เตรียมปลดพนักงานถึง 400 คน
• ดีลเลอร์บางแห่งลดราคา NETA V-II เหลือเพียง 399,000 บาท โดยมีข่าวลือว่าเป็นการ “จ่ายหนี้เป็นรถ” แทนเงินสด
• สำนักงานที่ RSU Tower กำลังจะหมดสัญญาเช่า มิ.ย. 2568 และอาจไม่มีการต่อสัญญาแล้ว

ทั้งบริษัทแม่และลูกในไทยกำลังตกอยู่ในภาวะ “ชักไม่ไหว” การถอนตัวของผู้บริหารอาจเป็นสัญญาณให้จับตา ว่านี่อาจไม่ใช่แค่การจัดโครงสร้าง แต่คือ “สัญญาณเตือนก่อนล่ม”

เมื่อ EV ไม่ได้แปลว่าขับเคลื่อนไปข้างหน้าเสมอไป

เรื่องของ NETA Auto เป็นมากกว่าข่าวรถขายไม่ดี เพราะมันสะท้อนปัญหาโครงสร้าง การบริหารข้ามชาติ ความเสี่ยงของดีลเลอร์ในไทย และอนาคตของอุตสาหกรรม EV จากจีน

ที่มา : thansettakij 

related